ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
การกลับมาของนายโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากชนะเลือกตั้งประชาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในต้นเดือนม.ค. 68 หรือ บางคนเรียกว่า Trump 2.0 ทำให้มีการคาดการณ์ไปข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจที่ทรัมป์ประกาศว่าจะเป็น “ยุคทองของอเมริกา” (Golden Age of America)
ความไม่แน่นอนจากการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการค้าโลกอย่างมีนัยส่าคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกระดับความเข้มข้นของมาตรการกีดกันทางการค้าและการลงทุนทั้งต่อจีนและประเทศคู่ค้าอื่น ๆ รวมถึงมาตรการตอบโต้จากประเทศอื่น ๆ โดยเฉพาะจีน ที่จะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่การผลิตโลกและทิศทางการลงทุน
นอกจากนี้ ยังมีแนวทางในการด่าเนินนโยบายเศรษฐกิจอื่น ๆ ที่ส่าคัญ ซึ่งว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เคยประกาศไว้ในช่วงหาเสียง อาทิ มาตรการทางด้านภาษี และมาตรการด้านแรงงาน เป็นต้น
หากมีการด่าเนินมาตรการดังกล่าวจะส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอาจส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อความผันผวนของตลาดการเงินและเศรษฐกิจโลกในภาพรวม โดยดูจากการดำเนินนโยบายของทรัมป์ในสมัยแรก
นโยบายโดนัลด์ ทรัมป์ ยุค “อเมริกาต้องมาก่อน”
นโยบายของทรัมป์ในสมัยแรก ตั้งแต่ปี 2560-63 เริ่มดำเนินนโยบายอเมริกันต้องมาก่อน “America First” และในช่วงปลายสมัยได้เปิด “สงครามการค้า” กับจีนอย่างดุเดือด ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างสองประเทศเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อเศรษฐกิจโลก เนื่องจากโลกในยุคโลกาภิวัฒน์ การค้าการลงทุนเชื่อมโยงกันทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลก ได้ส่งผลกระทบไปทั่ว และธุรกิจจีนเองเริ่มมีการปรับตัวย้ายฐานการลงทุนไปประเทศที่ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการทางภาษีของสหรัฐ
สำหรับ แนวทางนโยบายของ “ทรัมป์ 2.0” อย่างไม่มีความชัดเจนมากนัก นอกจากแนวนโยบายที่ทรัมป์เคยประกาศไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง แต่บรรดานักวิเคราะห์คาดว่ามาตรการที่จะออกมาอาจจะเร็วและเข้มข้นกว่าเดิม ตามนโยบาย “ยุคทองของอเมริกา”
สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้ประมวลนโยบาย “ที่เป็นไปได้” หากทรัมป์เริ่มบริหารประเทศ สรุปได้ดังนี้
คาดการณ์นโยบาย”ยุคทองของอเมริกา”ของ Trump 2.0
ขณะที่สายตาทั่วโลกกำลังจับจ้องไปที่นโยบายของสหรัฐภายใต้ “Trump 2.0” ว่าจะออกมาอย่างไร ซึ่งขณะนี้เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น แต่ก็ช่วยให้เห็นทิศทางได้จากการประกาศไว้ในช่วงหาเสียง โดยทุกอย่างจะมีความชัดเจนหลัง 20 ม.ค. 68 ซึ่งเป็นวันสาบานตนรับตำแหน่ง และการกลับมาในครั้งนี้ คาดว่านโยบายที่พยายามทวงคืนความยิ่งใหญ่ของอเมริกาจะ “เร็วและแรง”
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง:
จับตาสงครามการค้ารอบใหม่ หลังเลือกตั้งสหรัฐฯ
นโยบายทรัมป์เริ่มออกฤทธิ์ปี’68 กระทบหนักปี’69
ที่มา: ภาวะเศรษฐกิจไทย ไตรมาสที่สาม ปี 2567 และแนวโน้มปี 2567-2568
