ปัญหา รพ.ที่ให้บริการบัตรทองในปี 2568ที่ผ่านมาต้องเผชิญวิกฤตด้านการเงิน ทำให้ รพ.รัฐ 326 แห่งขาดสภาพคล่อง หรือติดลบรวมกว่า 8,287 ล้านบาท ส่งผลให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ต้องของบกลางปี69 จำนวน 8,092.02 ล้านบาท เพื่อชดเชยภาระค่ารักษาพยาบาลที่สูงกว่ากรอบงบประมาณ
อย่างไรก็ตามการของบกลาง เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องเป็นเพียงการแก้ปัญหาระยะสั้น โดยรพ.รัฐ และนักวิชาการด้านสาธารณสุข ออกมาเรียกร้องให้แก้ปัญหาระยะยาว โดยเฉพาะปัญหางบประมาณที่ไม่เพียงพอ
นอกจากนี้รวมถึงการแก้ ปัญหาค่าต้นทุนค่ารักษาพยาบาลที่สะท้อนค่ารรักษาจริงในโรงพยาบาล เนื่องจากที่ผ่านมา รพ.มีต้นทุนค่ารักษาจริงอยู่ที่ 15,000–16,000 บาทต่อ AdjRW แต่ สปสช.กำหนดค่าใช้จ่ายเพียง 8,350 บาทเท่านั้น
เพื่อแก้ปัญหางบประมาณไม่เพียงพอ ทำให้ในวันที่ 1 ธ.ค 68 คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) โดยมี นพ.วิชัย โชควิวัฒน กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธาน มีมติเห็นชอบ “ข้อเสนองบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ขอปีงบประมาณ 2570 งบประมาณ วงเงินรวม 323,291.35 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณปี 69 มาจำนวน 57,995.77 ล้านบาท หรือ 21.86 % เพิ่มค่าบริการผู้ป่วยในเป็น 10,000 AdjRW และงบเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มเป็น 5,299 บาทต่อประชากร โดยมีรายละเอียดดังนี้

งบเหมาจ่ายรายหัว 5,299 บาท/ประชากร
โดยเป็นงบเหมาจ่ายรายหัวจำนวน 5,299 บาท/ประชากรผู้มีสิทธิ หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 1,123.01 บาท/ประชากร จากเดิมปี69 อัตราเหมาจ่าย 4,175.99 บาท ต่อประชากร
เมื่อหักเงินเดือนภาครัฐในระบบปกติจำนวน 74,968.64 ล้านบาทแล้ว จะเป็นจำนวนงบประมาณที่ให้ สปสช. บริหารทั้งสิ้น 248,322.72 ล้านบาท เพื่อดูแลประชากรผู้มีสิทธิจำนวน 47.17 ล้านคน
งบค่าบริการนอกงบเหมาจ่ายรายหัว 7.3 หมื่นล้านบาท
ส่วนงบค่าบริการนอกงบเหมาจ่ายรายหัว ภาพรวมทั้งหมดอยู่ที่จำนวน 73,377.52 ล้านบาท โดยเสนอเพิ่มเติมจำนวน 6,409.81 ล้านบาท สำหรับรายการบริการ ดังนี้
- ค่าบริการผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ป่วยเอดส์จำนวน 4,846.13 ล้านบาท
- ค่าบริการผู้ป่วยไตวายเรื้อรังจำนวน 17,517.78 ล้านบาท
- ค่าบริการควบคุม ป้องกัน และรักษาโรคเรื้อรังจำนวน 1,575.12 ล้านบาท
- ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับหน่วยบริการในพื้นที่กันดาร พื้นที่เสี่ยงภัย และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้จำนวน 1,490.29 ล้านบาท
- ค่าบริการสาธารณสุขเพิ่มเติมสำหรับการบริการระดับปฐมภูมิและหน่วยนวัตกรรมจำนวน 5,202.88 ล้านบาท
ค่าบริการสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานอื่น
ค่าบริการสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานอื่น หรือ ค่าบริการสาธารณสุขร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบล เทศบาล เมืองพัทยา และกรุงเทพฯ จำนวน 3,022.92 ล้านบาท ดังนี้
- ค่าบริการสาธารณสุขผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชนจำนวน 6,051.14 ล้านบาท
- ค่าบริการสาธารณสุขร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จำนวน 537.41 ล้านบาท
- เงินช่วยเหลือเบื้องต้นผู้รับบริการและผู้ให้บริการจำนวน 260.20 ล้านบาท
- และค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคทั่วไปจำนวน 32,833.66 ล้านบาท
วงเงินยา วัคซีน เวชภัณฑ์ อวัยวะเทียม อุปกรณ์ทางการแพทย์
สำหรับในส่วนกรอบวงเงินสำหรับยา วัคซีน เวชภัณฑ์ อวัยวะเทียม อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษที่ให้เครือข่ายหน่วยบริการด้านยาและเวชภัณฑ์จัดหาให้ปีงบประมาณ 2570 รวมเป็นงบประมาณจำนวน 12,253.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 278.90 จากปีที่ผ่านมา อาทิ
- ยาจำเป็น (ยา จ.2 ยา CL ยากำพร้า ยาต้านพิษ)
- ยาวัณโรค
- สายสวนหัวใจ
- ชุดประสาทหูเทียม
- รากฟันเทียม
- ถุงทวารเทียม
- ชุดยางรัดเส้นเลือดขอดในหลอดเลือดดำ
- ยาเอชไอวี
- น้ำยาล้างไตผ่านช่องท้อง
- วัคซีน
- ถุงยางอนามัย และยาฮอร์โมนเพื่อยืนยันเพศสภาพ เป็นต้น
เพิ่มบริการผู้ป่วยใน อัตรา 10,000 บาทต่อ AdjRW
ส่วน งบอ้างอิงจากการวิเคราะห์ต้นทุน – ปรับต้นทุนบริการผู้ป่วยใน อัตรา 10,000 บาทต่อ AdjRW จากเดิม 8,350 บาทต่อ AdjRW
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การจัดทำงบประมาณกองทุนบัตรทองปีงบประมาณ 2569 เป็นการดำเนินการภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 ที่เป็นร่มใหญ่ ร่วมกับยุทธศาสตร์ แผนพัฒนา แผนปฏิรูปประเทศ นโยบายรัฐบาล/รมว.สาธารณสุข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 แผนปฏิบัติราชการ สปสช. ฉบับที่ 5 (ทบทวนปี 2568) และผลจากการรับฟังความคิดเห็น เป็นต้น รวมทั้งได้หารือกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น
พร้อมคำนึงถึงต้นทุนบริการที่เหมาะสม อัตราเงินเฟ้อ ประชากรที่เปลี่ยนแปลง ปริมาณบริการที่เพิ่มขึ้น การสนับสนุนนโยบายรัฐบาล สิทธิประโยชน์ใหม่ เทคโนโลยีทันสมัยและสิ่งแวดล้อม และเพิ่มคุณภาพบริการให้กับประชาชน โดยมีหลักการจัดทำงบประมาณ โดยประหยัด มีประสิทธิภาพ สะท้อนต้นทุนที่เหมาะสม เพียงพอต่อการเข้ารับบริการของประชาชนผู้มีสิทธิ สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและบอร์ด สปสช. ร่วมสร้างเศรษฐกิจสุขภาพ
ในปีงบประมาณ 2570 มีรายการที่ปรับปรุงการคำนวณ อาทิ ผู้ป่วยนอกใช้ต้นทุนจากการวิเคราะห์ต้นทุน Quick Method ใช้ข้อมูลกระทรวงสาธารณสุข ปี 2565-2567 การปรับต้นทุนบริการผู้ป่วยใน อัตรา 10,000 บาทต่อ AdjRW
6 สิทธิประโยชน์ใหม่ หรือ บริการใหม่ปี 2570
นอกจากนี้ยังมีบริการใหม่ มีกรอบวงเงิน 2,157. 00ล้านบาท มีรายละเอียดดังนี้
- การใช้เครื่องช่วยการเต้นของหัวใจถาวรแบบไร้สายในผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดปกติชนิดหัวใจเต้นช้า 46.2 ล้านบาท
- บริการดูแลผู้ป่วยประคับประคองในโรงพยาบาล กรณีย้ายจากหอผู้ป่วยวิกฤติ 16.8 ล้านบาท
- หัตถการใส่ลิ้นหัวใจเอออร์ติกผ่านสายสวน 87.0 ล้านบาท
- ชุดประสาทหูเทียมชนิดฝังก้านสมอง 7.0 ล้านบาท
- นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ต่างๆ เช่น AI DR , AI Deep GI ,AI mammogram หรือ การเอกซเรย์เต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม 600ใ ล้านบาท
- บริการแพทย์ขั้นสูงและนวัตกรรมไทย 1,400 ล้านบาท

ทั้งนี้หลังบอร์ดมสปสช.มีมติ สปสช.จะ เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 ต่อไป เพื่อพิจารณากรอบงบประมาณในการดำเนินการบัตรทองต่อไป
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง:
- ผ่าทางตันระยะสั้น เพิ่มงบ “ผู้ป่วยใน” บัตรทอง
- ต้องเติมเงินแก้วิกฤตบัตรทอง: อย่าให้ไก่จิกกันในเข่ง
- แนะปฏิรูประบบฐานข้อมูล “ปิดจุดอ่อน งบบัตรทอง”




