หากมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรภายใน 4 เดือน ตามที่ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 29 ก.ย. 68 จึงคาดการณ์ว่าจะสามารถจัดให้มีการเลือกตั้งในเดือน มี.ค. 69 ก่อนที่จะสามารถรับรองผลการเลือกตั้งภายในเดือน เม.ย. 69
จากนั้น จะมีการเปิดประชุมสภาเพื่อเลือกประธานสภาตลอดจนกระบวนการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่พร้อมเข้าปฏิบัติหน้าที่แล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค. 69
งบฯ ปี 70 อาจเลื่อนบังคับใช้ ธ.ค.
เมื่อพิจารณาตามกรอบกระบวนการจัดทำงบประมาณที่ต้องดำเนินการภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เข้าปฏิบัติหน้าที่ อาทิ การให้ความเห็นชอบการปรับปรุงปฏิทินงบประมาณ รวมถึงการทบทวนและปรับปรุงแผนการคลังระยะปานกลาง ประมาณการรายได้ กรอบวงเงินงบประมาณรายจ่าย และโครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570
รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สามและแนวโน้มปี 68 – 69 ของสํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ ประเมินว่าจะส่งผลให้การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีมีแนวโน้มที่จะสามารถบังคับใช้ได้ภายในเดือน ธ.ค. 69 หรือล่าช้าออกไปประมาณ 75 – 90 วัน จากกรณีปกติของปีงบประมาณที่จะเริ่มในเดือน ต.ค.
หากการประกาศใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 ล่าช้าออกไปจากกำหนดเดิม 1 ต.ค. 69 จะส่งผลกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณและเศรษฐกิจ
จากข้อมูลในอดีต พบว่า อัตราเบิกจ่ายงบประมาณโดยเฉพาะงบรายจ่ายลงทุนในปีที่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติงบประมาณฯ ล่าช้าจะต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ขณะเดียวกันการเบิกจ่ายงบรายจ่ายลงทุนยังคงมีข้อจำกัดทั้งด้านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง อาทิ ในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติงบประมาณล่าช้าไป 7 เดือน หรือ 209 วัน ทำให้รัฐบาลต้องกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีในวงเงินสูงถึง 233,209.3 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังส่งผลให้อัตราเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 อยู่ที่ 65.2% เป็นอัตราที่ค่อนข้างต่ำจากการที่หน่วยงานต่าง ๆ จะต้องเร่งเบิกจ่ายตามกรอบรายจ่ายลงทุนกันไว้เบิกเหลื่อมปีก่อน

งบฯ ล่าช้ากระทบอะไรบ้าง
ดังนั้น สภาพัฒน์ มองว่าจะมีข้อจำกัดที่อาจเกิดขึ้นจากการประกาศใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 ล่าช้า ได้แก่
- ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน จากการขาดแคลนผู้รับเหมาทั้งในด้านจำนวนและศักยภาพการรับงาน
- ความเสี่ยงด้านการทุจริต เนื่องจากการเร่งรัดกระบวนการอาจส่งผลให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการระหว่างดำเนินงาน โดยเฉพาะช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ซึ่งอาจเป็นช่องว่างให้เกิดการทุจริตได้ง่ายขึ้น
- อุปสรรคตามฤดูกาล โดยเฉพาะโครงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ก่อสร้างถนน สะพาน และชลประทาน เป็นต้น ทำให้งานล่าช้า หรือไม่เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้
บทความที่เกี่ยวข้อง:




