ThaiPBS Logo

จาก”ทับลานโมเดล” สู่ “เขาใหญ่” กลืนป่ามรดกโลก

4 มี.ค. 256715:37 น.
จาก”ทับลานโมเดล” สู่ “เขาใหญ่” กลืนป่ามรดกโลก
  • ปี 60 เริ่มจับกุมคนบุกรุกอุทยานแห่งชาติทับลานกว่า 900 ไร่
  • ผู้กระทำผิดอ้างได้สิทธิ์ ส.ป.ก. ก่อนพบพิรุธว่ามีการวางผังออกนอกเขตปฏิรูปที่ดิน
  • ระหว่างการต่อสู้คดี ส.ป.ก.ออกเอกสารสิทธิ์ทับพื้นที่พิพาท นำไปสู่การฟ้องร้องเจ้าหน้าที่อุทยานฯ
  • 25 ม.ค. 67 คณะกรรมการอุทยาน รับรองผลมติ ครม. กรณีข้อเสนอส่งมอบพื้นที่อุทยานฯทับลาน ให้ ส.ป.ก.
  • มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ค้านมติของคณะกรรมการอุทยาน หวั่นสูญเสียพื้นที่ป่ากว่า 2.6 แสนไร่
ส.ป.ก.ปักหมุดอาณาเขตรุกล้ำพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กลายเป็นปัญหาระดับชาติ เมื่อพื้นที่ป่ากำลังจะเป็นโฉนดที่ดิน นำไปซื้อขายต่อได้หลังถือครองครบ 5 ปี และกรณีนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งแรก แต่เคยเกิดขึ้นมาแล้วบนพื้นที่กว่า 900 ไร่ ในอุทยานแห่งชาติทับลาน

การออกโฉนดที่ดินในพื้นที่เขตของสำนักงานการปฏิรูปที่เดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อนานข้ามปีของไทย โดยเฉพาะการรุกล้ำเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมคนของไทย ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา กรมอุทยานแห่งชาติ ได้พบการบุกรุกเขตอุทยานมาจำนวนหลายครั้ง และผู้กระทำผิดมักอ้างว่าได้รับสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01

แต่ครั้งล่าสุดได้กลายมาเป็นความขัดแย้งของ 2 กระทรวง ระหว่าง กระทรวงทรัพยากรแห่งชาติ กับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลังอุทยานแห่งชาติได้เข้าจับกุมผู้กระทำผิดจำนวน 5 ราย ที่บุกรุกเขตอุทยานฯ บริเวณบ้านเหวปลากั้ง ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งพบพิรุธจำนวนมากในการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. จนทำให้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องหย่าศึกทั้ง 2 กระทรวง และให้กรมแผนที่ทหารลงพื้นที่สำรวจแนวเขตที่ถูกต้อง

ส.ป.ก.รุกอุทยานฯทับลาน 900 ไร่

ปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ไม่ได้เกิดขึ้นที่เขาใหญ่เป็นที่แรก แต่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในพื้นที่อยู่ติดกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ คือ อุทยานแห่งชาติทับลาน

ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เล่าว่า นับตั้งแต่ปี 2560 ได้มีการจับกุมผู้บุกรุกอุทยานแห่งชาติทับลาน แต่พบว่าได้มีการเข้ามาวางผังเขต ส.ป.ก. จำนวนกว่า 900 ไร่ และพบข้อพิรุธว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตปฏิรูปที่ดิน อีกทั้งระหว่างอยู่ในกระบวนการต่อสู้คดี ปรากฎว่าอีก 3 ปี ต่อมา ส.ป.ก. ได้ออกเอกสารสิทธิ์ทับพื้นที่ดังกล่าว

ในการกล่าวหากันนั้นเขาก็เอาเอกสารฉบันนี้ ยื่นต่อพนักงานสอบสวนชั้นอัยการ สุดท้ายพอศาลรับ เขาเอาเอกสาร ส.ป.ก. ฉบับนั้นมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ จากที่เราเป็นโจทก์ เขาเป็นจำเลย วันนี้เราเป็นจำเลย เขาเป็นโจทก์ เจ็บปวดกว่านั้นคือ ขณะที่เราต้องสู้ก็ยังมีลำดับผู้ใหญ่ ยังไปให้กำลังใจอยู่ แต่ในระหว่างที่เราโดนคดี ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้มาดูว่าเราโดนคดียังไง ใครจะไปประกัน ใครจะทำยังไงอะไรต่อ มันไม่ได้ระดับผมไง มันเป็นเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ลูกจ้างประจำ ผู้ช่วยอุทยาน หัวหน้าอุทยานที่ถูกฟ้องกลับ นี่คือความเจ็บปวดที่มันซ้ำในหัวใจของผู้พิทักษ์ป่า

หลังจากนั้นเรื่องปัญหาการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานของ ส.ป.ก. ก็ได้มีการถกเถียงกันมาโดยตลอด และทางคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ได้ปัดตกเรื่องดังกล่าวถึง 2 ครั้ง ทำให้อุทยานแห่งชาติทับลาน รอดพ้นจากการสูญเสียพื้นที่กว่า 2 แสนไร่ ส่วนคดีความต่าง ๆ ที่มีการฟ้องกันก็จบลงด้วยดี

ปัจจุบันได้มีการปรับปรุงกฎหมาย พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ 2562 ให้มีความรัดกุมและให้มีประชาชนมีส่วนรวมมากขึ้น ซึ่งในมาตรา 64 และมาตรา 121 ได้ให้สิทธิ์ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยทำกินบนพื้นที่ป่าอนุรักษ์และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยไม่ผิดกฎหมาย

ไฟเขียวยกที่ดินอุทยานฯทับลาน ให้ ส.ป.ก.

แต่ปัญหาในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติทับลานยังคงไม่จบ เมื่อในการประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา มีมติรับรองกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ เสนอความเห็นเข้ามาที่ ครม. ดังนี้

  1. เห็นชอบแนวทางการใช้เส้นปรับปรุงการสำรวจแนวเขตปี 2543
  2. เห็นชอบในการดำเนินคดีผู้กระทำความผิดให้เป็นไปตามกระบวนยุติธรรม
  3. เห็นชอบให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ และกรมป่าไม้ ส่งมอบพื้นที่ให้ ส.ป.ก.ดำเนินการจัดที่ดินให้ประชาชนอาศัยทำกิน
  4. เห็นชอบให้ภาครัฐ ประกาศหวงห้ามเขตที่ดินของรัฐ ให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ มีส่วนร่วมดำเนินการ

ทั้งนี้ให้ยกเว้น มติ ครม. เมื่อ 30 มิ.ย. 2541 ที่ระบุว่า รัฐจะไม่นำพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมายและป่าอนุรักษ์ตามมติ ครม. ไปปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (จัดสรรที่ดินเพื่อเกษตรกรรม) เฉพาะในกรณีอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งหมายความว่ารัฐจะสามารถนำพื้นที่อุทยานฯทับลาน ไปจัดสรรที่ดินให้กับประชาชนเพื่อทำเกษตรกรรมได้

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ค้านมติอุทยานฯ หวั่นเสียป่าฟรี 2.6 แสนไร่

จากประเด็นดังกล่าว ภาณุเดช เกิดมะลิ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร มองว่า จะทำให้ไทยสูญเสียพื้นที่อนุรักษ์ขนาดใหญ่จากการเพิกถอนเขตอุทยานแห่งชาติทับลานนวน 265,286.58 ไร่ เพื่อส่องมอบให้กับ ส.ป.ก. โดยเฉพาะจุดเชื่อมต่อกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่กำลังจะมีขนาดเล็กลงจากเดิม

มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ออกหนังสือคัดค้านและขอให้ทบทวนมติของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติดังกล่าว เพราะไม่เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์แห่งชาติ 20 ปี ที่กำหนดให้ต้องมีการเพิ่มพื้นที่ป่าธรรมชาติให้ได้ 35% ของพื้นที่ประเทศ และไม่เป็นไปตามนโยบายป่าไม้แห่งชาติที่กำหนดให้ไทยต้องมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ไม่น้อยกว่า 25% ของพื้นที่ประเทศ รวมถึงอาจเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ซึ่งจะกลายเป็นบรรทัดฐานเกิดขึ้นในพื้นที่อนุรักษ์ที่มีปัญหาการทับซ้อนจากการที่มีประชาชนเข้าไปอยู่ในอาศัยในลักษณะเดียวกันนี้ทั่วประเทศ

สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาจากมูลนิธิฯ คือ

กลุ่มที่ 1 พื้นที่ทับซ้อนกับเขตปฏิรูปที่ดิน (กลุ่มคนที่อยู่ในพื้นที่เดิมมาตั้งแต่แรก) โดยภาครัฐควรเข้าไปสำรวจพื้นที่ และหาวิธีให้คนกลุ่มนี้สามารถอยู่อาศัยได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

กลุ่มที่ 2 พื้นที่จัดที่ดินทำกินตามโครงการจัดสรรที่ดินทำกินแก่ราษฎรผู้ยากไร้ (คจก.) ภาครัฐควรเข้าไปจัดการจัดสรรที่ดินให้สามารถอยู่อาศัยและทำกินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงการสร้างระบบสาธารณูปโภค

กลุ่มที่ 3 พื้นที่ที่ไม่ใช่กลุ่ม 1 และกลุ่ม 2 (ของนายทุนหรือบุคคลนอกพื้นที่) ต้องไม่ให้สิทธิ์เป็นพื้นที่ สปก. และดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าตัวอุทยานแห่งชาติทับลานเขาไม่ได้แก้ปัญหา มันมีความพยายามในการแก้ปัญหาโดยตลอด ในเรื่องของการที่จะนำ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ตามมาตรา 64 ในเรื่องของการมีแก้ปัญหาพื้นที่อยู่อาศัยทำกินของประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ มีการสำรวจ มีการดำเนินการแก้ไขปัญหา เพียงแต่ว่ากระบวนการทางกฎหมายมันยังไม่ได้ดำเนินการจนได้ข้อยุติ แต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นมันอยู่ในระหว่างการดำเนินการทั้งสิ้น ซึ่งการที่อยู่ดี ๆ มีมติ ครม.ออกมาว่าให้เพิกถอนพื้นที่ตรงนี้แล้วส่งให้ ส.ป.ก.ทันทีเลยเนี่ย ผมว่ามันค่อนข้างที่จะมีผลกระทบกับตัวพื้นที่อนุรักษ์อย่างชัดเจน

ปรับเกณฑ์จำแนกที่ดินใหม่ กันพื้นที่”ป่าไม้ถาวร”

ห้ามออกส.ป.ก.พื้นที่อุทยาน-ป่าสงวน

สำหรับอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 39 เมื่อวันที่ 23 ส.ค. โดยมีเนื้อที่ประมาณ 1,400,000 ไร่ เป็นอุทยานฯที่มีขนาดใหญ่เป็นลำดับที่ 2 ของประเทศ และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติกลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ จากยูเนสโก ในปี 2548 แต่พื้นที่อุทยานฯ บางส่วนได้ทับซ้อนที่ดินของประชาชนและบางหน่วยงานราชการ จนกลายเป็นประเด็นความขัดแย้งเรื่องสิทธิและที่ดินในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้รัฐบาลหลายยุคหลายสมัยพยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าว และในช่วงต้นทศวรรษ 2540 คณะรัฐมนตรีได้มีมติในวันที่ 22 เม.ย. 2540 ให้ใช้แนวทางปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติ รวมทั้งที่ทับลาน และเป็นที่มาของการรังวัดเตรียมการแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ปี 2543

หลังจากนั้น 1 ปีถัดมา ครม.มีมติยกเลิกแนวทางดังกล่าว และให้ใช้แนวทางพิสูจน์สิทธิในที่ดินแทน ซึ่งได้รับการดำเนินการผ่านนโยบายที่สำคัญฯ รวมทั้งการปรับปรุงกฎหมายต่างๆ มารองรับ รวมทั้งนโยบายที่ดินแห่งชาติของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ก่อนที่ผู้ตรวจการแผ่นดินจะรับเรื่องเรียนจากราษฎร และนำเสนอแนวทางการปรับปรุงแนวเขตอุทยานฯ มาใช้เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาเฉพาะในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานอีกครั้งในปี 2561

ขณะที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และประธาน คทช. ในขณะนั้น ได้ตัดสินใจเชิงนโยบายผ่านมติ ครม.ในวันที่ 2 ก.พ. 2564 รับข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดิน และมีมติเห็นชอบอีกครั้งผ่านการนำเสนอของ คทช. เรื่องผลการดำเนินการปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐ และปรับปรุงแนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ (One map) ที่ให้ดำเนินใช้เส้นปรับปรุงการสำรวจแนวเขตปี พ.ศ. 2543 พื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน จังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดปราจีนบุรี

การปรับแนวเขตดังกล่าว จะส่งผลให้มีการกันพื้นที่ป่าที่มีปัญหาทับซ้อนออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน 265,286.58 ไร่ โดย ส.ป.ก. จะรับไปดำเนินการต่อไป ซึ่งการแก้ไขปัญหาแนวทางนี้ไม่สอดคล้องกับนโยบายและการดำเนินงานที่ผ่านมา และอาจเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนจากการซื้อขายเปลี่ยนมือของที่ดินไปแล้ว และจะกลายเป็นบรรทัดฐานที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่อนุรักษ์อื่นๆ ที่มีปัญหาการทับซ้อนในลักษณะเดียวกันนี้ทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2567 ได้มีการบรรจุมติ ครม. 14 มี.ค. 2566 ว่าด้วยการปรับปรุงแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานตามเส้นรังวัดในปี 2543 เป็นวาระเรื่องเพื่อทราบ ซึ่งถือเป็นการข้ามขั้นตอนการให้ข้อเสนอแนะอย่างละเอียดรอบคอบ ของ คทช. ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562

อย่างไรก็ตามการตัดสินใจเชิงนโยบายครั้งใหม่ และการดำเนินการทางกฎหมาย เพื่อผลักดันข้อเสนอแนวทางการปรับปรุงแนวเขตและกันพื้นที่ป่าออกจากป่าอนุรักษ์ เพื่อแก้ไขปัญหาสิทธิ และที่ดินทับซ้อนในอุทยานแห่งชาติทับลาน และการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ในพื้นที่อนุรักษ์ นำมาสู่การตั้งคำถามจากองค์กรอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สื่อมวลชน และสาธารณชน ถึงความย้อนแย้งทางนโยบายและการปฏิบัติตามกฎหมายของฝ่ายนโยบายและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องตลอดจนความสุ่มเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดการสูญเสียพื้นที่ป่าของประเทศครั้งใหญ่ และความเหลื่อมล้ำในการดำเนินการที่จะซ้ำเติมความขัดแย้งในหมู่ประชาชนและกับรัฐเอง

นโยบายที่เกี่ยวข้อง

ทรัพยากรป่าไม้

นโยบายป่าไม้แห่งชาติ กำหนดให้มีการบริหารจัดการป่าไม้ของประเทศอย่างสมดุล และนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยกำหนดให้มีพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศอย่างน้อยใน 40% ของพื้นที่ประเทศ และให้มีกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5

การจัดการที่ดิน

นโยบายแก้ปัญหากรรมสิทธิ์ที่ดิน เป็นนโยบายด้านเกษตรที่สำคัญของรัฐบาล ควบคู่กับนโยบายเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกร โดยตั้งเป้าหมายให้เกษตรกรทุกครัวเรือนมีที่ดินทำกินอย่างเพียงพอ ด้วยการออกโฉนดที่ดิน 50 ล้านไร่ทั่วประเทศ โดยที่ดินในเขตสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นับเป็นเป้าหมายในนโยบายของรัฐบาล

  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5

ผู้เขียน: