ThaiPBS Logo

นโยบายการคลัง (Fiscal Policy)

นโยบายการคลัง เป็นการดำเนินนโยบายของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นหรือชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยใช้เครื่องมือที่สำคัญของรัฐบาล คือ การใช้จ่ายของรัฐบาล (รายจ่าย) และการเก็บภาษี (รายได้) รวมถึงการก่อหนี้สาธารณะของรัฐบาล

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ตัดสินใจ
  • ดำเนินงาน
  • ประเมินผล

เริ่มนโยบาย

ประกาศใช้พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561

วางแผน

รัฐบาลทำแผนการคลังระยะปานกลาง กรอบหนี้สาธารณะไม่เกิน 70% ของจีดีพี

ตัดสินใจ

เห็นชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2568-2571) ฉบับทบทวน

ดำเนินงาน

ขั้นตอนการตรวจสอบการทำงาน

ประเมินผล

ขั้นตอนการประเมินผลการดำเนินการตามนโยบาย

ภาพรวม

อ่านเพิ่มเติม

ความเคลื่อนไหวล่าสุด

7 ต.ค. 68  คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนไม่เกิน 19,000 ล้านบาท โดยจัดสรรให้แก่ สศค. สำหรับการดำเนินโครงการคนละครึ่ง พลัส ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ

การดำเนินโครงการฯ จะทำให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบเศรษฐกิจจำนวนประมาณ 88,000 ล้านบาท ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจขยายตัว เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 0.21 – 0.22 ในปี 2568 เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ

9 ก.ย. 68 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติขยายสัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ จาก 35% เป็น 50% โดยภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ในปีงบประมาณ 2567 มีสัดส่วนอยู่ที่ 35.14%

ปัจจุบัน การดำเนินนโยบายการคลัง (fiscal policy) เป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐพ.ศ. 2561 โดยมีการกำหนดรายละเอียดด้านรายจ่าย ตลอดจนเพดานหนี้สาธารณะ ตามคณะกรรมการวินัยการเงินการคลังของรัฐ คือ

  • หนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ไม่เกินร้อยละ 60
  • ภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ไม่เกินร้อยละ 35
  • หนี้สาธารณะที่ออกด้วยสกุลเงินต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมดไม่เกินร้อยละ 10
  • ภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้การส่งออกสินค้าและบริการไม่เกินร้อยละ 5

แต่จากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องกู้เงินกว่าล้านล้านบาท ทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้น จนกระทั่งคณะกรรมการวินัยการเงินการคลังจึงได้มีมติเห็นชอบขยายกรอบเพดานหนี้สาธารณะจากเดิมที่กำหนดว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ต้องไม่เกินร้อยละ 60 เป็นสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ต้องไม่เกินร้อยละ 70 ต่อ GDP เมื่อเดือนก.ย. 2564

พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีมติเห็นชอบโครงการลงทุน วงเงินงบประมาณ 1.1 แสนล้านบาท เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 24 มิ.ย. นี้ โดยคณะกรรมการฯ ได้พิจารณาแล้วว่า 1.โครงการทั้งหมดมีการกระจายการลงทุนทั่วประเทศครอบคลุมเกือบทุกจังหวัดและทุกอำเภอ 2.จังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวต่ำจะได้เงินลงทุนในสัดส่วนที่สูงกว่าจังหวัดที่มีรายได้ต่อหัวที่สูง เช่น กรุงเทพมหานคร และระยอง เป็นต้น 3.ประมาณการว่าจะสร้างงานได้ประมาณ 6-7 ล้านคน ค่าจ้างตกประมาณ 30% ของที่งบประมาณที่อนุมัติ หรือประมาณ 30,000 ล้านบาทขึ้นไป

คณะกรรมการฯ เห็นว่า โครงการทุกอย่างได้ผ่านการกลั่นกรองแล้ว และเป็นไปตามหลักวัตถุประสงค์ จึงให้ความเห็นชอบ และหลังจากนี้จะมีการแต่งตั้งอนุคณะกรรมการกำกับติดตามและประเมินผล เพื่อให้โครงการบรรลุความสำเร็จ

ทั้งนี้งบที่อนุมัติส่วนใหญ่กว่า 70% อยู่ในโครงการคมนาคมและน้ำ และ10% เป็นเรื่องการท่องเที่ยว และส่วนที่เหลือเป็นเรื่องอื่น  ๆ เช่น วิกฤตภาษีสหรัฐฯ จะมีมาตรกาทางการเงินช่วยเหลือ และมาตรการเรื่องการศึกษา

สำหรับโครงการที่ยังไม่ได้อนุมัติ เป็นขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน ที่เสนอเข้ามาประมาณ 60,000 ล้านบาท เพราะไม่ได้ผ่านการอนุมัติจากรัฐมนตรีต้นสังกัด และบางโครงการซ้ำซ้อนกับเรื่องที่เคยทำอยู่แล้ว จะจึงรียกประชุมอีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่ามีอะไรตกหล่น และสมควรให้มีการลงทุนหรือไม่ หรือถ้างบประมาณเหลือก็ไม่เป็นไร รัฐบาลจะได้กู้เงินน้อยลง หรือนำไปใช้ในเรื่องที่มีคุณค่าจริงมากกว่า

“ถ้าทำได้หมด 1.57 แสนล้าน จะทำให้ดูขึ้น 0.5-0.6  ถ้างบ 1.1 แสนล้าน จะได้ประมาณ 0.4-0.5 ตรงนี้เราหักในสิ่งที่เคยบวกไว้แล้วตอนที่จะใช่เงินนี้ ก็จัเหลทอประมาณสัก 0.4”

การทบทวนกรอบสัดส่วนการบริหารหนี้สาธารณะในครั้งนี้เป็นไปตามความในมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่กำหนดให้มีการทบทวนสัดส่วนต่างๆ อย่างน้อยทุกสามปี

การขยายเพดานหนี้สาธารณะ มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่อง “กรอบความยั่งยืนทางการคลัง” แต่เรื่องความยั่งยืนทางการคลังสามารถพิจารณาได้หลายมุม โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะเป็นปัจจัยหนึ่ง แต่ยังมีปัจจัยอื่นมาใช้ในการพิจารณาด้วย เช่น แนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 กำหนดให้คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ มีหน้าที่จัดทำ “แผนการคลังระยะปานกลาง” ซึ่งเป็นแผนแม่บทหลักด้านการคลังและงบประมาณ

ทั้งนี้ กำหนดให้รัฐบาลต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสามเดือนนับตั้งแต่วันสิ้นปีงบประมาณทุกปี และเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา 14 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังฯ

แผนการคลังระยะปานกลางมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี และอย่างน้อยต้องประกอบด้วย

  • เป้าหมายและนโยบายการคลัง
  • สถานะและประมาณการเศรษฐกิจ
  • สถานะและประมาณการการคลัง ซึ่งรวมถึงประมาณการรายได้ ประมาณการร่ายจ่าย ดุลการคลัง และการจัดการกับดุลการคลัง
  • สถานะหนี้สาธารณะของรัฐบาล
  • ภาระผูกพันทางการคลังของรัฐบาล

ลำดับเหตุการณ์

  • คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนไม่เกิน 19,000 ล้านบาท โดยจัดสรรให้แก่ดำเนินโครงการคนละครึ่ง

    7 ต.ค. 2568

  • ครม.อนุมัติงบกลาง 35,960 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการลดยอดลูกหนี้รอการชดเชยของรัฐบาลให้แก่ ธ.ก.ส.

    30 ก.ย. 2568

  • ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 กำหนดวงเงินรวมกว่า 3.78 ล้านล้านบาท มีผลบังคับใช้ 1 ต.ค.2568 เป็นต้นไป  ดูเพิ่มเติม ›

    18 ก.ย. 2568

  • ครม. มีมติขยายสัดส่วนภาระหนี้ต่อประมาณการรายได้ จาก 35% เป็น 50% โดยภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ในปี 67 อยู่ที่ 35.14%

    9 ก.ย. 2568

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในการขยายเวลาการลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากอัตรา 10% เหลือ 7% ต่อไปอีก 1 ปี โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.68 - 30 ก.ย.69

    9 ก.ย. 2568

  • ที่ประชุม สว. ลงมติเห็นชอบ 151 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 69 ขึ้นตอนต่อไปส่งกับรัฐบาล เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ประกาศใช้ต่อไป

    2 ก.ย. 2568

  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รานงานภาวะเศรษฐกิจเดือนก.ค. 68 ชะลอตัว จากภาคการท่องเที่ยวลดลง  ดูเพิ่มเติม ›

    29 ส.ค. 2568

  • ครม. มีมติเห็นชอบโอนงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหลือ 26,000 ล้านบาท เข้าในรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือเพื่อความจำเป็นได้

    26 ส.ค. 2568

  • ครม.แต่งตั้ง อ้อนฟ้า เวชชาชีวะ จากเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ไปเป็นเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์)

    26 ส.ค. 2568

  • สภาพัฒน์ รายงานเศรษฐกิจไทย (GDP) ไตรมาส 2 ปี 68 โต 2.8% ชะลอลงจากไตรมาสแรกที่ 3.2% จากภาคท่องเที่ยวชะลอลง ทั้งปีมองโต 2%

    18 ส.ค. 2568

  • ​สภาผู้แทนราษฎร​มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย 2569​ ในวาระ​ 3 แล้ว​ ด้วยคะแนนเสียง​ 257 ต่อ​ 230 งดออกเสียง​ 1 เสียง  ดูเพิ่มเติม ›

    15 ส.ค. 2568

  • ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุมีแนวคิดจะใช้ระบบภาษีแบบ Negative Income Tax ในปี 70 โดยประชาชนทุกคนต้องยื่นแบบภาษี หากรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ก็จะได้รับสวัสดิการจากรัฐ

    14 ส.ค. 2568

  • สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569

    13 ส.ค. 2568

  • คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบข้อเสนอโครงการ/รายการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระยะ 2 ภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท

    5 ส.ค. 2568

  • คณะรัฐมนตรี อนุมัติแต่งตั้ง วินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ รองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

    23 ก.ค. 2568

  • คณะรัฐมนตรี อนุมัติแต่งตั้ง พรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมสรรพสามิต

    23 ก.ค. 2568

  • คณะรัฐมนตรี อนุมัติแต่งตั้ง กุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพสามิต ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมศุลกากร

    23 ก.ค. 2568

  • การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ปิดระบบการลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. หลังเกิดปัญหาคอขวดที่ระบบยืนยันตัวตนใน ThaiID เตรียมย้ายไปใช้แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” แทน  ดูเพิ่มเติม ›

    4 ก.ค. 2568

  • กระทรวงการคลังรายงานผลการจัดเก็บรายไดรัฐบาลสุทธิในช่วง 8 เดือนแรกของปีงบประมาณ 68 อยู่ที่ 1,704,184 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 12,753 ล้านบาท หรือ 0.7%  ดูเพิ่มเติม ›

    2 ก.ค. 2568

  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ค. ชะลอลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน จากภาคบริการและการผลิตภาคอุตสาหกรรม ขณะที่การส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น ภาคท่องเที่ยวชะลอลงทั้งรายรับและจำนวนนักท่องเที่ยว  ดูเพิ่มเติม ›

    30 มิ.ย. 2568

  • กรมสรรพากรเตรียมใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ตรวจสอบภาษีในปี 2570 โดยเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดผ่านเว็บไซต์และ Smart Tax เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการคืนภาษี ตรวจสอบและจัดเก็บแม่นยำมากขึ้น

    27 มิ.ย. 2568

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบข้อเสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจตามแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ วงเงิน 115,375 ล้านบาท จำนวน 481 โครงการ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น แต่ได้ผลในระยะยาว

    24 มิ.ย. 2568

  • คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เห็นชอบงบกลาง 1.1 แสนล้านบาท ลงทุนทั่วประเทศ ทำถนนและบริหารจัดการน้ำ 70% ท่องเที่ยว 10% ที่เหลือเป็นมาตรารับมือภาษีสหรัฐฯ และการศึกษา ชงเสนอ ครม. 24 มิ.ย.

    18 มิ.ย. 2568

  • ครม.อนุมัติยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับกำไรส่วนทุน จากการขายสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค. 68 เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการเงิน

    17 มิ.ย. 2568

  • คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ (บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ) เลื่อนประชุมจาก 11 มิ.ย. เนื่องจากมีหน่วยงานของบรวมแล้วเกิน 1.57 แสนล้านบาทตามที่ตั้งไว้

    10 มิ.ย. 2568

  • S&P Global Ratings (S&P) คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ระดับ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือ (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)

    3 มิ.ย. 2568

  • สภาผู้แทนราษฎร ลงมติรับหลักการในวาระแรก ร่างพระราชบัญญัติรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท

    31 พ.ค. 2568

  • แพทองธาร นายกรัฐมนตรี แจงสภาฯ จัดงบประมาณปี69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท จำเป็นต้องตั้งงบแบบขาดดุลเพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโต รับยังมีปัจจัยเสี่ยงมาตรการภาษีสหรัฐฯ   ดูเพิ่มเติม ›

    28 พ.ค. 2568

  • ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ระบุหนี้สาธารณะไทย ณ สิ้นเดือน มี.ค. 68 มีจำนวน 12.08 ล้านล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 64.4 ของจีดีพี

    28 พ.ค. 2568

  • ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 เข้าสู่วาระการพิจารณาสภาผู้แทนราษฎร วันแรก  ดูเพิ่มเติม ›

    28 พ.ค. 2568

  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการและร่างประกาศที่เกี่ยวข้อง โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล (Goverment Token) หรือ G-Token ใช้เวลา 15 วัน

    26 พ.ค. 2568

  • ที่ประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาล และ พรรคฝ่ายค้าน เห็นร่วมกันในกรอบการประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ พิจารณางบประมาณปี 69 ระหว่างวันที่ 28-31 พ.ค.68

    21 พ.ค. 2568

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 3.78 ล้านบาท เสนอเข้าสภา 28-30 พ.ค.68

    20 พ.ค. 2568

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาทตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยโยกเงินจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต

    20 พ.ค. 2568

  • สภาพัฒน์ เผยจีดีพีไทยไตรมาส 1 ปี68 เติบโต 3.1% YoY ชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า และปรับลดคาดการณ์ทั้งปี 1.3 - 2.3% ผลจากสงครามการค้า

    19 พ.ค. 2568

  • กระทรวงการคลังเตรียมระดมทุนแบบใหม่ Thailand Digital Token เพื่อเป็นทางเลือกการออมให้กับประชาชน คาดว่าจะทดลองระบบด้วยการออกงวดแรกราว 5 พันล้านบาทภายใน 1-2 เดือนนี้

    13 พ.ค. 2568

  • มีรายงาน ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ระบุกระทรวงการคลังกำลังทำแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษีครั้งใหญ่เพิ่มสัดส่วนจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลจาก 12-13% ของจีดีพี เป็น 18% ของจีดีพี

    12 พ.ค. 2568

  • กระทรวงการคลัง รายงานจัดเก็บรายได้ครึ่งปีแรก 1,195,662 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 1,807 ล้านบาท หรือ 0.2% และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 26,503 ล้านบาท หรือ 2.3%

    6 พ.ค. 2568

  • ลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ยอมรับ เศรษฐกิจไทยปี 68 เป็นไปได้ยากที่จะเติบโตตามเป้าหมาย 3% จากผลกระทบสงครามการค้า

    29 เม.ย. 2568

  • ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบ 68 จำนวน 2.79 หมื่นล้านบาท โดยให้สำนักงานงบประมาณจัดทำรูปเล่มแล้วเสนอ ครม. อีกครั้ง วันที่ 20 พ.ค.

    29 เม.ย. 2568

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 เตรียมออกกฎหมายกู้เงิน 2 ฉบับจำนวน 5แสนล้านบาท ฉบับแรกจะเป็น พ.ร.บ.กู้เงินเพื่อการลงทุนในประเทศ เพื่อกร

    24 เม.ย. 2568

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เผยกระทรวงการคลัง กำลังหารือสภาพัฒน์ ศึกษาความเหมาะสมโครงการลงทุน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินไม่น้อยกว่า 500,000 ล้านบาท เพื่อประคองเศรษฐกิจ  ดูเพิ่มเติม ›

    23 เม.ย. 2568

  • วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เผยรัฐบาลขอเปิดประชุมสภาฯ 28-30 พ.ค. เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569

    23 เม.ย. 2568

  • พชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ระบุ ฐานะการคลังไทยยังมีเสถียรภาพ ไม่จำเป็นต้องขยายเพดานหนี้สาธารณะ ย้ำต่อให้เศรษฐกิจโตต่ำ สัดส่วนหนี้ก็ยังไม่เกินเพดาน 70% ต่อจีดีพี

    21 เม.ย. 2568

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27,900 ล้านบาท หรือ 0.7% จากปี 2568

    27 มี.ค. 2568

  • แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ปี 68 กระทรวงการคลังตั้งเป้าจีดีพีเติบโต 3% และจะพยายามดันให้ถึง 3.5%

    18 ก.พ. 2568

  • สศช. รายงานเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 ขยายตัว 3.2% เร่งขึ้นจากการขยายตัว 3.0% ในไตรมาสก่อนหน้า รวมทั้งปี 2567 ขยายตัว 2.5% เพิ่มขึ้นจากการขยายตัว 2.0% ในปีก่อนหน้า  ดูเพิ่มเติม ›

    17 ก.พ. 2568

  • สศช. รายงานหนี้สาธารณะไทย ณ สิ้นไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2568 (สิ้น ธ.ค. 2567 ) มีมูลค่า 11,845,610.3 ล้านบาท คิดเป็น 63.9% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นจาก 63.3% ของไตรมาสก่อนหน้า  ดูเพิ่มเติม ›

    17 ก.พ. 2568

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ระบุ ขยายเพดานหนี้สาธารณะเกิน 70% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นทางเลือกสุดท้าย

    10 ก.พ. 2568

  • Rating and Investment Information, Inc. (R&I) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ A- และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)  ดูเพิ่มเติม ›

    21 ม.ค. 2568

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท

    7 ม.ค. 2568

  • ครม.เห็นชอบมาตรการ EasyEReceipt 2.0 ซื้อสินค้าและบริการ สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท เริ่ม 16 ม.ค. - 28 ก.พ. 68  ดูเพิ่มเติม ›

    24 ธ.ค. 2567

  • คณะรัฐมนตรี(ครม.) มติเห็นชอบให้ปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตสถานบริการ จาก 10% เป็น 5% ของรายรับ ออกไปอีก 1 ปี เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ ตามนโยบายของรัฐบาล

    24 ธ.ค. 2567

  • S&P Global Ratings (S&P) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ที่ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)  ดูเพิ่มเติม ›

    11 ธ.ค. 2567

  • พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เผยขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 15% เป็นเพียงแนวคิด มองทั่วโลกก็ทำกัน ขอเวลาศึกษาข้อดี-ข้อเสีย รับส่งผลชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน  ดูเพิ่มเติม ›

    4 ธ.ค. 2567

  • สศช.รายงานเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2567 ขยาย 3.0% เร่งขึ้นจากการขยายตัว 2.2% ในไตรมาสที่สองของปี 2567 (%YoY) และรวม 9 เดือนแรกของปี 2567 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 2.3%   ดูเพิ่มเติม ›

    18 พ.ย. 2567

  • Fitch Ratings (Fitch) คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) ณ ระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook)  ดูเพิ่มเติม ›

    8 พ.ย. 2567

  • กระทรวงการคลัง รายงาน ครม. ถึงสถานะของหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ส.ค.67 มีจำนวน 11,728,149.06 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 64.02 ของจีดีพี   ดูเพิ่มเติม ›

    5 พ.ย. 2567

  • ครม.เห็นชอบแผนก่อหนี้ใหม่ปี 2568 โดยเป็นแผนการก่อหนี้ใหม่ 1,204,304.44 ล้านบาท  ดูเพิ่มเติม ›

    1 ต.ค. 2567

  • โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 2568 จำนวน 3.752 ล้านล้านบาท ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป  ดูเพิ่มเติม ›

    30 ก.ย. 2567

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติแผนการก่อหนี้ใหม่ของรัฐบาล เพิ่มอีก 112,000 ล้านบาท รวมเป็น 883,458.40 ล้านบาท ส่งผลให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เพิ่มจาก 65.06% เป็น 65.74%   ดูเพิ่มเติม ›

    17 ก.ย. 2567

  • จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบขยายเวลาคงอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไว้ที่ 7% ต่ออีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 67- 30 ก.ย.68  ดูเพิ่มเติม ›

    17 ก.ย. 2567

  • วุฒิสภา ผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ ปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการเติมเงินหมื่นผ่านดิจิทัลวอลเล็ต  ดูเพิ่มเติม ›

    6 ส.ค. 2567

  • สภาฯรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบกลางปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้าน ด้วยมติ 297 ต่อ 164 เสียง

    17 ก.ค. 2567

  • ครม.เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ไม่เกิน 122,000 ล้านบาท เพื่อใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต

    9 ก.ค. 2567

  • ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 2 (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568  ดูเพิ่มเติม ›

    19 มิ.ย. 2567

  • คณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 วงเงิน 3,752,700 ล้านบาท  ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว  ดูเพิ่มเติม ›

    11 มิ.ย. 2567

  • ครม.อนุมัติมาตรการทางภาษี เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศช่วงโลว์ซีซันนาน 7 เดือน คาดรัฐสูญรายได้  1,781 ล้านบาท  ดูเพิ่มเติม ›

    4 มิ.ย. 2567

  • ครม. มีมติชอบแผนการคลังระยะปานกลาง (ปีงบประมาณ 2568 – 2571) ฉบับทบทวน ครั้งที่ 2 เพิ่งงบดิจิทัลวอลเล็ต  ดูเพิ่มเติม ›

    28 พ.ค. 2567

  • คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีมติเห็นชอบการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 เพื่อใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต กรอบวงเงิน 122,000 ล้านบาท

    27 พ.ค. 2567

  • ขยายกรอบการก่อหนี้สาธารณะจากไม่เกิน 60% ของจีดีพี เป็น ไม่เกิน 70% ของจีดีพี  ดูเพิ่มเติม ›

    20 ก.ย. 2567

  • ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศขยายเพดานเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น และการชำระคืนต้นเงินกู้ของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐ  ดูเพิ่มเติม ›

    16 เม.ย. 2567

  • ่ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบแผนการคลัง ระยะปานกลาง (ปี งบประมาณ 2567 - 2570) เพื่อใช้เป็นแผนแม่บทหลักสำหรับการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของรัฐ  ดูเพิ่มเติม ›

    27 ธ.ค. 2565

  • ราชกิจจจานุเบกษา ประกาศใช้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561  ดูเพิ่มเติม ›

    18 เม.ย. 2567

รายละเอียด

ความสำเร็จของนโยบาย

เชิงโครงการ

เป้าหมายด้านการคลัง
ในระยะยาวจะกำหนดให้รัฐบาลมุ่งสู่การจัดทำงบประมาณสมดุลในระยะเวลาที่เหมาะสม

เชิงกระบวนการ

สัดส่วนหนี้สาธารณะ
หนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ไม่เกินร้อยละ 70
สัดส่วนหนี้ต่องบประมาณ
ภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ไม่เกินร้อยละ 35
สัดส่วนหนี้เป็นเงินตราต่างประเทศ
หนี้สาธารณะที่ออกด้วยสกุลเงินต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมดไม่เกินร้อยละ 10
สัดส่วนหนี้ต่อรายได้ส่งออก
ภาระหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อรายได้การส่งออกสินค้าและบริการไม่เกินร้อยละ 5

เชิงการเมือง

ลดการขาดดุลงบประมาณ
ลดการขาดดุลงบประมาณ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายงบประมาณสมดุล

อินโฟกราฟิก

Image 0Image 1Image 2Image 3Image 4Image 5Image 6Image 7Image 8

บทความ

ดูทั้งหมด
งานหนักรัฐบาล 4 เดือน: ภาษีทรัมป์ออกฤทธิ์ ฉุดเศรษฐกิจไทย

งานหนักรัฐบาล 4 เดือน: ภาษีทรัมป์ออกฤทธิ์ ฉุดเศรษฐกิจไทย

ธปท.ส่งสัญญาเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปชะลอตัว จากผลกระทบภาษีทรัมป์เห็นชัดขึ้นเรื่อย ๆ มูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯลดลงเป็นเดือนแรกนับตั้งแต่เริ่มเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐฯ นักวิเคราะห์คาดเศรษฐกิจไทยอ่อนแรงลงอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะตั้งแต่ไตรมาส 3 ขณะที่รัฐบาลใหม่มีเวลา 4 เดือนนับตั้งแต่ 1 ต.ค. 68

ฐานะการคลังเริ่มเสี่ยง เมื่อบริษัทจัดอันดับ ปรับมุมมองไทยเป็น "เชิงลบ"

ฐานะการคลังเริ่มเสี่ยง เมื่อบริษัทจัดอันดับ ปรับมุมมองไทยเป็น "เชิงลบ"

อันดับความน่าเชื่อถือของไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น เมื่อสถาบันจัดอันดับเครดิตเริ่มปรับมุมมองความน่าเชื่อถือเป็นเชิงลบ โดยเหตุผลมาจากความเสี่ยงด้านฐานะการคลัง ทำให้รัฐบาลยังคงดำเนินนโยบายทางการคลังแบบขาดดุลอย่างต่อเนื่อง หรือ ต้องกู้เงินเพื่อมาใช้จ่าย ส่งผลให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

เพดานก่อหนี้ขยับขึ้นเป็นระยะ ๆ ฐานะการคลังกำลังเสี่ยง

เพดานก่อหนี้ขยับขึ้นเป็นระยะ ๆ ฐานะการคลังกำลังเสี่ยง

รัฐบาลขยับสัดส่วนการก่อหนี้ ตามมาตรา 50 ตามพ.ร.บ.วินัการเงินการคลัง แต่ที่ผ่านมา นับตั้งแต่โควิด-19 รัฐบาลเริ่มก่อหนี้มากขึ้นด้วยการกู้เงิน นอกจากการกู้เงินเพื่อชดเชยงบประมาณขาดดุลแล้ว เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำ ทำให้กระทบรายได้ จนทำให้ต้องขยายเพดานก่อหนี้ มีความเสี่ยงด้านความเชื่อมั่น

นโยบายรัฐบาลใหม่-เลือกตั้งปี 69 หนุนหุ้นไทยคึกคัก

นโยบายรัฐบาลใหม่-เลือกตั้งปี 69 หนุนหุ้นไทยคึกคัก

ตลาดหุ้นไทยอาจได้อานิสงส์ จาก 'อนุทิน' เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ตามมาด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และหากมีการเลือกตั้งปีหน้าตามที่แถลงไว้ จะทำให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยปีหน้าจะมีการเลือกตั้งพร้อมกันทั้งสส.และผู้ว่ากทม. ในรอบ 30 ปี

Negative Income Tax (NIT): ความท้าทายในบริบทของไทย

Negative Income Tax (NIT): ความท้าทายในบริบทของไทย

จากการที่กระทรวงการคลังประกาศเดินหน้าใช้ “Negative Income Tax” (NIT) ในปี พ.ศ. 2570 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อจัดสรรงบประมาณและสวัสดิการได้อย่างตรงจุด ซึ่งหากทำสำเร็จ ถือว่าเป็นการพลิกโฉมระบบสวัสดิการของไทย

รัฐจ่ายดอกเบี้ยพุ่ง จ่อทะลุกรอบในปี 70 เสี่ยงถูกลดเดรดิต

รัฐจ่ายดอกเบี้ยพุ่ง จ่อทะลุกรอบในปี 70 เสี่ยงถูกลดเดรดิต

ฐานะการคลังไทยกำลังเสี่ยง รายงานสภาพัฒน์ ระบุรัฐบาลเผชิญรายได้น้อยลง คาดสัดส่วนภาระดอกเบี้ยจ่ายต่อรายได้จะสูงกว่าเกณฑ์ตั้งแต่ปี 70 เป็นต้นไป ซึ่งสะท้อนความสามารถชำระคืนหนี้น้อยลง อาจถูกลดอันดับเครดิต