“หนึ่งในปัญหาที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในทุกระดับทั่วโลก คือ เราฟังกันไม่เป็น”
คำกล่าวนี้อาจฟังดูเรียบง่าย แต่สะท้อนความจริงที่เกิดขึ้นรอบตัวอย่างลึกซึ้ง เพราะในยุคที่ผู้คนเร่งรีบ แข่งขัน และเต็มไปด้วยเสียงดังรอบข้าง เรากลับ “ไม่ได้ฟัง” หรือไม่ได้ยิน ทั้งตัวเอง คนอื่น หรือแม้แต่โลกและธรรมชาติ
“ทุกปัญหาแก้ได้ด้วยการฟัง เพราะไม่มีแม้แต่ปัญหาเดียวในชีวิตเราที่จะไม่ดีขึ้นด้วยการฟัง” สรยุทธ รัตนพจนารถ ผู้อำนวยการร่วมธนาคารจิตอาสา ผู้ริเริ่มกระตุกให้สังคมหันมาฟังเสียงของกันและกัน
“ตอนนี้ประเทศของเรามีปัญหาเยอะมาก แต่ไม่ว่าปัญหาอะไรมันมีรากฐานมาจากการที่เราไม่ได้ฟังกันและกัน ไม่ได้ฟังตัวเอง และไม่ได้ฟังคนอื่น และเราไม่ได้ฟังทั้งโลก”
ด้วยความเชื่อเช่นนี้ ทำให้ธนาคารจิตอาสา และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายสุขภาวะทางปัญญา ร่วมกันจัด “เดือนแห่งการฟัง” ตลอดเดือนพฤศจิกายน เพื่อชวนคนไทยเริ่มต้นจากการ “ฟังตัวเอง” “ฟังคนอื่น” “ฟังโลก” และ “ฟังธรรมชาติ”
ในการจัดงานครั้งนี้ มีองค์กรกว่า 79 แห่ง เข้าร่วม และคาดว่าจะขยายสู่ 100 องค์กรทั่วประเทศ ทั้งภาคเอกชน โรงพยาบาล โรงเรียน และองค์กรพัฒนาเอกชน ร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริม “การฟังอย่างตั้งใจ” เพื่อสร้างความเข้าใจ และคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม
ผลสำรวจคนไทยมีความเหงาสูงถึง 83%
การฟังอย่างตั้งใจ จะช่วยคลีคลายปัญหาได้ โดยเฉพาะเมื่อผลสำรวจของสสส. ธนาคารจิตอาสา และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า ในกลุ่มประชาชนอายุ 18-75 ปี ในปี 2568 มีความเหงาสูงถึง 83% สาเหตุจากการขาดกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์เชื่อมโยงทั้งทางจิตใจและสังคม
กลุ่มอาชีพที่พบว่ามีความเหงามาที่สุดคือ พนักงานออฟฟิศมีความเหงาสูงที่สุด ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยกำลังเข้าสู่ภาวะที่ผู้คนรู้สึกโดดเดี่ยวขึ้นเรื่อยๆ นำไปสู่ปัญหาทางสุขภาพใจ เช่น โรคซึมเศร้า ภาวะวิตกกังวล และเครียดสะสม
ฟังอย่างมีคุณภาพ : 3 หลักง่ายๆ ที่เปลี่ยนชีวิต
การฟังอย่างมีคุณภาพต้องผ่านการฝึกฟัง เพราะหลายครั้งเรา “ได้ยิน” แต่ไม่ได้ “ฟัง” อย่างแท้จริงการฟังอย่างลึกซึ้งด้วยใจ จึงต้องผ่านการฝึกฝน เพื่อสร้าง “พื้นที่ปลอดภัย” ให้คนรู้สึกว่า เขาสามารถเปิดใจพูดได้โดยไม่ถูกตัดสิน
การฟังอย่างมีคุณภาพต้องมี 3 องค์ประกอบดังนี้
1 .การอยู่กับคนตรงหน้า 100 %
- เตรียมพื้นที่ในใจ ให้ว่าง โล่ง พร้อมที่จะฟัง
- วางภารกิจทุกอย่าง ไม่กินข้าว เช็กอีเมล์ ไม่ดูมือถือ ไม่อ่าน หรือ ตอบไลน์
- ไม่ทำงานอื่น อยู่กับคนตรงหน้า 100 %
- ไม่พูดแทรก ไม่ซักถาม ไม่ชี้นำ ตามความอยากรู้ของเราเอง
- สบตาเขา สังเกตสีหน้า แววตา ท่าทาง
- ยอมรับทุกปฏิกิริยาของผู้พูด ไม่ห้าม ไม่ปฏิเสธ ไม่ขัดจังหวะ
2 การเท่าทันความคิด หรือเสียงในหัว
- รับรู้ว่าเกิดความคิดเหมือนเสียงในหัวแล้วกลับมาอยู่กับคนตรงหน้า
- บางครั้งเสียงในหัวจะปรากฏเป็นสัญญาณร่างกายให้เรารู้ตัวเช่น เม้มปาก เบือนหน้าหนี
- หากรับรู้สัญญาณร่างกาย ให้กลับมาหายใจลึกๆ
- ถ้ารู้สึกฟังต่อไม่ไหวขอเวลาพัก แล้วกลับมาฟังใหม่
3 การรับรู้ ใส่ใจความรู้สึก
- เมื่อเกิดความเงียบระหว่างการฟังขอให้รับรู้และฟังความเงียบนั้น
- การที่เขาไม่มีคำพูดไม่ได้แปลว่าไม่มีอะไร
- การมีน้ำตาเป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องพยายามทำให้เขาหยุดร้องไห้
- ขอให้อยู่กับทุกความรู้สึกอย่างเต็มร้อย สักพักอารมณ์จะค่อยๆจางลง
- หากรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของเขา อาจถามอย่างเคารพและดูแลได้ว่า “รู้สึก…ใช่ไหม ?
- การฟังที่ดีช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ บรรเทาความทุกข์ และเป็นรากฐานการกลับมารู้จักตัวเอง เข้าใจตัวเอง และพัฒนาตัวเองไปสู่ศักยภาพสูงสุดในการเป็นมนุษย์
สร้างพื้นที่การรับฟังมากขึ้น
พญ.รัชฎา สหะวรกุลศักดิ์แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า“ความเหงาและความโดดเดี่ยวของผู้คนในปัจจุบัน มาจากการขาดการฟังและสื่อสารที่แท้จริง”โรงพยาบาลจึงขับเคลื่อน “พื้นที่รับฟัง” ใน 3 ระดับ ได้แก่
- ระดับองค์กร – จัดกิจกรรมพัฒนา HR ผ่านการฟังอย่างตั้งใจ
- ระดับหน่วยงาน – สร้างกิจกรรม “คุณเล่า เราฟัง” และ “พื้นที่รับฟังผู้สูงวัย” เพื่อแลกเปลี่ยนอย่างไม่ตัดสิน
- ระดับบุคคล – ชวนบุคลากรแบ่งปันประสบการณ์การฟังอย่างลึกซึ้งผ่านกิจกรรม “ฟังด้วยหู ดูด้วยใจ ณ อภัยภูเบศร”
ชวนคนไทย ร่วมกัน“ฟังด้วยหู ดูด้วยใจ”
คนไทยจำนวนมากเผชิญความผันผวน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี ทำให้เหนื่อยล้าและโดดเดี่ยวมากขึ้น การฝึกรับฟังกันและกัน เพื่อแบ่งปันความทุกข์ลงไปได้
นางญาณี รัชต์บริรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา สสส. กล่าวว่า บุคคลทั่วไปสามารถฝึกฟังอย่างลึกซึ้งได้ โดย สสส.หน้าจัดแคมเปญ “ทุกปัญหาดีขึ้นได้ด้วยการฟัง” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ชวนองค์กรทั่วประเทศสร้าง “พื้นที่แห่งการรับฟัง” ด้วยหัวใจ และใช้ การ์ดฟังสร้างสุข (Listenian Card) เครื่องมือเพิ่มทักษะการฟังเบื้องต้น ช่วยให้การสื่อสารในองค์กรเปี่ยมด้วยพลังบวก และสร้างความเข้าใจระหว่างกัน
ตลอดเดือน พ.ย. 68 ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปที่เว็บไซต์เดือนการฟังแห่งชาติ เพื่อทำแบบทดสอบสังเกตพฤติกรรมการรับฟังของตัวเองและประเมินศักยภาพทักษะที่ต้องเรียนรู้ ผ่านเนื้อหารูปแบบ e-Learning เรียนรู้ทักษะการฟังผ่าน e-Learning รวมถึงสมัครเป็น “อาสาผู้รับฟัง” เพื่อร่วมสร้างสังคมแห่งความเข้าใจ
“หลายครั้งผู้พูดไม่กล้าเล่าสิ่งที่อยู่ในใจ เพราะเราอาจยังไม่ใช่ผู้ฟังที่ดี การฝึกฟังจึงสำคัญ เพื่อให้เราเป็นที่พึ่งทางใจให้กันและกันได้จริงๆ”
ฟัง เพื่อเข้าใจ ไม่ใช่เพื่อตอบ
ในสังคมที่เต็มไปด้วยเสียงพูด การ “ฟัง” คือของขวัญล้ำค่าที่เรามอบให้กันได้โดยไม่ต้องใช้เงิน เพียงนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยใจที่เปิดกว้าง ไม่ต้องรีบให้คำแนะนำหรือสั่งสอน แค่ “อยู่ตรงนั้น” เพื่อให้เขารู้ว่า “เขาไม่ได้อยู่คนเดียว” การฟังด้วยใจจึงไม่ใช่เพียงทักษะ แต่คือ “การเยียวยา” ที่เริ่มจากความเข้าใจ
“เมื่อเราฟังเป็น เราจะพบความสุขจากการเข้าใจตนเอง เห็นความเชื่อมโยงกับผู้อื่น และกับธรรมชาติ การฟังคือจุดเริ่มต้นของการยอมรับความแตกต่าง ที่นำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ”
อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง




