รัฐบาลเพื่อไทยและพรรคร่วม ภายใต้การบริหารของ 2 นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน และแพทองธาร ชินวัตร รวมระยะเวลา 1 ปี 11 เดือน 25 วัน (เศรษฐา แถลงนโยบาย 11 ก.ย. 66 – สภาฯ โหวตนายกฯ 5 ก.ย. 68) มีการดำเนินโยบายจำนวนมากตามที่ได้แถลงต่อรัฐสภา
Policy Watch รวบรวมและติดตามนโยบายของรัฐบาลเพื่อไทยพบว่าส่วนใหญ่เป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจ และยังทำไม่สำเร็จจำนวน 19 นโยบาย นโยบายที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ จำนวน 4 นโยบาย และนโยบายที่ยังไม่เริ่มทำ 4 นโยบาย
นโยบายที่สำเร็จ
สมรสเท่าเทียม ถือเป็นนโยบายแรกของรัฐบาลเพื่อไทยที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเกิดจากการผลักดันของพรรคการเมืองหลายพรรคผ่านสภาผู้แทนราษฎร จากกระแสเรียกร้องของสังคมให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศสามารถสมรสได้ถูกต้องตามกฎหมายที่ไม่จำกัดเฉพาะแค่ชายกับหญิง โดยเมื่อรัฐสภาเห็นชอบร่างแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่…)พ.ศ…. หรือ กฎหมายสมรสเท่าเทียม จากนั้นเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ก็ประกาศบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวใช้ในวันที่ 24 ก.ย. 67
กฎหมายชาติพันธุ์ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สส.) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ เป็นฉบับที่ได้รับการแก้ไขแล้วจากวุฒิสภา เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 68
หวยเกษียณ เป็นสลากขูดแบบดิจิทัล ที่ให้ผู้ซื้อลุ้นรับเงินรางวัลและออมเงินไปในตัว โดยกระทรวงการคลัง เตรียมออกวางขายภายในไตรมาส 4 ปี 68 ซึ่งล่าสุดกฎหมาย พ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ได้ผ่านการเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎรแล้วทั้ง 3 วาระ และกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่ง
30 บาทรักษาทุกที่ รัฐบาลได้ขยายโครงการระยะที่ 4 เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 68 ให้ครอบคลุมบริการใน 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย โดยประชาชนสามารถเข้าใช้บริการทางการแพทย์โรงพยาบาลรัฐได้ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
นโยบายที่ยังไม่เริ่มทำ
แก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ประชุมร่วมรัฐสภา มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อตีความอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และจำนวนครั้งประชามติ
สถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) คณะรัฐมนตรีรัฐบาล แพทองธาร ไม่สามารถผลักดันได้สำเร็จท่ามกลางกระแสคัดค้านอย่างรุนแรงจากสังคม จึงมีมติถอนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ออกจากวาระประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ปฏิรูปการศึกษา แม้จะอยู่ในคำแถลงนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล แต่กลับเป็นนโยบายที่มีความเคลื่อนไหวน้อยที่สุด โดยเฉพาะพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ยังอยู่ในกระบวนการจัดทำของกระทรวงศึกษาธิการ
ปฏิรูปกองทัพ รัฐบาลมีความพยายามที่จะปฏิรูปกองทัพตั้งแต่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง โดยเริ่มจากยกเลิกเกณฑ์ทหารและเปลี่ยนเป็นระบบแบบสมัครใจ แต่หลังจากจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ของนโยบายดังกล่าว โดยเมื่อว 13 ก.ย. 66 สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในขณะนั้น ระบุเพียงว่าการยกเลิกเกณฑ์ทหารยังต้องมีทั้งการกระตุ้นให้คนมาสมัครผ่านระบบสมัครใจและการบังคับเกณฑ์ทหาร หากครบตามที่ต้องการก็ไม่ต้องเกณฑ์เพิ่ม
นโยบายที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ
ดิจิทัลวอลเล็ต คณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ชะลอโครงการแจกเงิน 10,000 บาท กลุ่มคนอายุ 16-20 ปี เพื่อนำงบประมาณไปใช้กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่น เพื่อรับมือผลกระทบจากสงครามการค้าฃ
ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) รัฐบาลตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เพื่อส่งเสริมใน 11 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และเมื่อวันที่ 5 ส.ค. ครม. มีมติเห็นชอบ (ร่าง)แผนปฏิบัติการด้านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมของประเทศไทยสู่ระดับสากล (พ.ศ. 2567 – 2570) ตามที่คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเสนอ โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมศักยภาพของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมไทย
รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยรัฐบาลได้เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่กฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องยังอยู่ในกระบวนการของรัฐสภา คือ ร่างพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม และร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร และกำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา
แก้ไขปัญหายาเสพติด รัฐบาลเพิ่งประกาศเปิดปฏิบัติการภายใต้ชื่อ Thailand Zero Drugs เพื่อกวาดล้างยาเสพติดเชิงรุกทุกพื้นที่ของประเทศไทย ตั้งเป้าภายใน 3 เดือน (7 พ.ย.) ต้องเห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจน
ส่งเสริมการท่องเที่ยว ยกเว้นวีซ่าให้กับชาวต่างชาติ 93 ประเทศ ให้สามารถพำนักในไทยได้ไม่เกิน 60 วัน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ในปี 68 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตั้งเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศที่ 40 ล้านคน แต่สถานการณ์ล่าสุด ณ วันที่ 31 ส.ค. มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 21.8 ล้านคน ลดลง 7.16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ลดราคาพลังงาน มีการจัดมาตรการลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงรถยนต์และลดค่าไฟฟ้าในภาคครัวเรือน เป็นระยะ ๆ ผ่านการใช้เงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้าไปจ่ายชดเชยส่วนต่างราคา แต่ในด้านการปรับปรุงโครงสร้างราคาพลังงานผ่านแผนพัฒนากําลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ยังอยู่ในกระบวนการจัดทำและยังคืบหน้าไม่มาก ทำให้ล่าสุด มิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการ PDP ชุดใหม่ขึ้นมา
รัฐบาลดิจิทัล กำลังขับเคลื่อนตามแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย พ.ศ. 2566 – 2570 โดยดัชนีรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (EDGI) ของไทยปี 67 อยู่อันดับที่ 52 ขยับขึ้น 3 อันดับ จากทั้งหมด 193 ประเทศ
แก้ปัญหาหนี้ กระทรวงการคลัง เดินหน้าโครงการแก้หนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติในปี 67 และในปี 68 ทำโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อช่วยปรับโครงสร้างหนี้ให้กับผู้กู้รายย่อยในทุกประเภทสินเชื่อ นอกจากนี้มีโครงการพักหนี้เกษตรกร ที่มีหนี้รวมไม่เกิน 300,000 บาท แบ่งเป็น 3 ระยะ จนถึงปี 2570
รถยนต์ไฟฟ้า มาตรการสนับสนุน EV 3.5 (ปี 2567–2570) เริ่มใช้ 2 ม.ค. 2567 โดยให้เงินอุดหนุนสูงสุด 1 แสนบาท/คัน ครอบคลุมทั้งรถยนต์ไฟฟ้า รถกระบะไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ และกระตุ้นให้ประชาชนเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น
ศูนย์กลางการเงินของโลก (Financial Hub) ครม.เห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติศูนย์กลางการประกอบธุรกิจทางการเงิน เมื่อ 15 ก.ค. และอยู่ระหว่างเสนอสภาผู้แทนราษฏรพิจารณาวาระ 1
แลนด์บริดจ์ (Land Bridge) หรือชื่อเต็ม โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ มูลค่าการลงทุน 997,680 ล้านบาทเชื่อมโยงท่าเรือ 2 แห่งระหว่างจังหวัดชุมพรและระนอง โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) สรุปผลการศึกษาของโครงการ มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจในการลงทุน (EIRR) คิดเป็น 17.38% และเตรียมการประกวดราคาในปี 2569
ปรับโครงสร้างภาษี Negative Income Tax กระทรวงการคลัง พัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ รวบรวมข้อมูลทั้งหมดให้อยู่ในระบบเดียว แก้ปัญหาการกระจายตัวของข้อมูลสวัสดิการที่อยู่ในหลายหน่วยงาน เป้าหมายเพื่อให้รัฐบาลสามารถจัดสรรงบประมาณและสวัสดิการได้อย่างตรงจุดและเป็นธรรมมากขึ้น ปัจจุบันมีข้อมูลกว่า 60.8 ล้านคน และ 600,000 กิจการ ซึ้งจะถูกนำมาใช้ในนโยบาย Negative Income Tax หรือ ภาษีเงินได้ติดลบ โดยตั้งเป้าหมายจะเริ่มใช้ในปี 2570
แก้ปัญหาที่ดินทับซ้อน ครม. อนุมัติงบประมาณ 342.9 ล้านบาท ให้ กระทรวงกลาโหม เป็นผู้ทำแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1: 4,000 (One Map) แก้ปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐที่ทับซ้อนกับที่ดินชาวบ้านและเอกชน ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน
แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ร่างพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด อยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร เตรียมเข้าสู่วาระ 2 และ 3
บริหารจัดการน้ำ บริโภค-แล้ง-ท่วม ครม. อนุมัติแผนปฏิบัติการด้านทรัพยากรน้ำประจำปีงบประมาณ 2569 ภายใต้แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี จำนวน 55,003 รายการ วงเงิน 439,440 ล้านบาท เพื่อเพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำ และมีพื้นที่ป้องกันน้ำท่วม
ความเป็นกลางทางคาร์บอน ไทยประกาศตั้งเป้าความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 ในเวทีการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 26 (COP26) แต่ยังไม่ได้มีการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งอยู่ในระหว่างจัดทำของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
ลดภาระครู ครม.มีมติยกเลิกครูเวรทั่วประเทศ และอนุมัติงบประมาณจ้างเหมานักการภารโรงทั่วประเทศ ขณะที่ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประกาศยกเลิกส่งรายงานประเมินโรงเรียน 52 โครงการ จาก114 โครงการ เพื่อลดภาระงานครู
ส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานทุกที่ทุกเวลา (Anywhere Anytime) เป็นนโยบายแจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนตั้งเป้าหมายจำนวน 1.8 ล้านคน ซึ่ง ครม. ได้อนุมัติงบประมาณผูกพันข้ามปี 2569 – 2573 วงเงิน 29,765.25 ล้านบาท แต่ก็ยังอยู่ในขั้นตอนการร่างเอกสารจัดซื้อ (TOR) ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.)
ค่าแรงงานขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน ภายในปี 2570 มีการประชุมหลายครั้ง คณะกรรมการค่าจ้าง 3 ฝ่าย (บอร์ดไตรภาคี) จนมีมติเห็นชอบให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร, จังหวัดภูเก็ต, จังหวัดฉะเชิงเทรา, จังหวัดชลบุรี, จังหวัดระยอง, อำเภอสมุยจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงสถานบริการและกิจการ
นายกฯ ‘อนุทิน’ ตั้งเป้าแก้ปัญหา 4 ด้าน
หลัง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง ได้แถลงว่า จะเร่งแก้ปัญหา 4 ด้านที่เป็นภัยคุกคาม และส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน คือ
1.ปัญหาเศรษฐกิจ จะเร่งดำเนินมาตรการลดรายจ่าย ค่าครองชีพ ค่าพลังงาน ค่าเดินทาง ค่าขนส่ง ให้ประชาชนและผู้ประกอบการ รวมทั้งแก้ปัญหาหนี้สินให้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย และเสริมสร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการ ประชาชน และตลอดจนชุมชนท้องถิ่น
2.จะเร่งแก้ปัญหากรณีพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ด้วยแนวทางสันติภาพ เพื่อลดความสูญเสียของประชาชน แต่จะยึดหลักการไทยไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว คนไทยต้องไม่เสียประโยชน์ และดำเนินชีวิตอย่างปกติสุข โดยรัฐบาลจะเร่งชดเชยให้พี่น้องผู้ประสบภัยอย่างรวดเร็วและครอบคลุมทุกหลังคาเรือน ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาอาจล่าช้าไปบ้าง
3.เรื่องภัยธรรมชาติ จะต่อยอดทำระบบเตือนภัย โดย ปภ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่หยุดในการหาระบบเตือนภัย และระบบเยียวยาฟื้นฟู โดยจะเร่งชดเชยผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงทีและเป็นธรรม ซึ่งตนเองทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ควบ รมว.มหาดไทย ยืนยันว่าจะแก้ปัญหาทันที และไม่มีอุปสรรคใด ๆ
4.จะแก้ปัญหาภัยสังคม โดยจะเร่งปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติด ค้ามนุษย์ สแกมเมอร์ การพนัน การพนันออนไลน์ โดยสร้างความร่วมมือกับเพื่อนบ้าน และมิตรประเทศ
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง: