คอลัมนิสต์

การออมพอเกษียณ เป็นหนึ่งในวาระทางเศรษฐกิจและนโยบายสาธารณะที่ผู้มีส่วนได้เสียทุกคนควรให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น คน รัฐ และ สังคม

การเฉลิมฉลองเดือนไพรด์หรือเดือนแห่งความภาคภูมิใจด้านความหลากหลายทางเพศในเดือนมิถุนายน 2568 นี้ เป็นการฉลองเดือนไพรด์ครั้งแรกภายใต้บริบทที่สังคมไทยมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม

ผู้เขียนชวนไล่เรียงปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อทำความเข้าใจภาพใหญ่ และช่วยกันขบคิดอย่างมีสติว่ารัฐบาลและสังคมไทยควรจะเดินหน้าอย่างไร เพื่อหยุดเลือดและสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน

จากการแถลงตัวชี้เศรษฐกิจของสภาพัฒน์ ว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2568 ภายใต้รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร โต 3.1% และการให้สัมภาษณ์ของนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่าเป็นการเติบโตที่สูงกว่า 3% ติดต่อกัน 3 ไตรมาส เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 ปี และเป็นครั้งที่ 7 ในประวัติศาสตร์ไทย

“หวยเกษียณ” เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้รับเสียงสนับสนุนจากหลายฝ่าย ด้วยจุดแข็งที่ตอบโจทย์อุปนิสัยคนไทย และยังมาอุดช่องโหว่เรื่องการออมในปัจจุบันได้ ​แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงมีความท้าทายที่หลากหลายด้านในระยะยาว

ในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 จะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เหตุการณ์นี้ไม่ใช่เพียงวาระตามวัฏจักรของการเมืองท้องถิ่น หากแต่เป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนจะได้ใช้สิทธิในการกำหนดทิศทางของคุณภาพชีวิตในระดับใกล้ตัวที่สุด

แก่ก่อนรวยเป็นปัญหาที่ทำให้หลายคนไม่อาจใช้ชีวิตช่วงหลังเกษียณได้อย่างมีคุณภาพ นำมาสู่ความพยายามวางแผนการออมที่มีประสิทธิภาพเพียงพอสำหรับบั้นปลายชีวิต

บ่ายวันที่ 28 มีนาคม 2568 – วันศุกร์สิ้นเดือนที่คนไทยต้องเผชิญกับภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งในรอบหลายปี เหตุจากประเทศไทยเผชิญผลจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว ขนาด 8.2 ความลึก 10 กิโลเมตร โดยมีศูนย์กลางอยู่ในประเทศเมียนมา และแรงสะเทือนถึงประเทศไทยหลายพื้นที่รวม 63 จังหวัด

ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ทั้ง 4 ฉบับ ถูกสภาผู้แทนราษฎรเลื่อนการพิจารณาจาก เม.ย และ คาดว่าจะได้พิจารณาในสภาเดือน ก.ค. 2568 ขณะที่มีผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ