การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 5 ส.ค. 68 มีมติเห็นชอบ (ร่าง)แผนปฏิบัติการด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมของประเทศไทยสู่ระดับสากล (พ.ศ. 2567 – 2570) ตามที่คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเสนอ
ความเป็นมาของแผน
คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 3/2567 เมื่อ 28 ส.ค. 67 ซึ่งมีรมว.เป็นประธาน มีมติเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมของไทย โดยมีแผนแม่บทวัฒนธรรมแห่งชาติ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2570) เป็นแผนการดำเนินงานในภาพรวมของประเทศ
ตามแผนดังกล่าว มุ่งเน้นการส่งเสริมศักยภาพของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ “แบรนด์ประเทศไทย เป็นที่ชื่นชอบ ชื่นชม และเชื่อถือทั่วทุกมุมโลก” โดยใช้แนวคิด “Thailand in Full Spectrum” เพื่อสะท้อนความหลากหลายของ Soft Power ไทย และเสริมสร้าง “Brand Thailand” ภายใต้แนวคิด “Inspirations Untied” ที่เน้นการสร้างแรงบันดาลใจในระดับโลก
ตามแผนฯ กำหนดอุตสาหกรรมวัฒนธรรมศักยภาพ คือ
- ภาพยนตร์ ซีรีส์ ดนตรี และกีฬา (มวยไทย) เป็นอุตสาหกรรม วัฒนธรรมเรือธง
- การท่องเที่ยว เฟสติวัล อาหาร แฟชั่น และออกแบบ เป็นอุตสาหกรรมวัฒนธรรมพื้นฐาน
- เกม หนังสือ และศิลปะ
นอกจากนี้ ยังได้กำหนดกลยุทธ์เพื่อเชื่อมโยงอุตสาหกรรมวัฒนธรรมไทยกับตลาดโลก โดยกำหนดให้ยุโรป อเมริกาเหนือ เอเชียตะวันออกและอาเซียน เป็นกลุ่มลูกค้าปัจจุบันและขยายโอกาสสู่กลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพ เช่น ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ รัสเซีย อเมริกาใต้และแอฟริกา
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในคราวประชุมครั้งที่ 1/2568 เมื่อ 8 ม.ค. 2568 มีมติเห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ โดยมีข้อเสนอแนะให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ดำเนินการเพิ่มเติมในรายละเอียดก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณ
ทั้งนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ ได้ดำเนินการปรับปรุง (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ ตามข้อเสนอแนะของสภาพัฒนาการฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
วัตถุประสงค์
- ระบบนิเวศบนฐานการประสานพลัง ที่รองรับการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติในอนาคต (Synergetic Ecosystem)
- สังคมยั่งยืน มั่นคง และเอื้อต่อศักยภาพอันหลากหลายของผู้คน (Sustainable and Inclusive Society)
- เศรษฐกิจเติบโตด้วยมูลค่าเพิ่มจากฐานภูมิปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ (Scaling Up the Economy)
- ประเทศไทยมีบทบาท สถานะ และจุดยืนที่เข้มแข็งและโดดเด่นบนเวทีโลก(Strengthening Thailand’s Global Position)
เป้าหมาย
- ทุนทางวัฒนธรรมของประเทศไทยได้รับการรักษา พัฒนา และต่อยอดอย่างยั่งยืน
- เศรษฐกิจวัฒนธรรมของไทยเติบโตเพิ่มขึ้น
- บทบาทและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีโลกได้รับการยกระดับด้วยเศรษฐกิจวัฒนธรรม
ยุทธศาสตร์ และ ตัวชี้วัด
ยุทธศาสตร์ที่ 1 เสริมสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมความเข้มแข็งของแบรนด์ประเทศไทย
แนวทางการพัฒนา
- ส่งเสริม สนับสนุนการศึกษาวิจัยด้านวัฒนธรรมและมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นผ่านสถาบันการศึกษาในท้องถิ่นทุกระดับ
- พัฒนาพื้นที่ทางศิลปวัฒนธรรมและพื้นที่ในการสร้างสรรค์งานร่วมกัน (Co-creation Space) ในระดับท้องถิ่นและระดับจังหวัด
- ขยายปริมาณและมูลค่าของสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมของประเทศไทยในตลาดโลก
ตัวชี้วัด
- ประเทศไทยมีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมระดับโลก (มรดกภูมิปัญญาที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ) ไม่น้อยกว่า 7 รายการ ภายในปี 2570 โดยในปี 2568 ไม่น้อยกว่า 6 รายการ (ปัจจุบันมีจำนวน 6 รายการ)
- ประเทศไทยมีเมืองสร้างสรรค์ที่ได้รับการประกาศรับรองโดยองค์การยูเนสโก ไม่น้อยกว่า 11 เมือง/จังหวัด ภายในปี 2570 (ปัจจุบันมีจำนวน 7 เมือง/จังหวัด) โดยในปี 2568 ไม่น้อยกว่า 9 เมือง/จังหวัด
- ประเทศไทยมีงบประมาณรายจ่ายสำหรับการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม คิดเป็นอัตราส่วนไม่น้อยกว่ 2.0% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีของภาครัฐ หรือไม่น้อยกว่า 42,370.97 ล้านบาท ในปี 2570 (ปี 2565 งบประมาณ 35,907.60 ล้านบาท หรือ 1.2% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีของภาครัฐ) โดยในปี 2569 ไม่น้อยกว่า 1.8% หรือประมาณ 42,370.97 ล้านบาท
ยุทธศาสตร์ที่ 2 เตรียมความพร้อมให้ “คน” มีบทบาทหลักในการพลิกโฉมเศรษฐกิจวัฒนธรรม
แนวทางการพัฒนา
- ส่งเสริมศักยภาพในการบริโภคสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมในฐานะ ทุนทางปัญญา
- กำหนดให้ศิลปินเป็นอาชีพที่ได้รับการคุ้มครองและส่งเสริมตามกฎหมายอย่างครอบคลุมและตอบโจทย์ความจำเป็นทางอาชีพ
- ส่งเสริมผู้ประกอบการเศรษฐกิจวัฒนธรรมที่มีศักยภาพให้ขับเคลื่อนแบรนด์ไทยสู่แบรนด์ระดับโลก (Global Brands)
ตัวชี้วัด
- ประเทศไทยมีจำนวนนักเรียน นักศึกษา ที่สำเร็จการศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องกับศิลปวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ต่อปี จำนวนไม่น้อยกว่า 38,970 คน ในปี 2570 หรือ 81% ของจำนวนนักเรียน นักศึกษาที่กำลังศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องในชั้นปีสุดท้าย (ปี 2565 มีจำนวนนักเรียน นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้อง จำนวน 34,272 คน หรือ 71% ของจำนวนนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังศึกษาในสาขาที่เกี่ยวข้องในชั้นปีสุดท้าย) โดยในปี 2568 ไม่น้อยกว่า 77% หรือ 37,045 คน
- ประเทศไทยมีสัดส่วนคะแนนในมิติการส่งเสริมจิตสำนึกและค่านิยมเชิงบวกในดัชนีความสุขโลก (World Happiness Report) ไม่น้อยกว่า 44.48% ของคะแนนเฉลี่ย ภายในปี 2570 (ปี 2566 อยู่ที่ 40% ของคะแนนเฉลี่ย) โดยในปี 2568 ไม่น้อยกว่า 42.24% ของคะแนนเฉลี่ย
- ร้อยละความเชื่อมั่นของกลุ่มเป้าหมายจากภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคประชาสังคม ต่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมของประเทศไทยไม่น้อยกว่า 75% ภายในปี 2570 โดยในปี 2568 ไม่น้อยกว่า 73%
ยุทธศาสตร์ที่ 3 ยกระดับความเชื่อมั่นของตลาดโลกต่อคุณภาพและคุณค่าของสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมของประเทศไทย
แนวทางการพัฒนา
- ส่งเสริมให้นวัตกรรมทางวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์มีบทบาทในอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต (S-Curve Industries)
- ผลักดันให้ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศลงทุนในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมของประเทศไทยมากขึ้น
- กำหนดกลุ่มอุตสาหกรรมและกลยุทธ์ส่งเสริมแต่ละอุตสาหกรรม แบ่งเป็น (1) อุตสาหกรรมวัฒนธรรมเรือธง เช่น อุตสาหกรรมภาพยนตร์ และซีรีส์ อุตสาหกรรมดนตรี (2) อุตสาหกรรมวัฒนธรรมพื้นฐาน เช่น อุตสาหกรรมเฟสติวัล อุตสาหกรรมอาหาร (3) อุตสาหกรรมวัฒนธรรมศักยภาพ เช่น อุตสาหกรรมเกม อุตสาหกรรมหนังสือ
โครงการ เช่น
- โครงการส่งเสริมอำนวยความสะดวกการจับคู่ (Matching) ผลงานและศิลปินไทย และนักสะสมชาวไทยและชาวต่างชาติ
- โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ “Culture guide for SME” ยกระดับสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมสู่ตลาดโลก
- โครงการส่งเสริมการผลิตเนื้อหาสื่อบันเทิงสร้างสรรค์ที่สะท้อนคุณค่าความเป็นไทย
ตัวชี้วัด
- อันดับสมรรถภาพเชิงสร้างสรรค์ (Creative Output) ของประเทศไทย โดย WPO ไม่ต่ำกว่าอันดับที่ 40 ของโลก ภายในปี 2570 (ปี 2566 อันดับที่ 44 ของโลก มีคะแนน 33.1 คะแนน) โดยในปี 2568 ไม่ต่ำกว่าอันดับที่ 42 ของโลก
- มูลค่าอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศไทยต่อจีดีพี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 15 ภายในปี 2570 มูลค่าเฉลี่ยระหว่างปี 2557 – 2564 อยู่ที่ 8.5% ของจีดีพี หรือประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท) โดยในปี 2568 ไม่น้อยกว่า 12%
- มูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศไทย ไม่น้อยกว่า 60,000 ล้านบาท ภายในปี 2570 (ปี 2566 จำนวน 218 โครงการ มูลค่า 53,104 ล้านบาท) โดยในปี 2568 ไม่น้อยกว่า 58,000 ล้านบาท
ยุทธศาสตร์ที่ 4 ยกระดับแบรนด์ประเทศไทยให้โดดเด่นเป็นที่ยอมรับอย่างยั่งยืน
แนวทางการพัฒนา
- เผยแพร่ภาษาและวัฒนธรรมไทยในทุกช่องทาง และขยายพื้นที่ (Representation) ของภาษาและวัฒนธรรมไทยบนอินเทอร์เน็ต
- สนับสนุนให้ชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย ในการศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและสังคมไทยในเชิงลึก
- ยกระดับคุณภาพของสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้เชิงวัฒนธรรม
ตัวชี้วัด
- อันดับความปลอดภัยของเมืองยอดนิยมของประเทศไทยสำหรับการพำนักของชาวต่างชาติ (Global Residence Index – Safety Index) กรุงเทพฯ อันดับไม่ต่ำกว่า 98 และภูเก็ต อันดับไม่ต่ำกว่า 120 ภายในปี 2570 (ปี 2566 กทม. อันดับ 110 มีคะแนน 0.65 คะแนน และภูเก็ต อันดับ 128 มีคะแนน 0.57 คะแนน) โดยในปี 2568 กรุงเทพมหานคร ไม่ต่ำกว่าอันดับที่ 104 ภูเก็ต ไม่ต่ำกว่าอันดับที่ 124
- ประเทศไทยติดอันดับประเทศจุดหมายปลายทางที่ถูกค้นหามากที่สุดบน Google ไม่ต่ำกว่าอันดับ 3 ของโลก ภายในปี 2570 (จัดอันดับโดย CN Traveler) โดยในปี 2568 ไม่ต่ำกว่าอันดับ 5 ของโลก
- อันดับของประเทศไทยในการให้การยอมรับทางสังคมต่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ (ประเมินโดย Williams Institute, UCLA) ไม่ต่ำกว่าอันดับ 35 ของโลกหรือไม่น้อยกว่า 6.10 คะแนน ภายในปี 2570 (ปี 2564 ประเทศไทยอยู่อันดับ 40 มีคะแนน 5.81 คะแนน) โดยในปี 2568 ไม่ต่ำกว่าอันดับ 37 หรือไม่น้อยกว่า 6.01 คะแนน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
(1) มิติทางเศรษฐกิจ
กระตุ้นการค้าและการลงทุน โดยเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการทางวัฒนธรรม ทำให้ SMEs เติบโตและสร้างรายได้ให้กับประเทศ และช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ อาหาร และแฟชั่น ส่งเสริมอุตสาหกรรมสนับสนุน เช่น การท่องเที่ยว ที่พัก และการเดินทาง รวมถึงกระจายรายได้สู่ชุมชนทำให้เศรษฐกิจฐานราก มีความเข้มแข็งมากขึ้น
(2) มิติทางสังคม
สนับสนุนความเข้าใจและการอยู่ร่วมกันในสังคม โดยส่งเสริมค่านิยมและวัฒนธรรมที่ดี ทำให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเกิดความสามัคคี เสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติผ่านจารีตประเพณีและกิจกรรมทางวัฒนธรรม ประชาชนเกิดความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ของตนเอง อีกทั้งเป็นเครื่องมือสำคัญในการอนุรักษ์และถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีผ่านการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับนานาชาติ
(3) มิติทางภาพลักษณ์ของประเทศ
สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทยในระดับสากล โดยสะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยผ่านศิลปะ วัฒนธรรม ค่านิยม และประเพณี ส่งผลให้ประเทศไทยได้รับการยอมรับในเวทีโลกมากขึ้น รวมถึงเสริมสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมไทย ดึงดูดนักท่องเที่ยว นักลงทุน และผู้บริโภควัฒนธรรมจากต่างประเทศทำให้ประเทศไทยมีอิทธิพลทางวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งขึ้น สามารถใช้เป็นเครื่องมือสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง: