ThaiPBS Logo

คำศัพท์น่ารู้ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

8 ก.พ. 256810:31 น.
คำศัพท์น่ารู้ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
"การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ" กำลังส่งผลต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การทำความเข้าใจคำศัพท์ที่ได้ยินได้ฟังในชีวิตประจำวันเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด ซึ่งหากเรามีความเข้าใจ ก็จะทำให้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและนำไปสู่การรับมือที่ถูกต้อง

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับภาวะโลกร้อน (Global Warming)

Greenhouse Gases ก๊าซเรือนกระจก หมายถึง ก๊าซที่มีคุณสมบัติในการดูดซับคลื่นรังสีความร้อนหรือ รังสีอินฟาเรดได้ดี เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอนมอนนอกไซด์ มีเทน ไนตรัสออกไซด์ สารอีเอฟซี เป็นต้น ซึ่งเมื่อก๊าซเหล่านี้ลอยขึ้นสู่บรรยากาศจะดูดซับความร้อนไว้ และถ้ามีปริมาณที่เหมาะสมจะรักษาอุณหภูมิโลกให้พอเหมาะอุ่นสบาย แต่เมื่อใดที่ก๊าซเหล่านี้มีปริมาณมากเกินไป จะส่งผลให้ชั้นบรรยากาศมีการกักเก็บรังสีความร้อนไว้มากขึ้น ทำให้อุณหภูมิเฉลี่ยของชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้น ทำให้ร้อนมากขึ้น

ก๊าซเหล่านี้เกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ โดยเฉพาะการเผาไหม้เชื้อเพลิง จึงทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สะสมอยู่ในชั้นบรรยากาศมากที่สุด และก๊าซที่ควรเฝ้าระวังต่อมาคือ ก๊าซมีเทน ที่เกิดจากการเน่าสลายของสารอินทรีย์และจากมูลสัตว์ ส่วนสารซีเอฟซีที่ใช้ในอุตสาหกรรมพลาสติกและการทำความเย็นก็ก่อผลมิใช่น้อยเช่นกัน เพราะนอกจากจะดูดความร้อนไว้ในบรรยากาศโลกแล้ว ยังไปทำ ลายชั้นโอโซนให้บางลงด้วย ซึ่งในชั้นโอโซนมีหน้าที่ในการกรองรังสีอันตราย เช่น รังสียูวี

Greenhouse Effect ปรากฎการณ์เรือนกระจก หมายถึง ปรากฏการณ์ที่โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นเนื่องจากการรวมตัวกันอย่างหนาแน่นของก๊าซเรือนกระจกที่ดูดความร้อนเอาไว้ไม่ให้สะท้อนออกไป เราสามารถเปรียบปรากฏการณ์นี้ได้กับการจอดรถไว้กลางแจ้ง โดยที่ปิดหน้าต่างทุกบานให้สนิท และแสงอาทิตย์จะสาดส่องเข้ามาภายในรถได้ ส่วนบรรดาเบาะนั่งทั้งหลายเปรียบได้กับอาคารสิ่งก่อสร้างนั้น จะดูดซับเอาความร้อนไว้และไม่สามารถปล่อยหรือสะท้อนความร้อนให้หลุดลอดผ่านออกไปได้ ทำให้อากาศภายในรถร้อน ตราบใดที่เรายังไม่เปิดกระจก อุณหภูมิภายในรถจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบกับโลกของเราที่เก็บความร้อนไว้แล้วไม่สามารถปล่อยความร้อนกลับออกไปได้ จะทำให้อุณหภูมิผิวโลกสูงขึ้น

Global Warming ภาวะโลกร้อน หมายถึง การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นไม่ว่าจะเป็นอากาศบริเวณใกล้ผิวโลกและน้ำ ในมหาสมุทร เนื่องมาจากมลภาวะในอากาศ หรือปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศนั่นเอง

คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

Climate Change การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หมายถึง การที่สภาพภูมิอากาศมีการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว เป็นผลมาจากปรากฏการณ์โลกร้อนการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝน ความถี่และความรุนแรงของการเกิดพายุ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำทะเล

Climate Impact ผลกระทบที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อะไรคือ…ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ?

สภาพอากาศรุนแรงที่เกิดมากขึ้น เช่น ความแห้งแล้ง อุทกภัยพายุและอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบมหาศาลต่อสังคมและเศรษฐกิจ

  • ฤดูกาลและปริมาณน้ำฝนเปลี่ยนแปลง ฝนที่ตกหนักและมากขึ้นจะทำให้เกิดอุทกภัย ส่วนการทิ้งช่วงของฝนที่นานจะทำให้เกิดภัยแล้งและขาดแคลน
  • ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้น เมื่อโลกร้อนขึ้นจะเพิ่มการละลายของธารน้ำแข็ง เช่น แผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์และภูเขาน้ำแข็งในทะเล ซึ่งการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำ ทะเลจะทำให้เกิดการปนเปื้อนแหล่งน้ำ จืดทั้งพื้นผิวดินและใต้ดิน รวมทั้งการเกิดการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชุมชนริมฝั่งทะเล พื้นที่การเกษตร แหล่งน้ำ จืดริมฝั่ง รวมถึงประเทศที่เป็นเกาะกลางมหาสมุทรหรือทะเลอาจตกอยู่ในอันตราย
  • ทั้งนี้ ระดับความรุนแรงของผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะแตกต่างกันตามสภาพทางภูมิศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม การเกษตร ความมั่นคงทางอาหาร

Climate สภาพภูมิอากาศ หมายถึง ค่าเฉลี่ยของปัจจัยภูมิอากาศ เช่น อุณหภูมิ ปริมาณน้ำฝนในช่วงระยะเวลาอย่างน้อย 30 ปี

Weather สภาพลมฟ้าอากาศ หมายถึง สภาพของอากาศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือในอนาคตอันใกล้ เช่น วันนี้ฝนตก พรุ่งนี้อากาศร้อน สัปดาห์หน้าอากาศหนาว เป็นต้น…

Forecast (Weather Forecast) การพยากรณ์อากาศ หมายถึง การทำนายสภาพอากาศในระยะสั้น โดยเป็นการพยากรณ์ล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนทราบเป็นประจำ ทุกวัน ซึ่งหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบการพยากรณ์อากาศในประเทศไทย ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา (Thai Meteorological Department)

Projection (Climate Projection) การคาดการณ์สถานการณ์ หรือแนวโน้มในอนาคต หมายถึง การคาดการณ์ถึงความเป็นไปได้ หรือแนวโน้มสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่ได้ผ่านกระบวนการศึกษามาแล้ว เช่น การคาดการณ์สภาพภูมิอากาศในอนาคต (Climate Projection)

Climate Model แบบจำลองภูมิอากาศ หมายถึง แบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่ใช้ข้อมูลต่างๆ ทางด้านอุตุนิยมวิทยา เช่น ข้อมูลอุณหภูมิ ข้อมูลปริมาณน้ำฝน และอื่นๆ มาวิเคราะห์ เพื่อสร้างสภาพเหตุการณ์ภูมิอากาศในอนาคต ซึ่งมี 2 ระดับ ได้แก่

  1. แบบจำ ลองภูมิอากาศโลก เช่น ECHAM 4
  2. แบบจำ ลองภูมิอากาศระดับภูมิภาค เช่น PRECI

Climate Scenario ภาพจำลองภูมิอากาศในอนาคต หมายถึง ภาพจำลองภูมิอากาศตามการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลจากแบบจำลอง การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอนาคต (Emission Scenarios) โดยเหตุการณ์จำ ลองเหล่านี้มีความต่างกันที่สมมุติฐานเกี่ยวกับการพัฒนาของเศรษฐกิจ สังคม การเติบโตของประชากร และเทคโนโลยี

ภาพจำลองการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอนาคต แบ่งเป็น 2 แบบหลัก ได้แก่

  • แบบ A ให้ความสำคัญกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นหลัก
  • แบบ B ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าการพัฒนา

Climate Risk ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หมายถึง ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์และระดับของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

Uncertainty ความไม่แน่นอน หมายถึง การไม่สามารถบอกได้แน่นอนหรือแบบชี้ชัดได้ว่า ณ ปีใดปีหนึ่งในอนาคต หรือ ณ สถานที่ใดที่หนึ่ง สภาพภูมิอากาศจะเปลี่ยนไปอย่างไร

Climate Vulnerability ความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หมายถึง การที่บุคคล ชุมชน เมืองหรือระบบ มีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบและมีความอ่อนไหวสูง ตลอดจนมีความสามารถในการปรับตัวต่อผลกระทบและความเสียหายที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในระดับต่ำ

Vulnerability Assessment การประเมินความเปราะบาง หมายถึง การประเมินความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อให้เกิดความเข้าใจในสภาพปัญหาและความต้องการต่าง ๆ โดยพิจารณาถึงปัจจัยแวดล้อมทางด้านสังคม การเมือง เศรษฐกิจและสภาวะแวดล้อม

(Climate) Adaptation หมายถึง การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม วิถีชีวิต และสิ่งแวดล้อมเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ภายใต้ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เช่น การปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิต การสร้างมาตรการป้องกันภัยพิบัติหรือสัญญาณเตือนภัยล่วงหน้าการเตรียมรับมือกับปัญหาความมั่นคงทางอาหาร เป็นต้น

(Climate) Maladaptation การปรับตัวที่ไม่เหมาะสม ต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หมายถึง การปรับตัวที่อาจส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและไม่สามารถดำ เนินการได้อย่างยั่งยืน เช่น การปรับตัวของชุมชนหนึ่งแต่ไปส่งผลกระทบให้กับอีกชุมชนหนึ่ง มีผลกระทบ/ความเปราะบางเพิ่มมากขึ้น

(Climate) Resilience การรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หมายถึง ความสามารถในการปรับฟื้นตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นให้สามารถกลับมาทำหน้าที่สู่ภาวะปกติภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และยังหมายรวมถึงการเรียนรู้และนำ บทเรียนจากการปรับฟื้นตัวในอดีตมาจัดการกับผลกระทบต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ดีขึ้นอีกด้วย

(Climate) Resilience Strategy ยุทธศาสตร์การรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หมายถึง แผนและแนวทางในการบริหารจัดการ ความเสี่ยงหรือผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สามารถนำ ไปใช้ปฏิบัติเพื่อให้เกิดการรับมือ โดยอาศัยทรัพยากรและระบบต่าง ๆ ที่มีอยู่เช่น ระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ระบบโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภคและสาธารณูปการ ระบบเศรษฐกิจ ระบบการบริหารจัดการต่าง ๆ องค์ความรู้ต่าง ๆ ชุมชนและหน่วยงาน หรือองค์กรต่าง ๆ เป็นต้น

Resilience Indicator ตัวชี้วัดความสามารถในการรับมือ หมายถึง สิ่งที่สามารถระบุได้ว่าบุคคล ชุมชน เมือง หรือระบบ มีความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ดีขึ้นหรือแย่ลงกว่าเดิม ซึ่งตัวชี้วัดความสามารถในการรับมือ ควรมีลักษณะ ดังนี้

  • เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน
  • สามารถวัดได้
  • สามารถนำไปปฏิบัติได้
  • มีความเชื่อมโยงกับสิ่งที่ต้องการวัด
  • มีพลวัตร สามารถปรับเปลี่ยนได้
  • ชัดเจน ไม่กำกวม

คำศัพท์เกี่ยวกับกรอบแนวคิดการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Resilience Framework) 

จัดทำขึ้นเพื่อเป็นกรอบเครื่องมือในการดำ เนินงานเพื่อเพิ่มศักยภาพการรับมือของเมืองกรอบแนวคิดดังกล่าวแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

  1. ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของความเปราะบาง (Understanding Vulnerability)
  2. การสร้างการรับมือ (Building Resilience)

ทั้งสองส่วนต่างมีความเชื่อมโยงกันโดยการนำ องค์ความรู้ท้องถิ่น (Local Knowledge) มาประสานกับองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Knowledge) ผ่านกระบวนการการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Shared Learning Dialogue) เพื่อนำมาซึ่งยุทธศาสตร์การรับมือ (Resilience Strategy) ของเมือง

จากแผนภาพวงกลมด้านซ้าย (ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของความเปราะบาง หรือ Understanding Vulnerability) จะช่วยไขข้อข้องใจในเรื่องปัจจัยที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการวิเคราะห์ความเปราะบางอย่างเป็นระบบแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างทุกภาคส่วนและการเปิดรับความเสี่ยงที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งระดับความเปราะบางของแต่ละพื้นที่จะมีความสัมพันธ์ของ 3 ปัจจัย ดังนี้

กล่าวคือ พื้นที่หนึ่ง (รวมทั้งระบบและทุกภาคส่วน) จะมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างไรขึ้นอยู่กับ exposure หรือ การเปิดรับ ซึ่งก็คือโอกาสที่จะได้รับผลกระทบหรือความเสี่ยงนั้นๆ แต่การเปิดรับเพียงอย่างเดียวยังไม่เป็นตัวกำหนดว่าพื้นที่นั้นจะมีความเปราะบางเสมอไป เพราะยังมีปัจจัยอื่นมากำหนดอีก นั่นคือ Sensitivity หรือ ความอ่อนไหวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นปัจจัยภายในของระบบหรือภาคส่วน

ยกตัวอย่างเช่น ในพื้นที่ริมน้ำ ที่มีน้ำ ท่วมถึง ทุกบ้านจะมีโอกาสเปิดรับกับน้ำ ท่วมอย่างเท่า ๆ กัน แต่บ้านหลังหนึ่งที่มีสมาชิกเป็นเด็กและคนชราจะมีความอ่อนไหวต่อผลกระทบมากกว่าบ้านที่มีสมาชิกในครอบครัวเป็นวัยรุ่นและวัยทำงาน ส่วนบ้านที่ปลูกแบบมีเสาสูงจะมีความสามารถในการปรับต่อน้ำ ท่วมมากกว่าบ้านที่ปลูกติดพื้น เป็นต้น

อย่างไรก็ตามแม้ว่า บุคคล ระบบ หรือภาคส่วน จะมีการเปิดรับและมีความอ่อนไหวสูง แต่ก็ไม่จำ เป็นที่ว่าจะต้องมีความเปราะบางสูงเสมอไป เพราะขึ้นอยู่กับว่าระบบหรือภาคส่วนนั้น ๆ มี Adaptive Capacity หรือ ความสามารถในการปรับตัวเพื่อลดความเสียหายที่เกิดขึ้นได้มากน้องเพียงใดด้วย ทั้งนี้ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้ระบบหรือภาคส่วนมีความเปราะบาง มากขึ้นด้วย เช่น ปัจจัยการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสังคม จำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เป็นต้น

ส่วนแผนภาพวงกลมด้านขวา (การสร้างการรับมือ หรือ Building Resilience) แสดงให้เห็นถึงกรอบสนับสนุนการวางแผนยุทธศาสตร์เพื่อสร้างศักยภาพในการรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยวิธีการและแนวทางใหม่ ๆ ที่นำไปสู่การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน

กล่าวคือ เมือง จะต้องประกอบไปด้วย 3 ส่วน ได้แก่

  1. Agents (บุคคล องค์กรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง)
  2. Systems (ระบบต่างๆ ของเมือง)
  3. Institutions (วิถีปฏิบัติอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการ รวมไปถึงธรรมเนียม นโยบาย กฎหมายและข้อบังคับ)

และการที่เมืองจะเกิดศักยภาพในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้นั้น ระบบและทุกภาคส่วนจะต้องประกอบไปด้วยคุณลักษณะใดบ้างนั้น ได้ให้คำอธิบายไว้ในส่วนถัดไป…

Agents บุคคล/องค์กร/หน่วยงาน หมายถึง ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและมีความแตกต่างกันออกไปตามระบบต่างๆ ซึ่งอาจเป็นระดับบุคคล, องค์กร, หรือกลุ่ม เช่น

  • ผู้บริหารในระดับต่างๆ เช่น ระดับจังหวัด, เมือง, องค์กร,ศูนย์, สถานี
  • เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติการในระบบต่างๆ ของเมือง เช่น ระบบประปา/เจ้าหน้าที่ประปา เจ้าหน้าที่ชลประทาน ระบบสาธารณสุข/เจ้าหน้าที่สาธารณสุข, พยาบาล
  • ครัวเรือน
  • เอกชน บริษัทต่างๆ
  • องค์กรประชาสังคมต่าง ๆ

และเมืองที่จะมีการรับมือที่ดีนั้น Agents จะต้องประกอบไปด้วยคุณลักษณะ ดังนี้

Responsiveness หมายถึง การตอบสนอง กล่าวคือ การที่ Agents สามารถปฏิบัติงานหรือกลับมาทำหน้าที่ของตนได้ภายใต้ระยะเวลาอันสั้นหลังจากเกิดภัยรวมถึงการปรับโครงสร้างองค์กรด้วย

Learn หมายถึง ความสามารถในการเรียนรู้  กล่าวคือ การที่ Agents สามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีตและนำมาปรับปรุงให้เกิดการรับมือที่ดีขึ้น ทำให้สามารถแยกแยะปัญหา คาดการณ์ และวางแผนการรับมือล่วงหน้าได้

Resourcefulness หมายถึง ทรัพยากรของหน่วยงาน กล่าวคือ การที่ Agents สามารถแยกแยะ และจัดลำดับความสำคัญของการดำ เนินงานต่างๆ รวมถึงความสามารถในการระดมทรัพยากรที่จำเป็นในยามเกิดภัยทั้งจากภายใน หน่วยงานของตนเอง หรือจากหน่วยงานอื่นๆ

Systems ระบบต่างๆ ของเมือง หมายถึง เมืองประกอบไปด้วยองค์ประกอบย่อยซึ่งก็คือระบบต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน เช่น

  • Ecosystems คือ ระบบนิเวศ
  • Infrastructure Systems คือ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน
  • Public Health คือ ระบบสาธารณสุข
  • Knowledge คือ องค์ความรู้ต่างๆ
  • ระบบบริหารจัดการน้ำ
  • ระบบเตือนภัย

และเมืองที่จะมีการรับมือที่ดีนั้น
Systems จะต้องประกอบไปด้วยคุณลักษณะดังนี้

Safe Failure หมายถึง ความผิดพลาดที่ปลอดภัย กล่าวคือ แม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ที่ทำ ให้ระบบไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ แต่ระบบก็ยังมีความปลอดภัยเพียงพอ ยังสามารถทำหน้าที่และรักษาสภาพปกติของเมืองไว้ได้

Flexibility & Diversity หมายถึง ความยืดหยุ่นและความหลากหลาย กล่าวคือ ความสามารถของระบบในการจัดสรรทรัพยากรและให้บริการเพื่อสนองความต้องการของประชากรเมือง

Modularity & Redundancy หมายถึง การมีแนวทางหรือการสำรองทรัพยากรเพื่อใช้ดำเนินการ กล่าวคือ ความสามารถในการสำรองทรัพยากรไว้ใช้หรือการมีวิธีการทำงานหลายแนวทางทำ ให้สามารถเลือกใช้ได้ในยามที่เผชิญกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป และยังหมายรวมถึงการแบ่งงานออกเป็นส่วนย่อยๆ ที่แต่ละส่วนเป็นอิสระต่อกันแต่สามารถนำมารวมกันเป็นระบบใหญ่ได

Institutions วิถีปฏิบัติ ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ หมายถึง ธรรมเนียม นโยบาย แผน ข้อบังคับ กฎหมาย กฎระเบียบ แนวคิด ประเพณี และความเชื่อท้องถิ่น ที่เป็นหลักในการทำงาน หรือแนวทางการปฏิบัติที่ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถนำไปใช้ดำเนินการในระบบ และดำเนินการร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ได้

และเมืองที่จะมีการรับมือที่ดีนั้น
Institutions จะต้องประกอบไปด้วยคุณลักษณะดังนี้

Information หมายถึง ข้อมูล

กล่าวคือ การมีข้อมูลที่จำเป็นและสามารถเข้าถึงได้เพื่อให้เกิดการวางแผนการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดทางเลือกในการรับมือและปรับตัว

Access (Rights/Entitlements) หมายถึง การเข้าถึง (สิทธิ/ความเป็นเจ้าของ)

กล่าวคือ การพิจารณาว่าใครมีการเข้าถึงหรือมีสิทธิ (ใช้, จัดสรรทรัพยากร, อำนาจหน้าที่ในการจัดการ) ในระบบนั้นๆ อย่างไร Decision-Making หมายถึง กระบวนการตัดสินใจ กล่าวคือ ขั้นตอนในการตัดสินใจกระทำ หรือดำ เนินการใด ๆ มีความโปร่งใสเป็นสิ่งที่มาจากความต้องการจริงๆ สามารถอธิบายและชี้แจงได้มีการรับฟังและรวบรวมข้อมูลจากภาคส่วนต่างๆ ก่อนตัดสินและการตัดสินใจเป็นไปอย่างความยุติธรรม

องค์กรที่เกี่ยวข้องด้านภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Organisations Involved in Global Warming & Climate Change)

IPCC: Intergovernmental Panel on Climate Change คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ เป็นคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น โดยองค์การสหประชาชาติในปี 2531เพื่อจัดทำและเสนอแนวทางด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้แก่ผู้นำ ในรัฐบาลของแต่ละประเทศ โดยรวบรวมข้อมูลและประเมินผลกระทบในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเกษตรสุขภาพ ป่าไม้ หรือ ทรัพยากรชายฝั่ง จนเกิดการรณรงค์เพื่อลดปัจจัยที่จะทำให้เกิดปรากฏการณ์โลกร้อน

UNFCCC: United Nations Framework Convention on Climate Change อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นอนุสัญญาฯ ที่เกิดจากความพยายามของประชาคมโลกในการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เชื่อว่ามีสาเหตุมาจากปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect) ที่เกิดจากการสะสมตัวในชั้นบรรยากาศของก๊าซต่างๆ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน ไนตรัสออกไซด์ และสารซีเอฟซี

COP: The Conference of the Parties การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นองค์กรสูงสุด (Supreme Body) ของ UNFCCC ซึ่งมีการประชุมครั้งแรกที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ใน พ.ศ. 2538 (1995) ต่อมาในการประชุมครั้งที่ 3 (COP-3) ใน พ.ศ. 2540 (1997) ได้มีการยอมรับพิธีสารเกียวโต (Kyoto Protocol) ซึ่งให้ประเทศพัฒนาแล้วลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 5 ของการปลดปล ่อยใน พ.ศ. 2533 (1990) ภายใน พ.ศ. 2551-2555 (2008-2012) โดยสามารถลดภายนอกประเทศได้ และประเทศกำลังพัฒนาแล้วให้ร่วมมือได้ภายใต้โครงการกลไกการพัฒนาที่สะอาด (Clean Development Mechanism หรือ CDM) โดยการประชุมครั้งที่ 18 (COP-18) จัดขึ้นที่เมืองโดฮา ประเทศการ์ตาร์ ในเดือนพฤศจิกายน 2555

KP: Kyoto Protocol พิธีสารเกียวโต  เป็นข้อผูกพันทางกฎหมายที่ดำ เนินการเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายในการรับมือกับสภาวะโลกร้อน (Global Warming) ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change-UNFCCC) เป็นกลไกในการทำให้อนุสัญญาดังกล่าวมีผลในทางปฏิบัติโดยจำกัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศอุตสาหกรรมหรือที่เรียกว่าประเทศในกลุ่มภาคผนวกที่ 1 (Annex I Countries) ให้อยู่ในระดับที่ต่ำกว่าปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี พ.ศ. 2533 ประมาณร้อยละ 5 โดยจะต้องดำเนินการให้ได้ภายในช่วงปี พ.ศ. 2551-2555 (2008-2012) มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2548 ปัจจุบัน มีประเทศที่ให้สัตยาบันแล้ว 191 ประเทศ (ข้อมูล ณ เดือนกันยายน พ.ศ. 2554)

ที่มา:  คำศัพท์น่ารู้ ด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย

นโยบายที่เกี่ยวข้อง

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ คือ ปัญหาที่ไทยและทั่วโลกให้ความสำคัญและพยายามหาทางรับมือแก้ไข โดยรัฐบาลประกาศสานต่อนโยบาย Carbon Neutrality (ความเป็นกลางทางคาร์บอน) เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำของอาเซียนในด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยในปี 2567 ได้เข้าร่วมประชุม COP29 เพื่อแสดงบทบาทความร่วมมือกับประชาคมโลก

  • 1
  • 2
  • 3
  • 4
  • 5

ผู้เขียน: