เครือข่ายรักษ์พะโต๊ะและเครือข่ายรักษ์ระนอง เตรียมเดินทางยื่นหนังสือให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทบทวนนโยบายเรือธงโครงการแลนด์บริดจ์ของรัฐบาลชุดเก่า พร้อมทั้งเสนอให้ยกเลิกการผลักดันร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ SEC สู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ในเดือนก.ย. 2567 และเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวมาก่อนหน้านี้
เครือข่ายฯ มีการจัดเวที “รู้ทันแลนด์บริดจ์ และ พ.ร.บ. SEC” เมื่อ 15 ส.ค. 2567 ที่บ้านห้วยขอน ม.16 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร โดยในเวทีมีป้ายแสดงข้อความ เช่น แลนด์บริดจ์ = อุตสาหกรรม เคราะห์กรรมของชาวใต้ , ไม่เอาแลนด์บริดจ์ No LANDBRIDGE , No LANDBRIDGE No SEC.ACT , ภาคใต้กำลังจะถูกยึด
สมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน กล่าวว่า โครงการแลนด์บริดจ์ยกที่ดินนับแสนไร่ให้ต่างชาติใช้ประโยชน์ ภายใต้ พ.ร.บ.ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ หรือ SEC กฎหมายฉบับนี้จะบริหารจัดการพื้นที่ใหม่ ให้อำนาจคณะกรรมการชุดหนึ่งสามารถทำได้ทุกเรื่อง
จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ ประธานคือนายกรัฐมนตรี มีคณะกรรมการจากรัฐมนตรี 16 กระทรวง ตัวแทนนักธุรกิจ 5 คน ทำหน้าที่บริหารให้ประเทศที่มาลงทุน อำนาจจังหวัด อำนาจท้องถิ่นหายไป และยกเลิกกฎหมายในเขตนี้ในเบื้องต้นประมาณ 19 ฉบับ เช่น กฎหมายที่ดิน อุทยานฯ แรงงาน การเงิน รวมถึงร่างกฎหมายใหม่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้นักลงทุนได้ทันที
กฎหมาย SEC เสมือนเป็นระบบพิเศษซึ่งให้พื้นที่ที่ประกาศสามารถอยู่แบบพิเศษได้ โดยกฎหมายไทยไม่สามารถไปบังคับ ในขณะที่ประชาชนอยู่ภายใต้กฎหมายปกติ
เจกะพันธ์ พรหมมงคล สภาประชาชนภาคใต้ กล่าวว่า แลนด์บริดจ์เป็นการขนส่งสินค้าเชื่อม 2 ฝั่งทะเล จากระนองไป อ.หลังสวน จ.ชุมพร มีความกว้าง 175 เมตร ยาว 90 กม. บางช่วงมีการเจาะภูเขาสร้างอุโมงค์ ท่าเรือ 2 ฝั่งทะเล มีการถมทะเล ขุดร่องน้ำลึก 19 เมตร ยาว 11.5 กม. สร้างกำแพงกันคลื่น และมีการสร้างนิคมอุตสาหกรรม รวมพื้นที่ประมาณ 1.5 แสนไร่
พื้นที่เหล่านี้จะกลายเป็นแผ่นดินของนายทุนต่างชาติ โดยการสัมปทานอย่างน้อย 2 ครั้ง รวมเป็น 99 ปี ทำให้เกิดผลกระทบมหาศาลต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม การเวนคืนที่ดินมี 2 ครั้ง คือ การเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างแลนด์บริดจ์ และการเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างนิคมอุตสาหกรรม ตามพ.ร.บ.เวนคืนที่ดิน ที่ดินมีเอกสารสิทธิ์ได้ไร่ละประมาณ 2.4 แสนบาท ที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์จะได้ค่าชดเชยผลอาสินเท่านั้น
สมยศ ระวังผิด ได้หยิบยกบทเรียนจากการพัฒนาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกว่า ตนอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง ได้รับผลกระทบจากนิคมอุตสาหกรรมและขยะพิษ ทำให้น้ำฝนกินและนำมาทำอาหารไม่ได้ เพราะมีมลพิษ รวมถึงสูญเสียพื้นที่เกษตรกรรม ต้นไม้ตายหรือได้ผลผลิตน้อย บางแห่งทำนาไม่ได้
มีการสร้างเขื่อนขนน้ำผ่านท่อขนาด 2 เมตร นำน้ำจากจันทบุรีมาใช้ในอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ระยะทางประมาณ 100 กม. คนในพื้นที่ไม่ได้ทำงานในโรงงาน เพราะมีการขนแรงงานต่างด้าว จากพม่า เขมร มาทำงาน และใช้เครื่องจักร AI ทำงานแทนคน อุตสาหกรรมทำให้เราอยู่ยากขึ้น ไม่ได้มีรายได้มากขึ้น แต่มีรายจ่ายมากขึ้น ต้องซื้อน้ำดื่มน้ำอาบน้ำใช้
เครือข่ายฯ มีการแถลงเจตนารมณ์ 5 ข้อ คัดค้านโครงการแลนด์บริดจ์
- เราไม่ต้องการโครงการแลนด์บริดจ์ที่มาทำลายต้นน้ำ ป่าไม้ สายน้ำ การเกษตรและพื้นที่สีเขียว รวมถึงทรัพยากรทางทะเลซึ่งเป็นที่ทำกินหล่อเลี้ยงชีวิตพวกเรา
- เราขอให้รัฐบาลยุติโครงการแลนด์บริดจ์ระนอง-ชุมพร
- ขอให้พรรคภูมิใจไทยและรัฐบาลถอนร่างพระราชบัญญัติระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคใต้ (พรบ. SEC.) ออกจากสภา มิฉะนั้นพวกเราจะเดินทางไปรัฐสภาเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติทั้ง พรบ. SEC. และโครงการแลนด์บริดจ์ระนอง – ชุมพร
- สนข.ต้องยุติการสำรวจเส้นทาง รังวัดพิกัดของโครงการแลนด์บริดจ์ทั้งหมด
- ภาคใต้ของเราทำการเกษตร ประมง ท่องเที่ยว มีกินมีใช้มีศักดิ์ศรี ไม่ต้องการแลนด์บริดจ์พ่วง พรบ. SEC ที่เอาเอกราชของชนชาติไทยให้นายทุนต่างชาติ 99 ปี สิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน