กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนต่อร่างกฎหมายพระราชบัญญัติอุตุนิยมวิทยา พ.ศ. … (พ.ร.บ.อุตุนิยมวิทยา) ผ่านทางออนไลน์เว็บไซต์ LAW ระบบกลางทางกฎหมาย เป็นเวลา 30 วัน (ร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่นี่)
ที่ผ่านมากรมอุตุนิยมวิทยายังไม่เคยมีกฎหมายกำหนดอำนาจหน้าที่เป็นของตนเอง ทำให้ขาดการควบคุมเครื่องมือการพยากรณ์และข้อมูลให้มีมาตรฐานที่ชัดเจน และไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานอื่น รวมถึงเริ่มมีบริษัทเอกชนให้บริการพยากรณ์อากาศมากขึ้น แต่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมจากหน่วยงานภาครัฐ
กรมอุตุฯมีหน้าที่อะไร
หน้าที่ของ กรมอุตุนิยมวิทยา คือ การพยากรณ์สภาพอากาศและสภาพภูมิอากาศ รวมถึงตรวจสอบและรายงานสภาพอากาศ โดยติดตามสภาพอากาศประจำวัน เช่น อุณหภูมิ ปริมาณฝน ความชื้น ความเร็วลม และให้ข้อมูลการพยากรณ์อากาศเพื่อการเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง การพยากรณ์อากาศและคาดการณ์สภาพอากาศในระยะสั้นและระยะยาว การเตือนภัยสภาพอากาศที่อาจมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน เช่น พายุ ฝนตกหนัก คลื่นความร้อน
อีกทั้งยังจัดทำข้อมูลภูมิอากาศศึกษาและจัดเก็บข้อมูลทางภูมิอากาศ เพื่อใช้วิเคราะห์และวิจัยแนวโน้มสภาพภูมิอากาศในระยะยาว การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่เกิดขึ้น การศึกษาวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการเก็บข้อมูลและการพยากรณ์อากาศ การศึกษาผลกระทบของสภาพอากาศและภูมิอากาศที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และสังคม การให้บริการข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับสภาพอากาศและภูมิอากาศแก่ประชาชน หน่วยงานราชการ และองค์กรต่าง ๆ การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเตรียมตัวและการรับมือกับสภาพอากาศที่ไม่ปกติ ความร่วมมือระหว่างประเทศโดยร่วมมือกับองค์กรและหน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาระหว่างประเทศ เพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมและโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพยากรณ์อากาศและภูมิอากาศในระดับนานาชาติ
แต่ทว่ากรมอุตุนิยมวิทยา ยังไม่มีกฎหมายเป็นของตนเอง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการควบคุม กำกับ ดูแล ส่งเสริม จัดทำมาตรฐาน กำหนดแนวทางปฏิบัติในการใช้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะอากาศ ปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยา การพยากรณ์อากาศ หรือการแจ้งเตือนภัยที่เกี่ยวกับลักษณะอากาศ
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งจำเป็นต่อการเรียนรู้ และการรับรู้ภัยพิบัติทางอุตุนิยมวิทยาแก่ประชาชน เพื่อให้ภาคส่วนต่าง ๆ ใช้เป็นข้อมูลที่เกิดประโยชน์สูงสุดในเชิงเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนเป็นการเตรียมการป้องกันการเกิดภัยพิบัติที่อาจทำให้เกิดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ภาคเอกชน และหน่วยงานของรัฐจากภัยธรรมชาติ
ในปัจจุบัน ยังไม่มีกฎหมายกำหนดอำนาจหน้าที่ของกรมอุตุนิยมวิทยา ในระดับกฎหมายแม่บทไว้เป็นการเฉพาะ กรมอุตุนิยมวิทยาจึงทำได้เพียงอาศัยอำนาจตามกฎกระทรวง ซึ่งออกโดยอำนาจตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2543
สภาพปัญหาของพยากรณ์อากาศ
เมื่อไม่มีกฎหมายกำหนดหน้าที่ของตนเอง จึงทำให้กรมอุตุนิยมวิทยาประสบปัญหาในการดำเนินงาน ดังนี้
1. ขาดสภาพบังคับและไม่มีบทกำหนดโทษไว้เป็นการเฉพาะในกรณีที่ต้องไปบังคับกับภาคเอกชน หรือหน่วยงานของรัฐ ทำให้มีเอกชนให้บริการด้านข้อมูลอุตุนิยมวิทยาที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาการอุตุนิยมวิทยา รวมทั้งการเรียกเก็บค่าบริการอุตุนิยมวิทยาการบิน
2. เครื่องมือด้านอุตุนิยมวิทยาที่ใช้ในการพยากรณ์อากาศ หรือตรวจวัดสภาพอากาศ ทำให้ไม่มีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน ทำให้ประสบปัญหาในการพยากรณ์อากาศ การตรวจวัดสภาพอากาศ อากาศเพื่อการบิน การแจ้งเตือนภัยที่เกี่ยวกับลักษณะอากาศและแผ่นดินไหว
3. ขาดหน่วยงานควบคุม กำกับ ดูแล เพื่อสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาโดยเฉพาะ ทำให้ประสบปัญหาขาดบุคลากรทางวิชาชีพในการถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านอุตุนิยมวิทยาให้กับหน่วยงานของรัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการด้านอุตุนิยมวิทยาเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ
4. กรมอุตุนิยมวิทยาไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน ทำให้ประสบปัญหาในการเข้าใช้พื้นที่เพื่อการติดตั้ง การซ่อมแซม และการดูแลรักษาเครื่องมือด้านอุตุนิยมวิทยา
จากปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จึงต้องมีกฎหมายแม่บทกำหนดอำนาจหน้าที่ของกรมอุตุนิยมวิทยา รวมทั้งมีสภาพบังคับ เพื่อใช้ในการดำเนินกิจการอุตุนิยมวิทยา การกำกับดูแลหรือควบคุมการให้ข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยา กำหนดมาตรฐานเครื่องมือทางอุตุนิยมวิทยา ให้จัดตั้งสถาบันอุตุนิยมวิทยา กำหนดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคประชาชน เพื่อควบคุม กำกับ ดูแล การให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะอากาศ ปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยา การพยากรณ์อากาศ อากาศเพื่อการบิน หรือการแจ้งเตือนภัยที่เกี่ยวกับลักษณะอากาศ และแผ่นดินไหว เพื่อป้องกันความสับสน การเกิดปัญหาข่าวปลอมจนทำให้ประชาชนตื่นตระหนก โดยเฉพาะในสถานการณ์วิกฤต ซึ่งอาจส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ
พร้อมทั้งการจัดการศึกษาด้านอุตุนิยมวิทยา การจัดการศึกษาเฉพาะทางด้านอุตุนิยมวิทยาเพื่อพัฒนากำลังคนของประเทศ เพื่อให้ประชาชนสามารถนำข้อมูลอุตุนิยมวิทยานำไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนเพื่อประกอบอาชีพ วางแผนการดำเนินชีวิต รวมถึงเพิ่มศักยภาพของกำลังคนภาครัฐให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ด้านอุตุนิยมวิทยาและนำข้อมูลไปบูรณาการกับข้อมูลสาขาอื่นเพื่อต่อยอด และการใช้เครื่องมือทางอุตุนิยมวิทยา โดยกำหนดมาตรฐานเครื่องมือทางอุตุนิยมวิทยา ให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล และมาตรฐานขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก เพื่อให้เครื่องมือทางอุตุนิยมวิทยา ได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน
อำนาจกรมอุตุฯในกฎหมายใหม่
กฎหมายแม่บทที่จะกำหนดอำนาจหน้าที่กรมอุตุนิยมวิทยา มีดังนี้
1. กำหนดหน้าที่และอำนาจของกรมอุตุนิยมวิทยาให้เป็นหน่วยงานกลางของประเทศในการดำเนินกิจการอุตุนิยมวิทยา
2. กำหนดให้มีมาตรฐานเพื่อควบคุม กำกับ ดูแลเกี่ยวกับเครื่องมือทางอุตุนิยมวิทยาที่ใช้ในการพยากรณ์อากาศ หรือตรวจวัดสภาพอากาศ ไม่มีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน ทำให้ประสบปัญหาในการพยากรณ์อากาศ การตรวจวัดสภาพอากาศ อากาศเพื่อการบิน การแจ้งเตือนภัยที่เกี่ยวกับลักษณะอากาศและแผ่นดินไหว
3. กำหนดให้มีหน่วยงานในสังกัดกรมอุตุนิยมวิทยาเพื่อควบคุม กำกับ ดูแล และเพื่อสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาโดยเฉพาะ ทำให้ประสบปัญหาขาดบุคลากรทางวิชาชีพในการถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านอุตุนิยมวิทยาให้กับหน่วยงานของรัฐ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินการด้านอุตุนิยมวิทยาเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ
4. กำหนดฐานความผิดและบทกำหนดโทษกรณีหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนไม่ให้ความร่วมมือกับกรมอุตุนิยมวิทยาในการเข้าใช้พื้นที่เพื่อการติดตั้งเครื่องมือทางอุตุนิยมวิทยา รวมถึงการให้ข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยาที่สร้างความสับสนหรือสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน โดยเฉพาะในสภาวะวิกฤติ
การออกกฎหมาย พ.ร.บ.อุตุนิยมวิทยา จะช่วยแก้ไขปัญหาหรือข้อบกพร่อง
- แก้ปัญหาข้อมูลเท็จ ที่สร้างความตื่นตระหนกต่อประชาชน ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมได้
- กำหนดให้กรมอุตุนิยมวิทยาเป็นหน่วยงานหลักในการจัดการศึกษาด้านอุตุนิยมวิทยาของประเทศ
- แก้ปัญหาในการติดตั้งเครื่องมือตรวจอากาศ หรือเครื่องมืออื่นใดที่จำเป็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับพื้นที่สำคัญ หรือพื้นที่เสี่ยงภัย
- แก้ปัญหาในการสร้างมาตรฐานเครื่องมืออุตุนิยมวิทยา ให้มีการพยากรณ์อากาศถูกต้องแม่นยำ
- แก้ปัญหาการสร้างมาตรฐานตรวจวัดเครื่องมือ โดยให้เป็นมาตรฐานเดียวกันนำไปสู่การบูรณาการข้อมูลอุตุนิยมวิทยากับหน่วยงานอื่น
ร่าง พ.ร.บ. อุตุนิยมวิทยาฉบับนี้ ยังได้มีการนำระบบอนุญาตมาใช้ในกฎหมาย ซึ่งจะใช้ในการออกใบรับรองคุณวุฒิ การออกใบรับรองการสอบเทียบ เพื่อให้มีบุคลากรด้านอุตุนิยมวิทยาที่มีคุณภาพ และมีมาตรฐานเครื่องมือทางอุตุนิยมวิทยาถูกต้องตามมาตรฐานสากลและข้อกำหนดขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก
บทลงโทษทางอาญา
ในกฎหมายยังมีการกำหนดบทลงโทษทางอาญา ห้ามมิให้บุคคลใดเอาไป ยักย้าย ทำอันตราย ทำลาย ทำให้เสียหาย รื้อถอน หรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นเหตุให้เครื่องมือทางอุตุนิยมวิทยาที่ติดตั้งอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ ใช้การไม่ได้ หรือใช้การได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
ในกรณีที่มีการกระทำการตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งให้ผู้กระทำแก้ไข ให้กลับคืนดีดังเดิม หรือให้ผู้กระทำจัดหาเครื่องมาทดแทนโดยมีคุณสมบัติเทียบเท่าหรือดีกว่าเครื่องมือ ที่ได้รับความเสียหาย โดยผู้นั้นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจนเสร็จการ
ผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดในกรณีดังต่อไปนี้ ให้ระวางโทษปรับ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจและหน้าที่ในการสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้อง
เผยแพร่คำประกาศพยากรณ์สภาพอากาศ การแจ้งเตือนสภาวะอากาศ การแจ้งเตือน อุทกภัย การแจ้งภัยแผ่นดินไหวและสึนามิ รวมถึงปรากฏการณ์ทางอุตุนิยมวิทยา ซึ่งมิใช่คำประกาศที่จัดทำขึ้น โดยกรมอุตุนิยมวิทยา หรือเป็นคำประกาศที่จัดทำโดยกรมอุตุนิยมวิทยาแต่มิใช่ฉบับปัจจุบันล่าสุด
- กระทำโดยประการที่ทำให้ประชาชนตื่นตระหนกและสับสนหลงผิด โดยการเผยแพร่ คำประกาศที่บิดเบือนไปจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกไว้
- เผยแพร่ซึ่งข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยาที่มีลักษณะเป็นการปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือแต่บางส่วน อันทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายเดือดร้อน
ผู้ใดฝ่าฝืนบทบัญญัติที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ให้อธิบดีมีอำนาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ได้ ตามความจำเป็น
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง:
ยกระดับ “ข้อมูล” รับมือภัยพิบัติ