ครึ่งทศวรรษของสารคดี “คนจนเมือง” ชี้ชัดว่าความจนไม่ใช่เรื่องปัจเจกบุคคล แต่เป็นผลพวงของโครงสร้างและวัฒนธรรมที่ทำให้คนจนต้องอยู่ในกรอบแห่งความเปราะบาง ขณะที่สังคมเคยชินกับการช่วยเหลือแบบเวทนานิยม โดยมองข้ามรากเหง้าของปัญหา
สังคมเปลี่ยน ความจนก็เปลี่ยน กลายเป็น “ภาวะ” ที่ใครก็เป็นได้ แต่นโยบายที่มีอยู่กลับตามไม่ทัน ขณะที่ “เกมของทุน” กำลังสร้างผู้แพ้เพิ่มขึ้นอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ถึงเวลาต้องเปลี่ยน “กติกา” ให้เป็นธรรม ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ ให้ทุกคนเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดี
การแก้ไขปัญหาความจนในชนบทกลับชัดเจนมากกว่าในเมือง เพราะเมืองที่พัฒนาด้วยกลไกทุนนิยม สร้างความซับซ้อนเฉพาะตัว ทำให้คนจนเมืองต้องเผชิญกับความเหลื่อมล้ำ การถูกขูดรีด และถูกแบ่งแยกออกจากสังคม โจทย์สำคัญคือจะทำอย่างไรให้สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนอันซับซ้อนหลายมิติไปพร้อมกัน
"ที่ดินแพง-กู้ยาก-กฎหมายล้าสมัย" ปัญหาสุดซับซ้อนของคนจนเมือง ที่สะท้อนถึงความล้มเหลวเชิงระบบ และการแก้ไขที่ไม่ทันต่อการเปลี่ยนของสังคม ถึงเวลาที่ต้องร่วมสร้าง “นวัตกรรม”และเพิ่มบทบาทท้องถิ่น เพื่อผลักดันให้ภาพฝันของคนรายได้น้อยได้มีบ้านที่มั่นคง