กระทรวงการคลัง รายงานสาธารณะ ส.ค. 67 แตะ 64.02% ของจีดีพี ปรับเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ยอมรับการกู้เงินของรัฐบาลทำให้มีหนี้สาธารณะเพิ่มสูงขึ้น
การก่อหนี้ของรัฐบาลส่งกระทบต่อฐานะการคลังในอนาคต ปัญหาโครงสร้างการเมืองการปกครอง รวมถึงโครงสร้างเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อต่อการเติบโตระยะยาว กำลังคุกคามความน่าเชื่อถือของประเทศ SCB EIC มองว่ายังอาจทำให้ไทยถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ และจะส่งผลกระทบหนักหลายด้าน แนะรัฐบาลควรเร่งวางแผนระยะยาว
นักวิเคราะห์คาดโครงการแจกเงิน 10,000 บาท จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยเติบโตระยะสั้นจนถึงกลางปี 68 ท่ามกลางแรกกดดันจากปัญหาเชิงโครงสร้างรายล้อม หากรัฐบาลไม่จริงจังแก้ปัญหานี้ เศรษฐกิจจะกลับมาโตต่ำกว่า 2.5% อีกครั้งเมื่อหมดโครงการแจกเงิน
สศช.รายงานเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 67 ขยายตัว 2.3% แต่คาดทั้งปีเติบโตลดลงเหลือ 2.8% มีแรงกดดันจากหนี้สินครัวเรือนและภาคธุรกิจที่อยู่ในระดับสูง สถาบันการเงินเข้มงวดสินเชื่อ ขณะที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกชะลอ
เศรษฐกิจไทยเติบโตลดลงมาตั้งแต่ต้นปี 67 และมีแนวโน้มจะแย่ลงเรื่อย ๆ จากปัญหาเชิงโครงสร้างที่สะสมมานาน แม้นโยบายการเงินจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ไม่มาก แต่ก็มีการคาดว่า กนง.อาจยอมลดดอกเบี้ย 1 ครั้งในปลายปี 67 เพื่อลดแรงกดดันเศรษฐกิจในประเทศ
ธนาคารโลกแนะไทยต้องขึ้นภาษี ลดความเสี่ยงทางการคลัง คาดปี 68 หนี้สาธารณะไทยจะสูงขึ้นที่ 64.6% ต่อจีดีพี รัฐบาลจะเผชิญแรงกดดันด้านรายจ่ายสูงขึ้นจากสังคมสูงวัย และขยายการการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
แบงก์ชาติ เตรียมปรับประมาณการจีดีพี คาดเศรษฐกิจไทยเติบโตต่อเนื่องจากเครื่องยนต์ท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่อาจฟื้นตัวแบบไม่ทั่วถึง พร้อมจับตาเงินเฟ้อใกล้ชิดหลังพลิกบวกครั้งแรกในรอบ 6 เดือน เชื่อใกล้ขยับเข้ากรอบล่างของเป้าหมาย 1-3%
นโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ยังมีข้อถกเถียงในหลายประเด็นถึงเหตุผลและความจำเป็น แต่เบื้องหลังข้อถกเถียงต่อนโยบายแจกเงินดิจิทัลในครั้งนี้ คือ ฐานคิดเกี่ยวกับเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลย้ำว่าเศรษฐกิจ "วิกฤต" จำเป็นต้องมีการกระตุ้น ในขณะที่ฝ่ายค้านอย่างพรรคก้าวไกลมองว่ายังไม่ถึงขั้นวิกฤต
เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง แถลงความคืบหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต หลังจากมีความล่าช้าจากที่คาดการณ์ไว้และเกิดกระแสวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ซึ่งเป็นการแถลงในรายละเอียดครั้งแรกของนายเศรษฐาและยืนยันว่ารัฐบาลจะดำเนินการนโยบายนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ