“การสร้างโอกาสในเศรษฐกิจสูงวัย” คือหนึ่งใน 5 ข้อเสนอ นโยบายสาธารณะ ที่ผ่านการรับรองจากงานการประชุมสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 18 ซึ่งจัดโดย สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายยุทธศาสตร์ เมื่อวันที่ 27-28 พ.ย. 68 ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 2 พันคน
ด้วยสังคมไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างรวดเร็ว ขณะที่อัตราการเกิดน้อย ทำให้โครงสร้างประชากรเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ตั้งแต่ปี 2566 มีผู้อายุ 60 ปีจำนวน 20 % และคาดว่าภายในปี 2576 ไทยจะเข้าสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด มีผู้สูงอายุมากกว่า 28 % โดยสัดส่วนวัยแรงงานลดลงเหลือเพียง 58 % และวัยเด็กเหลือ 14 %
ผู้สูงอายุโอกาสสร้างเศรษฐกิจใหม่
สัดส่วนผู้สูงอายุที่เพิ่มมากขึ้น อาจหมายถึงโอกาสของการเกิดเศรษฐกิจใหม่ วรวรรณ พลิคำมิน รองเลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ในฐานะ ประธานคณะทำงานพัฒนาประเด็น วาระ 1 การสร้างโอกาสในเศรษฐกิจสูงวัย ระบุว่า
จำนวนผู้สูงอายุที่มีจำนวนมากขึ้นสามารถขับเคลื่อนการสร้างโอกาสเศรษฐกิจสูงวัยได้ โดยสามารถมองใน 2 ส่วน คือผู้สูงอายุในฐานะผู้บริโภค และผู้สูงอายุในฐานะผู้ผลิต และกำลังแรงงานของประเทศ
หากพิจารณาจากค่าเฉลี่ยอายุผู้สูงอายุอยู่ที่ 70 ปี แต่ค่าเฉลี่ยผู้สูงอายุที่สุขภาพดีอยู่ที่ 67 ปี ทำให้ผู้สูงอายุระหว่าง 60-67 ปี ยังเป็นผู้สูงอายุที่ Active Ageing สามารถทำงานได้
นอกจากนี้จากการวิจัยของทีดีอาร์ไอ พบว่ามีผู้สูงอายุที่เป็นผู้บริโภคสินค้าและบริการจำนวนมาก โดยในปี 66 พบรายจ่ายการบริโภคบริการของผู้สูงอายุสูงถึง 2.18 ล้านล้านบาท และเพิ่มขึ้นในปี 76 เป็น 3.5 ล้านล้านบาท
ขณะเดียวกันหากมองผู้สูงอายุที่ถือเป็นกำลังแรงงานในฐานะผู้ผลิต พบการประมาณการณ์รายได้ผู้สูงอายุที่ยังทำงานปี 66 มากถึง 6.4 ล้านล้าน เพิ่มเป็น 8.8 ล้านล้านบาทในปี 2576
“ รายได้จากการทำงานของผู้สูงอายุอาจจะหมายถึง การทำงานในอาชีพเดิม หรือ การทำงานในลักษณะใหม่ๆ หรือการทำงานในอาชีพที่ 2 ซึ่งผู้สูงอายุยังสามารถสร้างรายได้ และเป็นแรงงานในภาคการผลิตได้”
ความท้าทาย : การสร้างงานผู้สูงอายุ
การสร้างเศรษฐกิจผู้สูงอายุที่เป็นทั้งผู้บริโภค และ ผู้ผลิตสินค้า และบริการ ถือเป็นการสร้างโอกาสใหม่ทางเศรษฐกิจ เนื่องจากช่วงอายุของการทำงาน 55- 60 ปีเข้าสู่ตลาดงานอยู่ที่ 80 % แต่หลังจากอายุ 60 ปี จะลดลงมาเหลือแค่ 50 % เพราะฉะนั้นเป็นส่วนหนึ่งถ้ากำลังแรงงานผู้สูงอายุสามารถกลับเข้ามาสู่ ตลาดแรงงานได้จะถือเป็นกำลังแรงงานให้กับประเทศได้และช่วยให้ผู้สูงอายุมีรายได้ในการดูแลตัวเองได้มากขึ้น
เนื่องจาก รายได้ของผู้สูงอายุส่วนใหญ่ มาจากเบี้ยยังชีพ และมาจากลูกหลาน ส่วนรายได้จากการทำงาน มีไม่มากนัก
“ความท้าทายคือ เราต้องให้ความสำคัญกับการทำให้ผู้สูงอายุกลับมาทำงาน เพื่อจะมีรายได้หลังเกษียณ และสร้างกำลังแรงงานให้ประเทศ ในช่วงเวลาที่มีเด็กเกิดน้อยลงและประชากรวัยทำงานลดลง”
4 ข้อเสนอนโยบาย “สร้างเศรษฐกิจสูงวัย”
การขับเคลื่อนเพื่อสร้างนโยบายสาธารณะ จึงเป็นทางออกในการสร้างเศรษฐกิจสูงวัย โดยที่ประชุมสมัชชาสุขภาแห่งชาติ เสนอ 4 ประเด็นนโยบาย
1 .การสร้างโอกาสและการพัฒนาศักยภาพของผู้สูงอายุให้คงอยู่ในตลาดแรงงาน และมีรายได้เพียงพอ
ทั้งนี้การสร้างโอกาสและพัฒนาศักยภาพของผู้สูงอายุให้คงอยู่ในตลาดแรงงานและมีรายได้เพียงพอ ต้อง การเร่งจัดทำข้อเสนอในการปรับปรุงและบังคับใช้กฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของผู้สูงอายุ เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2541 พ.ร.บ.ผู้สูงงอายุ 2546 พ.ร.บประกันสังคม2533 และเสนอร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองแรงงานอิสระ และ ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองงานไปทำที่บ้าน
- ปรับเงื่อนไขและสร้างแรงจูงใจที่ช่วยส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐ เอกชนื มีการจ้างงานผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น คำนึงถึงศักยภาพที่มีอยู่เดิม และข้อจำกัดหรือสภาพทางร่างกาย เพื่อสนับสนุนให้ผู้สูงอายุอยู่ในตลาดแรงงาน
- ส่งเสริมให้แรงงานผู้สูงอายุสามารถเข้าถึงสิทธิ สวัสดิการ และมาตรฐานการคุ้มครองที่จำเป็นในการประกอบอาชีพได้อย่างต่อเนื่อง
- การสนับสนุนแนวคิดอาชีพที่สอง และสนับสนุนให้ผู้สูงอายุอยู่ในตลาดแรงงาน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุสามารถประกอบอาชีพต่อไปได้ โดย การฝึกอบรม reskill / upskill /newskill ในการพัฒนาทักษะที่จำเป็น และเป็นที่ต้องการของตลาดตั้งแต่ก่อนเข้าสู่สังคมสูงวัย
- การพัฒนาระบบสนับสนุนให้ผู้สูงอายุเข้าถึงตลาดแรงงาน และช่องทางการสร้างรายได้ โดยมุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มกลางในการจับคู่งานสำหรับผู้สูงอายุ ผ่านการสร้างระบบนิเวศการทำงานอย่างครบวงจร ตั้งแต่การประเมินศักยภาพและประสบการณ์ในการทำงาน การพัฒนาและเพิ่มพูนทักษะ การจัดหางานที่เหมาะสม
นอกจากนี้รวมไปถึงการสนับสนุนแหล่งเงินทุนและระบบสนับสนุนที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ ,การส่งเสริมสร้างการรวมกลุ่มอาชีพผู้สูงอายุ และ จัดหาช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการ
2. การผลิตสินค้า และบริการที่เหมาะสมและเป็นธรรมกับผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุในฐานะผู้บริโภค ยังต้องการสินค้าและบริการที่เหมาะสม จึงควรต้องมีการพัฒนากลไกที่ช่วยผู้ประกอบการ เข้าถึงแหล่งทุนที่เหมาะสมเพื่อผลิตสินค้าบริการผู้สูงอายุ และควรขยายสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้ประกอบการที่ผลิตสินึค้าและบริการสำหรับผู้สูงอายุ
นอกจากนี้ควรจะสนับสนุนการวิจัยผลิตภัณฑ์ และบริการสร้างนวัตกรรมสินค้าสำหรับผู้สูงอายุ และต้องสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อห่วงโซ่คุณค่าในการผลิตสินค้า
การลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงสินค้าของผู้สูงอายุ ทั้งเรื่องการกำกับราคา และบริการที่จำเป็น เช่น ยา เวชภัณฑ์ และ บริการดูแลผู้สูงอายุ
3 การสร้างระบบนิเวศที่เหมาะสมและเป็นมิตรต่อผู้สูงอายุ
การสนับสนุนให้หน่วยงานท้องถิ่นเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาระบบนิเวศน์ที่เหมาะสมเป็นมิตรกับผู้สูงอายุ เช่น ข้อเสนอให้ปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานท้องถิ่น มีความยืดหยุ่นในการบริหารงบประมาณ การจ้างบุคลากร โดยเปิดโอกาสให้ อปท. สามารถจัดซื้อบริการให้ผู้สูงอายุบนฐานต้นทุนที่จ่ายได้
การสร้างเครือข่ายในการจัดการบริการและดูแลผู้สูงอายุในชุมชนให้ได้มาตรฐาน และการหาพื้นที่นำร่องต้นแบบเพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจสูงวัย
4. การสื่อส่ารเพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนในเศรษฐกิจสูงวัย
การยกระดับการสื่อสารให้คนทุกช่วงวัย และกลุ่มผู้สูงอายุตระหนักว่าผู้สูงอายุเป็นวัยที่มีพลัง และศักยภาพามารถเป็นพลังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และการส่งเสริมการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องในการเข้าถึงสินค้าและบริการผู้สูงอายุ
ทั้งนี้ทั้ง 4 กรอบนโยบาย ได้รับการรับรองจากสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ เพื่อผลักดันเป็นข้อเสนอทางนโยบายต่อคณะรัฐมนตรี พิจารณาดำเนินการต่อไป ขณะที่กรอบนโยบายดังกล่าว หน่วยงานในเครือข่าย หน่วยงานท้องถิ่นสามารถนำไปดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องรอนโยบายจากส่วนกลาง
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง:


