ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และกลุ่มธนาคารโลก (World Bank Group) หรือ IMF-WBG Annual Meetings 2026 โดยจะเกิดขึ้นในระหว่างวันที่ 12-18 ต.ค. 69 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 2 ของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งแรกในปี 34
การประชุมนี้จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจาก รวมถึงผู้บริหารของสถาบันการเงินระดับโลก นักวิชาการด้านเศรษฐกิจ การเงิน และการพัฒนาจากทั่วโลกมารวมตัวกัน จำนวนกว่า 15,000 คน จาก 191 ประเทศทั่วโลก เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นสำคัญในระบบเศรษฐกิจโลก เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจ เสถียรภาพทางการเงิน การลดความยากจน และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญในการกำหนดแนวทางและนโยบายระดับโลก พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้แทนจากรัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและสร้างความร่วมมือเพื่อเตรียมรับมือกับความท้าทายในยุคปัจจุบัน
ไอเอ็มเอฟ และ ธนาคารโลก จะเป็นผู้กำหนดธีมหลักของการประชุมในแต่ละปี เพื่อใช้เป็นกรอบในการอภิปรายประเด็นเศรษฐกิจ การเงิน และความท้าทายระดับโลกที่ทุกประเทศต้องร่วมกันรับมือ ซึ่ง IMF-WBG Annual Meetings 2026 จะประกาศธีมในเดือน เม.ย. 69
จับตาปัญหาโลกร้อน-ความเสี่ยงระบบการเงิน
ขณะที่ภายในงานจะมีการประชุมใหญ่ร่วมกันระหว่างไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลก เพียง 1 หัวข้อหลัก ซึ่งจะถูกหยิบยกมาหารือในวันสุดท้าย ส่วนประเด็นด้านอื่นจะมีการประชุมในกลุ่มย่อยต่าง ๆ แยกออกไปในวันอื่น ๆ เนื่องจาก ไอเอ็มเอฟ และ ธนาคารโลก มีประเด็นหารือที่แตกต่างกัน
ธนาคารโลก ต้องการเน้นในเรื่องปัญหาโลกร้อนที่เกิดขึ้นเร็วกว่าคาด และปัญหาความยากจนที่ยังคงเกิดขึ้นในหลายประเทศ ขณะที่ ไอเอ็มเอฟ ต้องการเน้นในเรื่องความเสี่ยงใหม่ ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อระบบการเงิน เช่น เทคโนโลยี สกุลเงินดิจิทัล (Stablecoin) เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลหลักเกณฑ์ป้องกันความเสี่ยงของแต่ละประเทศ
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองหน่วยงานยังคงมีจุดหมายเดียวกัน คือ ต้องการให้เศรษฐกิจโลกเติบโตอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ
ปัญหาสแกมเมอร์เป็นหนึ่งในวาระประชุม
สำหรับการหลอกลวงทางออนไลน์ (Scammer) ที่กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่เกิดขึ้นในทั่วโลก เนื่องจากมีเทคโนโลยีที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้คน กลับถูกมิจฉาชีพนำไปใช้เป็นเครื่องมือก่ออาชญากรรมและหลอกลวงเอาทรัพย์สินจากประชาชนได้ง่าย ประเด็นนี้ก็จะถูกหยิบยกให้เป็นหนึ่งในหัวข้อสำคัญของการหารือระหว่างไอเอ็มเอฟและธนาคารโลก ด้วยเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันยังมีงานวิจัยด้านนี้ค่อนข้างจำกัด
หลังจบการประชุมจะมีการเผยแพร่บทความข้อมูลเป็นแนวทางปฏิบัติให้กับทุกประเทศถึงรูปแบบการหลอกลวงทางออนไลน์ ระบบการรับมือความเสี่ยง (System Resilience) และระบบนิเวศน์ทางการเงินดิจิทัล รวมถึงรูปแบบการรับมือภัยการหลอกลวงทางออนไลน์ของแต่ละประเทศในภูมิภาคเอเชียด้วย
ไทยชูพัฒนาคนดันเศรษฐกิจ
ขณะที่ไทยในฐานะเจ้าภาพ ได้กำหนดธีมหลักของประเทศภายใต้ชื่อ “Thailand’s New Horizons: Empowering People, Building Resilience” โดยจะโชว์ในที่ประชุมถึงแนวคิดการพัฒนาที่ให้ ประชาชนเป็นศูนย์กลางสร้างภูมิคุ้มกันให้ระบบเศรษฐกิจและการเงิน เพื่อพร้อมรับมือความเสี่ยงในอนาคต โดยจะต่อยอดจากจุดแข็งที่ประเทศมี ทั้งความก้าวหน้าด้านการชำระเงินดิจิทัล เศรษฐกิจสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และศักยภาพของแรงงานไทย พร้อมทั้งยกระดับทักษะ ความรู้ และโอกาสทางเศรษฐกิจของประชาชน เพื่อให้มีรายได้เติบโตอย่างยั่งยืนและแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน
อย่างไรก็ตาม การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในระบบการเงิน แม้ช่วยเพิ่มความสะดวกและประสิทธิภาพ แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงรูปแบบใหม่ ประเทศไทยจำเป็นต้องพัฒนาระบบการเงินให้มีความปลอดภัยมากขึ้น เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้และสามารถป้องกันมิจฉาชีพได้ รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนมีภูมิคุ้มกันทางการเงินดิจิทัล
ไทยได้อะไรจากการจัดประชุม 2.8 พันล้าน
ไทยใช้งบประมาณราว 2,800 ล้านบาท ในการจัดประชุม IMF-WBG Annual Meetings 2026 ซึ่งผลทางตรงที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทยนั้นไม่สามารถประเมินเป็นตัวเลขได้ แต่ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กลับมองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะผลทางอ้อมจะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานชาวต่างชาติประมาณ 15,000 คน ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มคนที่มีบทบาทสำคัญต่อการลงทุนระดับโลก ได้สัมผัสภาพลักษณ์และการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยจากประสบการณ์จริง
International Monetary Fund (IMF)
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ก่อตั้งขึ้นในปี 1944 ประกอบด้วยประเทศสมาชิกทั้งหมด 191 ประเทศ มีหน้าที่หลักในการส่งเสริมเสถียรภาพทางการเงินระดับโลก สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่เผชิญวิกฤตเศรษฐกิจผ่านการให้คำปรึกษา การสนับสนุนทางการเงิน และการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการ โดยปัจจุบันมีคุณ Kristalina Georgieva เป็นกรรมการจัดการ (Managing Director)
World Bank Group (WBG)
กลุ่มธนาคารโลก (World Bank Group – WBG) ก่อตั้งขึ้นในปี 1944 ประกอบด้วยประเทศสมาชิกทั้งหมด 189 ประเทศ มีพันธกิจหลักในการลดความยากจนและส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนประเทศสมาชิกผ่านการให้เงินกู้ โครงการพัฒนา และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในหลากหลายด้าน เช่น การศึกษา สุขภาพ โครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งแวดล้อม โดยปัจจุบันมีคุณ Ajay Banga เป็นประธาน (President)
ทั้งนี้ มี 2 ประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกของ World Bank Group ได้แก่ ประเทศอันดอร์รา (Andorra) และ ประเทศลิกเตนสไตน์ (Liechtenstein)
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง:




