กระทรวงพลังงานแจงแผน PDP 2024 ไม่ได้เอื้อนายทุนผูกขาด ทำค่าไฟแพงขึ้น ย้ำตัวเลข GDP ระยะยาว ใช้คาดการณ์ความต้องการใช้ไฟในอนาคตได้ พร้อมยอมรับไทยยังจำเป็นต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติในระยะสั้น แต่ในปี 2580 จะลดสัดส่วนเหลือ 41%
แผน PDP 2024 แผนผลิตไฟฟ้าในระยะยาวของไทย ที่จะมีการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการในอนาคต แต่ ทีดีอาร์ไอ มองว่าแผนนี้คาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงเกินความเป็นจริง เพราะใช้ข้อมูลเก่าคำนวณ ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และกระทบประชาชนต้องแบกรับค่าไฟแพง
หลังจากที่รอคอยกันมานานถึง 6 ปี ในที่สุด ในเดือนมิถุนายน 2567 “แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ” ฉบับใหม่หรือ PDP2024 ที่เป็นหนึ่งในห้าแผนของแผนพลังงานชาติหรือ National Energy Plan: NEP (ซึ่งประกอบด้วยห้าแผนคือ Gas Plan, Oil Plan, AEDP, EEP, and PDP) ก็กำลังจะคลอดออกมาบังคับใช้จริงภายในปี พ.ศ. 2567
ประเทศไทยเดินหน้ามุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน โดยลดจัดหาเชื้อเพลิงฟอสซิลในแผน PDP 2024 หันมากเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญชี้ก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าจะต้องลดลงเหลือน้อยกว่า 20% ในค.ศ. 2050 หรือ พ.ศ 2593
การคว่ำบาตรเมียนมาของชาติตะวันตก กระทบต่อไทยในการซื้อก๊าซฯจากเมียนมาเพื่อนำมาผลิตไฟฟ้า เพราะต้องนำเข้าก๊าซฯจากที่อื่นมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนผลิตไฟฟ้าแพงขึ้น รวมถึงการปรับขึ้นค่า Ft
มาตราการลดราคาน้ำมันและไฟฟ้า เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชนภายใต้รัฐบาลของ "เศรษฐา ทวีสิน" กำลังสร้างภาระให้กับกองทุนน้ำมันฯ และกฟผ. ที่ต้องแบกหนี้จำนวนหลักแสนล้านบาท รวมถึงกระทบอุตสาหกรรมปิโตรเครมีจากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น หลังปรับสูตราคานำเข้าก๊าซธรรมชาติเป็นแบบพลูแก๊ส