ตลอด 5 ปี ของการบริหารรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ภายใต้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นับจากรัฐประหาร 22 พ.ค. 2557 จนถึงวันที่ 16 ก.ค.2562 มีคำสั่ง คสช. คำสั่งหัวหน้า คสช. หรือการใช้อำนาจตามมาตรา 44 มากถึง 565 ฉบับ แบ่งเป็นประกาศ คสช. 134 ฉบับ คำสั่ง คสช. 166 ฉบับ คำสั่งหัวหน้า คสช. 158 ฉบับ
ทั้งนี้ ได้มีการยกเลิกคำสั่งปแล้ว 74 ฉบับ สิ้นสุดผลเนื่องจากเสร็จภารกิจ 133 ฉบับ เช่น การแต่งตั้งปลัดกระทรวง โยกย้ายอธิบดี และอีก 39 ฉบับที่จะสิ้นผลอัตโนมัติเมื่อ คสช. พ้นสภาพไป แต่ยังมีคำสั่งที่มีผลบังคับใช้อยู่ 210 ฉบับ
ที่ผ่านมา รัฐบาล และ พรรคการเมืองได้ นำเสนอ ร่าง พระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่ง คสช.ทั้งหมด 5 ฉบับ ประกอบด้วย
- ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติบางฉบับที่หมดความจำเป็นและไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน พ.ศ. …. เสนอโดย คณะรัฐมนตรี
- ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย พ.ศ. …. เสนอโดย พรรคภูมิใจไทย
- ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ พ.ศ. …. เสนอโดย สส. พรรคก้าวไกล
- ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 4/2559 เรื่อง การยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสำหรับการประกอบกิจการบางประเภท ลงวันที่ 20 มกราคม พุทธศักราช 2559 พ.ศ. …. เสนอโดย สส. พรรคก้าวไกล
- ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 98/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม พุทธศักราช 2557 คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2559 ลงวันที่ 4 เมษายน พุทธศักราช 2559 และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 57/2559 ลงวันที่ 15 กันยายน พุทธศักราช 2559 พ.ศ. …. เพื่อยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช. ที่เกี่ยวกับการจัดการปัญหาชายแดนใต้เสนอ โดย สส. พรรคประชาชาติ
สภาฯรับ ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่ง คสช.
เมื่อ 21 สิงหาคม 2567 สภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บางฉบับที่หมดความจำเป็น และไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน
ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฏร ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยกเลิกคำสั่ง คสช. ในวาระสอง ลงมติรายมาตรา และวาระสาม อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 23 และและวันที่ 30 กรกฎาคม 2568
โดยในการพิจารณาวาระ2 ลงมติรายมาตรา มีข้อถกเถียงใน ประเด็นแรก คือ ระยะเวลามีผลยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 4/2559 เรื่อง การยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมสำหรับการประกอบกิจการบางประเภท ยกเว้นผังเมืองรวม เปิดทางให้สร้างโรงงานรีไซเคิล และโรงงานผลิตไฟฟ้าชีวมวล ออกไปอีก 2 ปี
กระบวนการพิจารณาชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) ข้างน้อยเห็นว่าควรให้ยกเลิกทันทีเหมือนคำสั่งส่วนใหญ่ตามร่างกฎหมายนี้ จนในที่สุดสภาผ้แทนราษฏรได้มีมติเห็นชอบตาม ตามกมธ. ข้างน้อย เป็นผลให้คำสั่งฉบับนี้จะถูกยกเลิกวันถัดจากกฎหมายประกาศใช้
ยังไม่ยกเลิกคำสั่งปิดเหมืองทองคำ
ส่วนข้อถกเถียงที่สอง คือ การยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 72/2559 หรือคำสั่ง “ปิดเหมืองทองคำ” ที่ส่งผลให้รัฐบาลไทยมีข้อพิพาทกับบริษัทคิงส์เกต บริษัทออสเตรเลีย โดยกมธ. ข้างมากเห็นว่าจะคงคำสั่งนี้ไว้ ไม่ยกเลิก ด้วยเหตุผลว่าจะกระทบต่อคดีที่อยู่ในการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ทำให้สภาผู้แทนราษฏรลงมติเห็นด้วยไม่ยกเลิกคำสั่งปิดเหมืองทองคำ
ส่วนเหตุผลที่สภาฯไม่ยกเลิกคำสั่งฉบับดังกล่าว ซึ่งว่าที่ร้อยตรี สมชาติ เตชถาวรเจริญ ได้แจงเหตุผลที่สงวนความเห็นให้ยกเลิกคำสั่งปิดเหมืองทองคำไว้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เคยกล่าวกลางสภาผู้แทนราษฎรว่า กรณีเกิดความเสียหายการปิดเหมืองแร่ จะขอรับผิดชอบด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ตั้งแต่มีคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 72/2559 เหมืองทองคำที่ได้รับผลกระทบและฟ้องร้องรัฐบาลไทย โดยเหมืองทองอัครา ที่มีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด เป็นผู้ถือหุ้น ทำให้เหมืองทองอัคราปิดตัวไป 6 ปีกว่า ถึงกลับมาเปิดตัวใหม่ในวันที่ 23 มีนาคม 2566 แต่กระบวนการชี้ขาดข้อพิพาทของบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด กับรัฐบาลไทย อยู่ในการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ
มติเอกฉันท์ ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิก 55 คำสั่ง คสช.
อย่างไรก็ตามในวันที่ 23 กรกฎาคม 2568 สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณามีมติเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) บางฉบับที่หมดความจำเป็น และไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน
โดยหลักการและเหตุผลของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว นายจาตุรนต์ ฉายแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ ชี้แจงว่า ตามที่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาและลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ. 5 ฉบับ และคณะ กมธ.วิสามัญฯ ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ทั้ง 5 ฉบับ เสร็จสิ้นแล้ว โดยให้ความสำคัญกับการพิจารณาการยกเลิกประกาศ และคำสั่งหัวหน้า คสช. รวมทั้งสิ้น 77 ฉบับ แต่ได้แก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.นี้ โดยยกเลิกคำสั่ง และประกาศ คสช. รวม 55 ฉบับ
ส่วนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ยังคงไว้มีอยู่ 22 ฉบับ แบ่งเป็นคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ต้องแก้ไขกฎหมายก่อนยกเลิก 9 ฉบับ , เป็นคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่หน่วยงานร้องขอให้คงไว้เพื่อให้แก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อน 3 ฉบับ ,คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่หน่วยงานขอให้คงไว้ เนื่องจากมีหน่วยงานหรือ ส.ส. อยู่ระหว่างการเสนอร่างกฎหมายซึ่งมีบทบัญญัติยกเลิกคำสั่งอยู่แล้ว 3 ฉบับ และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่หน่วยงานร้องขอให้คงไว้อีก 7 ฉบับ
จากนั้นที่ประชุมสภาลงมติในวาระ 3 ด้วยคะแนนเห็นด้วย 402 เสียง ไม่เห็นด้วย 0 งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง จากนั้นจะส่งให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป
อ่านเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง