ThaiPBS Logo

ทรัพยากรน้ำ

การบริหารจัดการน้ำตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 กำหนดให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่จัดทำนโยบายและแผนแม่บทเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำในระยะ 20 ปี

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ตัดสินใจ
  • ดำเนินงาน
  • ประเมินผล

เริ่มนโยบาย

ขั้นตอนเริ่มต้นนโยบาย ประกาศนโยบายต่อสาธารณะ

วางแผน

ขั้นตอนวางแผน เสนอแผนงานต่างๆ

ตัดสินใจ

สนทช.เตรียมเสนอแผนการบริหารจัดการน้ำ 3 ปี ในสิ้นเดือนส.ค. 2567

ดำเนินงาน

ขั้นตอนการตรวจสอบการทำงาน

ประเมินผล

ขั้นตอนการประเมินผลการดำเนินการตามนโยบาย

ภาพรวม

อ่านเพิ่มเติม

  • ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 มาตราที่ 17 (1) ให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่จัดทำนโยบายและแผนแม่บทเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรน้ำที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีให้้ความเห็นชอบสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการปรับปรุงแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (ปรับปรุงช่วงที่ 1 พ.ศ. 2566–2580)ที่มีความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่ 19 การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 และแผนอื่นๆที่เกี่ยวข้องเพื่อเป็นกรอบแนวทางในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศในระยะ 20 ปี
  • แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (ปรับปรุงช่วงที่ 1 พ.ศ. 2566–2580) ได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เมื่อ 19 ต.ค. 65 สำนักงานสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เมื่อ 5 เม.ย. 66 และคณะรัฐมนนตรี เมื่อ 11 มิ.ย. 67

แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ (ปี พ.ศ. 2561 – 2580)

แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20  ปี (พ.ศ. 2561-2580) กำหนดวิสัยทัศน์ ดังนี้ “ทุกหมู่บ้านมีน้ำสะอาดอุปโภค บริโภค น้ำเพื่อการผลิตมั่นคง ความเสียหายจากอุทกภัยลดลง คุณภาพน้ำอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน บริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ภายใต้การพัฒนาอย่างสมดุล โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน”

ด้านที่ 1 การจัดการน้ำอุปโภค บริโภค มีเป้าประสงค์ในการจัดหาน้ำสะอาดเพื่อการอุปโภคบริโภคให้แก่ชุมชน ครบทุกหมู่บ้านหรือทุกครัวเรือน ชุมชนเมือง แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งการจัดหาแหล่งน้ำสำรองในพื้นที่ซึ่งขาดแคลนแหล่งน้ำต้นทุน พัฒนาน้ำดื่มให้ได้มาตรฐาน ในราคาที่เหมาะสม และการประหยัดน้ำ โดยลดการใช้น้ำภาคครัวเรือน ภาคบริการ และภาคราชการ

ด้านที่ 2 การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต มีเป้าประสงค์เพื่อพัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำและระบบส่งน้ำใหม่ให้เต็มศักยภาพ พร้อมทั้งการจัดหาน้ำในพื้นที่เกษตรน้ำฝน เพื่อขยายโอกาสจากศักยภาพโครงการขนาดเล็กและลดความเสี่ยงในพื้นที่ไม่มีศักยภาพ ลดความเสี่ยง/ความเสียหายลง ร้อยละ 50 รวมถึงการเพิ่มผลิตภาพและปรับโครงสร้างการใช้น้ำ โดยดำเนินการร่วมกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขันและด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมเพื่อยกระดับผลิตภาพด้านน้ำทั้งระบบ

ด้านที่ 3 การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย มีเป้าประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ การจัดระบบป้องกันน้ำท่วมชุมชนเมือง การจัดการพื้นที่น้ำท่วมและพื้นที่ชะลอน้ำ รวมทั้งการบรรเทาอุทกภัยในเชิงพื้นที่อย่างเป็นระบบ ในระดับลุ่มน้ำและพื้นที่วิกฤต (Area based) ลุ่มน้ำขนาดใหญ่ ลุ่มน้ำสาขา/ลดความเสี่ยงและความรุนแรงลงไม่น้อยกว่า ร้อยละ 60

ด้านที่ 4 การจัดการคุณภาพน้ำ และอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ มีเป้าประสงค์เพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพระบบรวบรวมและระบบบำบัดน้ำเสียรวมของชุมชน การนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่ ป้องกันและลดการเกิดน้ำเสียต้นทาง การควบคุมปริมาณการไหลของน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศ พร้อมทั้งพื้นฟูแม่น้ำ ลำคลอง และแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีความสำคัญในทุกมิติ เพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและใช้ประโยชน์ทั่วประเทศ

ด้านที่ 5 การอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรม และป้องกันการพังทลายของดิน มีเป้าประสงค์เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟู พื้นที่ป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรม การป้องกัน และลดการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่ต้นน้ำและพื้นที่ลาดชัน

ด้านที่ 6 การบริหารจัดการ มีเป้าประสงค์โดยการขับเคลื่อนการดำเนินการให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 และแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี อันประกอบด้วย การจัดทำกฎหมายรอง การจัดตั้งคณะกรรมการลุ่มน้ำ และองค์ลุ่มน้ำเพื่อเป็นกลไกในการจัดทำแผนและขับเคลื่อนแผนงาน/แผนปฏิบัติการในระดับลุ่มน้ำ การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการพัฒนางานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจ โดยพัฒนาเชื่อมโยงฐานข้อมูลทรัพยากรน้ำ และการสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการน้ำในระดับชุมชน

สาระสำคัญ

แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (ปรับปรุงช่วงที่ 1 พ.ศ. 2566-2580) ได้กำหนดวิสัยทัศน์ เพื่อให้ “ประเทศไทยมีการบริหารทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ภายใต้การพัฒนาอย่างสมดุลและมีพลวัต เพื่อความมั่นคงด้านน้ำในทุกมิติ” ภายใต้กรอบการพัฒนา 5 ด้าน ดังนี้

3.1 การจัดการอุปโภคบริโภค มีเป้าประสงค์เพื่อให้ประชาชนได้รับการบริการน้ำอุปโภคบริโภคขั้นพื้นฐานที่เท่าเทียมกัน มีแนวทางและเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญในระยะ 20 ปี ได้แก่ ก่อสร้างขยายเขต ปรับปรุงระบบ 32,701 แห่ง ประชาชนรับประโยชน์ 7.2 ล้านครัวเรือน จัดหาน้ำสำรอง/น้ำต้นทุน 174.13 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มกำลังผลิตประปาเมือง 2.88 ล้าน ลบ.ม./วัน การพัฒนาระบบประปาหมู่บ้านให้ได้มาตรฐานในราคาที่เหมาะสม เป็นต้น

3.2 การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต เพื่อรองรับเป้าหมายการพัฒนาการเศรษฐกิจลดความเสียหาย/เพิ่มรายได้ในพื้นที่เกษตร/เพิ่มผลิตในพื้นที่ที่มีน้ำมั่นคงแล้ว มีแนวทางและเป้าหมายการพัฒนา ที่สำคัญในระยะ 20 ปี ได้แก่ การจัดหาน้ำในพื้นที่เกษตรน้ำฝน 3,239 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 5.72 ล้านไร่ พัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำและผันน้ำ 4,505 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่ รับประโยชน์ 4.66 ล้านไร่การปรับปรุงซ่อมแซมโครงการที่ถ่ายโอนให้ อปท. ครบทุกโครงการ เพิ่มความจุการเก็บกักน้ำโครงการเดิมปริมาณน้ำ 57 ล้าน ลบ.ม. การจัดรูปที่ดินในโครงการชลประทานเดิม 3 ล้านไร่ เป็นต้น

3.3 การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย เพื่อลดความเสียหาย ชีวิต ทรัพย์สิน ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มีแนวทางและเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญในระยะ 20 ปี ได้แก่ ปรับปรุงลำน้ำสายหลัก 1,978.14 กม. ป้องกันน้ำท่วมชุมชนเมือง 380 แห่ง พื้นที่ได้รับการป้องกัน 779,985 ไร่ การจัดการพื้นที่น้ำท่วม 13 แห่ง ลดปริมาณน้ำหลาก 1,704 ล้าน ลบ.ม. สนับสนุนการปรับตัวและเผชิญเหตุ 37 ลุ่มน้ำสาขา การปรับปรุงเขื่อนเพื่อรองรับสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น

3.4 การอนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรน้ำ เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรน้ำให้เกิดความสมดุลลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมการบริหารจัดการ ขับเคลื่อนองค์กรด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระดับนโยบาย มีแนวทางและเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญในระยะ 20 ปี ได้แก่ ฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำ 1.375 ล้านไร่ ลดการชะล้างพังทลายของดิน 2.65 ล้านไร่ พัฒนาระบบบำบัดน้ำเสีย (เดิม/ใหม่) 759 แห่ง อนุรักษ์และฟื้นฟูแม่น้ำลำคลองและแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วประเทศ เป็นต้น

3.5 การบริหารจัดการ เพื่อขับเคลื่อนองค์กรด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระดับนโยบายและพื้นที่ กฎหมาย ระบบฐานข้อมูล เทคโนโลยี ส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชนรูปแบบเพื่อยกระดับการจัดการน้ำในพื้นที่และลุ่มน้ำ

แนวทางและเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญในระยะ 20 ปี ได้แก่ การปรับปรุงและจัดทำอนุบัญญัติตามกฎหมาย การพัฒนาและเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลด้านทรัพยากรน้ำ การติดตั้งระบบตรวจวัด ระบบเตือนภัยให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยงภัย การพัฒนาศักยภาพองค์กรระดับพื้นที่ เช่น คณะกรรมการลุ่มน้ำ คณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัด องค์กรผู้ใช้น้ำ การศึกษาวิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรมในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การจัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำภายใต้กฎหมาย การติดตามประเมินผลการดำเนินงานด้านทรัพยากรน้ำ และการส่งเสริมการจัดการน้ำในระดับชุมชน เป็นต้น เพื่อเป็นกลไกในการสนับสนุนการพัฒนาใน 4 มิติแรก และให้เกิดธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ

ที่มา: แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรนํ้า 20 ปี (ปรับปรุงช่วงที่ 1 พ.ศ. 2566 – 2580)

ลำดับเหตุการณ์

  • กนช. ตั้งศูนย์อำนวยการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ที่ จ.หนองคาย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำโขงอย่างใกล้ชิด หลังประเมินช่วงเดือน ก.ค.- ส.ค.ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีแนวโน้มเพิ่มสูงและล้นตลิ่งในจังหวัดภาคอีสาน  ดูเพิ่มเติม ›

    13 ก.ค. 2568

  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปีประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)รวม 55,003 รายการ วงเงิน 439,440.77 ล้านบาท

    4 มิ.ย. 2568

  • นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า กรุงเทพมหานคร น้ำจะไม่ท่วมรุนแรงเหมือนปี 2554 แน่นอน เพราะตอนนี้แม่น้ำเจ้าพระยาสามารถรับน้ำได้ 6,000 กว่าลูกบาศก์เมตร  ดูเพิ่มเติม ›

    8 ต.ค. 2567

  • นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุว่าจะต้องตั้งคณะกรรมการวางแผนบริหารจัดการนำระยะยาว เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งของประเทศ และร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน

    7 ต.ค. 2567

  • หอการค้าไทยเสนอรัฐบาลทบทวนและวางแผนการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ หลังมีแนวโน้มน้ำท่วมและน้ำแล้งมากขึ้น  ดูเพิ่มเติม ›

    30 ก.ย. 2567

  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำงบประจำปีงบประมาณประจำปี 2567 งบกลาง 3,045 ล้านบาท ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝนปี 2567   ดูเพิ่มเติม ›

    17 ก.ย. 2567

  • สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) คาดการณ์สถานการณ์น้ำท่วมในปีนี้ไม่รุนแรงเหมือนปี 2554 แม้ว่าจะเกิดน้ำท่วมหลักในหลายจังหวัดภาคเหนือ  ดูเพิ่มเติม ›

    26 ส.ค. 2567

  • ครม.อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง วงเงิน 9,187.4462 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝน   ดูเพิ่มเติม ›

    13 ส.ค. 2567

  • นายกรัฐมนตรีประชุมการบริหารจัดการน้ำ เตรียมแถลงใหญ่แผนบริหารจัดการน้ำสิ้นเดือนส.ค.นี้  ดูเพิ่มเติม ›

    5 ส.ค. 2567

  • ครม.รับทราบมาตรการ กนช. รับมือฤดูฝน ปี 2567 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในช่วงฤดูฝนปี 2567 และการกักเก็บน้ำเพื่อฤดูแล้ง ปี 2567/2568 พร้อมให้หน่วยงานดำเนินการ   ดูเพิ่มเติม ›

    4 มิ.ย. 2567

  • กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศสิ้นสุดฤดูร้อน และเริ่มต้นเข้าสู่ฤดูฝน  ดูเพิ่มเติม ›

    20 พ.ค. 2567

  • อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มท. กำชับกระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนมาตรการรองรับฤดูแล้ง 66/67 ป้องกันการขาดแคลนน้ำและลดผลกระทบ

    11 ธ.ค. 2566

  • ที่ประชุมกนช. เห็นชอบ (ร่าง) มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 66/67 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 67 และให้ สทนช. เสนอ ครม. เพื่อทราบต่อไป

    26 ต.ค. 2566

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง เผยนำร่องธนาคารน้ำใต้ดินที่ชัยนาท หวังป้องกันน้ำแล้ง

    14 ต.ค. 2566

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ลงพื้นที่ อุบลฯ ยโสธร และร้อยเอ็ด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

    6 - 7 ต.ค. 2566

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ตั้งเป้า 3 เดือนสถานการณ์น้ำท่วม-น้ำแล้งต้องดีขึ้น

    4 ต.ค. 2566

  • แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นรายจังหวัด

    13 ก.ย. 2566

  • กระทรวงเกษตรฯ ประชุมซักซ้อมเตรียมพร้อมแผนรองรับภัยแล้ง ปี 2566/67 คาดการณ์พื้นที่เสี่ยง 16.51 ล้านไร่

    21 ส.ค. 2566

รายละเอียด

ความสำเร็จของนโยบาย

เชิงโครงการ

แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี
บริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ภายใต้การพัฒนาอย่างสมดุล โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน
ดูเพิ่มเติม ›

เชิงกระบวนการ

การจัดการอุปโภคบริโภค
จัดหาน้ำสำรอง/น้ำต้นทุน 174.13 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มกำลังผลิตประปาเมือง 2.88 ล้าน ลบ.ม./วัน
ความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต
การจัดหาน้ำในพื้นที่เกษตรน้ำฝน 3,239 ล้าน ลบ.ม. พัฒนาแหล่งเก็บกักน้ำและผันน้ำ 4,505 ล้าน ลบ.ม.
จัดการน้ำท่วมและอุทกภัย
ปรับปรุงลำน้ำสายหลัก 1,978.14 กม. ป้องกันน้ำท่วมชุมชนเมือง 380 แห่ง
อนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศทรัพยากรน้ำ
ฟื้นฟูพื้นที่ป่าต้นน้ำ 1.375 ล้านไร่ ลดการชะล้างพังทลายของดิน 2.65 ล้านไร่ พัฒนาระบบบำบัดน้ำเสีย (เดิม/ใหม่) 759 แห่ง

เชิงการเมือง

การบริหารจัดการ
ส่งเสริมการประชาสัมพันธ์และการมีส่วนร่วมของประชาชนรูปแบบเพื่อยกระดับการจัดการน้ำในพื้นที่และลุ่มน้ำ

บทความ

ดูทั้งหมด
"ชาวบางบาล" ทุ่งรับน้ำ กับปัญหาจัดการน้ำไม่เป็นธรรม

"ชาวบางบาล" ทุ่งรับน้ำ กับปัญหาจัดการน้ำไม่เป็นธรรม

“ทุ่งบางบาล” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถูกประกาศเป็นพื้นที่รับน้ำ ที่ชาวบ้านใมนชุมชนนี้ยอมรับการมีวิถีชีวิตที่ต้องแบกรับน้ำก่อนระบายเข้า กทม. แต่วันนี้ชาวบางบาลตั้งคำถาม การบริหารจัดการน้ำเป็นธรรม ขาดการมีส่วนร่วม เงินช่วยเหลือมาช้า เสนอโมเดล “กองทุนแบ่งปันภาระ”

การเมืองไม่นิ่ง ไร้เจ้าภาพ แก้พิษน้ำกกปนเปื้อน

การเมืองไม่นิ่ง ไร้เจ้าภาพ แก้พิษน้ำกกปนเปื้อน

เมื่อการเมืองไม่นิ่ง ทำให้การแก้ปัญหาไร้เจ้าภาพ ทำให้การแก้ปัญหามลพิษแม่น้ำกกยังไม่มีความคืบหน้า ขณะที่ผลตรวจโลหะหนัก สารหนู ตะกั่ว และยูเรเนียม และมีความเชื่อมโยงกับเหมืองแร่ในประเทศเพื่อน

จับตาสถานการณ์น้ำปี 68 เสี่ยงแค่ไหนจะซ้ำรอยมหาอุทกภัยปี 54?

จับตาสถานการณ์น้ำปี 68 เสี่ยงแค่ไหนจะซ้ำรอยมหาอุทกภัยปี 54?

ปี 68 จะเป็นความท้าทายสำคัญของการบริหารจัดการน้ำของประเทศ เมื่อสถานการณ์น้ำและสภาพอากาศมีความใกล้เคียงกับช่วงที่เกิด “มหาอุทกภัย“ ในปี 54 แม้ว่าที่ผ่านมา หลายหน่วยงานมีการพัฒนาเครื่องการติดตามและการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เสี่ยง แต่จากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก ทำให้มีความเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมใหญ่

สุญญากาศการเมืองอย่าทำสะดุด! งานอย่างเยอะ ต้องไปต่อ รอไม่ได้

สุญญากาศการเมืองอย่าทำสะดุด! งานอย่างเยอะ ต้องไปต่อ รอไม่ได้

เมื่อ 'คลิปเสียง' สั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลอย่างรุนแรง ท่ามกลางความผันผวนของการเมืองที่ยังไม่รู้จะเป็นอย่างไรต่อ ปรากฏการณ์นี้ในอีกด้านหนึ่งกำลังส่งผลต่อการขับเคลื่อนนโยบายและการดำเนินการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของประชาชนที่อาจสะดุดได้

ท่องเที่ยวไม่ใช่สูตรสำเร็จ "นโยบายรายเกาะ" คือทางสู่ความยั่งยืน

ท่องเที่ยวไม่ใช่สูตรสำเร็จ "นโยบายรายเกาะ" คือทางสู่ความยั่งยืน

ปัญหาการจัดการการท่องเที่ยว การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ค่าครองชีพที่สูง และการเข้าถึงบริการพื้นฐานอย่างยากลำบาก ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญที่เกาะไทยกำลังเผชิญอยู่ ถึงเวลาที่ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมกันแก้ มองหา “เป้าหมายร่วมกัน” และออกแบบ “วิธีการ” หรือ “นโยบาย” ของตัวเอง ให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ เพื่อนำพาท

สำรวจเครื่องมือจัดการ 'น้ำปนเปื้อนข้ามแดน' ทั่วโลก

สำรวจเครื่องมือจัดการ 'น้ำปนเปื้อนข้ามแดน' ทั่วโลก

สถานการณ์สารหนูปนเปื้อนในแม่น้ำกกสะท้อนการจัดการปัญหาการปนเปื้อนทางน้ำข้ามพรมแดน การเรียนรู้จากกรณีศึกษาทั่วโลก ทำให้เห็นแนวทางการการจัดการปัญหาของแต่ละพื้นที่ และสามารถนำมาปรับใช้กับสถานการณ์ปัจจุบันได้