ThaiPBS Logo

พัฒนาตลาดทุน

ตลาดทุนนับว่ามีความสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นฉบับที่ 4 จากปี 2565–2570 ซึ่งเป็นช่วงที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงในหลายด้านที่สาคัญ คือ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สังคมสูงวัยและภูมิรัฐศาสตร์การเมือง ล้วนแต่กระทบต่อตลาดทุน

  • เริ่มนโยบาย
  • วางแผน
  • ตัดสินใจ
  • ดำเนินงาน
  • ประเมินผล

เริ่มนโยบาย

ขั้นตอนเริ่มต้นนโยบาย ประกาศนโยบายต่อสาธารณะ

วางแผน

ขั้นตอนวางแผน เสนอแผนงานต่างๆ

ตัดสินใจ

ขั้นตอนดำเนินงานตามนโยบายที่ประกาศไว้

ดำเนินงาน

ดำเนินการตามแผนพัฒนาตลาดทุนฯฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2565-2570)

ประเมินผล

ขั้นตอนการประเมินผลการดำเนินการตามนโยบาย

ภาพรวม

อ่านเพิ่มเติม

แผนพัฒนาตลาดทุนไทยฉบับที่ 3 (..2560–2564) ได้สิ้นสุดลงในปี 2564 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้แต่งตั้งคณะทางานจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุน ไทยเพื่อดำเนินการจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนฯฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2565-2570)

ตลาดหุ้น

ตามแผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 4 มีพัฒนาการที่สานต่อจากแผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 3 โดยคำนึงถึงปัจจัยความท้าทายและทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่สาคัญของสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจโลก (Mega Trends)ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนในหลายด้านที่สำคัญ

อาทิ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สังคมสูงวัย ภูมิรัฐศาสตร์การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่ รวมทั้งมุ่งเน้นการสร้างภูมิทัศน์ของภาคตลาดทุนไทยในอนาคตให้ตอบสนองเป้าหมายการขับเคลื่อนใน 7 ด้าน

  1. ความยั่งยืนของระบบเศรษฐกิจและการจัดสรรเงินทุนภายในประเทศได้อย่างเหมาะสม (Domestic Fund Mobilization)
  2. การเติบโตเชิงคุณภาพ (Quality Growth) และการส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนในตลาดทุนประกอบธุรกิจอย่างมีจริยธรรม
  3. การให้ความสาคัญกับการเข้าถึงตลาดทุน ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและวิสาหกิจเริ่มต้น (SmallandMedium-sizeEnterprises:SMEs/Startup) และผู้ลงทุนรายย่อยในการใช้ประโยชน์จากตลาดทุนมากข้ึน
  4. ตลาดทุนสามารถบรรลุเป้าหมายท่ีท้าทายมากข้ึน อาทิ ตำแหน่งในระดับสากล การเข้าถึงตลาดทุนของผู้ระดมทุนและผู้ลงทุน เพื่อการใช้ประโยชน์จากตลาดทุนได้มากข้ึน เป็นต้น
  5. การใช้ประโยชน์จากดิจิทัล และการใช้ประโยชน์จากข้อมูลร่วมกัน
  6. ความสอดคล้องกัน(Harmonization) ระหว่างสินทรัพย์ดั้งเดิมและสินทรัพย์ดิจิทัล รวนมถึงการสอดประสานและร่วมมือกันของหน่วยงานกกำกับดูแล(Cross- Discipline)
  7. สาธารณชนมีความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย(PublicTrustworthiness)

วิสัยทัศน์:

ตลาดทุน (กำลัง 4) เพื่อการพลิกฟื้นทางเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างแข็งแรง 1) “สานต่อตลาดทุนให้เป็นผู้นำระดับภูมิภาค 2) “ส่งเสริมทุกภาคส่วนให้เติบโตอย่างยั่งยืน 3) “สนับ สนุนทุกภาคส่วนให้ปรับสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และ 4) “เสริมสร้างความอยู่ดีมีสุขทางการเงินของประชาชน

พันธกิจ:

1) ตลาดทุนเพื่อการแข่งขันได้ 2) ตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน 3) ตลาดทุนดิจิทัล 4) ตลาดทุนเพื่อความอยู่ดีมีสุขทางการเงิน และ 5) ตลาดทุนที่ทุกฝ่ายได้ใช้ประโยชน์/เข้าถึงได้

ยุทธศาสตร์พัฒนาตลาดทุน

ยุทธศาสตร์ท่ี 1 ตลาดทุนเพื่อการแข่งขันได้ (Competitiveness) เป็นการเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของทุกภาคส่วนในตลาดทุนไทยและระบบเศรษฐกิจประกอบด้วย11แผนงานโดยมี แผนงานท่ีสาคัญเช่นการแก้ไขพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.. 2535

ยุทธศาสตร์ที่ 2 ตลาดทุนที่เข้าถึงได้(Accessibility)เป็นตลาดทุนท่ีเอื้อให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ ประกอบด้วย 8 แผนงาน โดยมีแผนงานที่สาคัญ เช่น การสนับสนุนให้กลุ่มธุรกิจเป้าหมายึ่งเป็นกลุ่ม อุตสาหกรรมใหม่แห่งอนาคต(NewEconomy) กลุ่มธุรกิจที่เน้นการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาต่อยอดจากอุตสาหกรรมเดิมเพื่อให้เติบโตต่อไปได้ในอนาคต (New S-curve) และกลุ่มธุรกิจด้านเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy: BCG) การระดมทุนผ่าน LiVE Exchange ซึ่งเป็นตลาดหลักทรัพย์สำหรับ SMEs และ Startup เป็นต้น

ยุทธศาสตร์ท่ี 3 ตลาดทุนดิจิทัล (Digitalization) เป็นการส่งเสริมประยุกต์และใชเ้ทคโนโลยีและดิจิทัล ในตลาดทุนประกอบด้วย 6 แผนงานโดยมีแผนงานที่สำคัญ เช่นโครงการ DigitalInfrastructure(DIF) เพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานกลางในตลาดทุน เป็นต้น

ยุทธศาสตร์ท่ี 4 ตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainability) เป็นการมุ่งเน้นส่งเสริมความยั่งยืนของทุกภาคส่วนท่ีเก่ียวข้องกับตลาดทุนไทยและระบบเศรษฐกิจในระยะยาวประกอบด้วยแผนงาน ได้แก่มาตรการส่งเสริม และพัฒนาให้ตลาดทุนไทยเติบโตอย่างยั่งยืน (ESG)

ยุทธศาสตร์ท่ี 5 ตลาดทุนเพื่อความอยู่ดีมีสุขทางการเงิน (Financialwell-being) เป็นการมุ่งเน้น สร้างผลลัพธ์ทางการเงินท่ีดี รวมถึงการสร้างโอกาสในการลงทุน โดยมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม ประกอบด้วย แผนงานโดยมีแผนงานที่สาคัญ เช่น การพัฒนาทักษะทางการเงินของคนไทย (Financial Literacy) ภายใต้แผนปฏิบัติบริการด้านการพัฒนาทักษะทางการเงินพ.. 2565–2570 การปรับปรุงพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.. 2530

แผนพัฒนาตลาดทุนฯฉบับท่ี 4 จะมีบทบาทในการผลักดดันยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติจริง ผ่านความร่วมมือจากทุกภาคส่วนอันจะส่งผลให้ตลาดทุนไทยเป็นกลไกในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพและสมดุล

รวมท้ังมีส่วนช่วยรักษาการเติบโตและสร้างการเติบโตรูปแบบใหม่ (New Growth) จากกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายส่งเสริมความยั่งยืนและเศรษฐกิจดิจิทัลป็นแหล่งสะสมความมั่งคั่ง (Wealth)ให้แก่ผู้ร่วมตลาดและมีความยืดหยุ่นต่อความเสี่ยงและภัยคุกคาม

ที่มา: กระทรวงการคลัง,สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

ลำดับเหตุการณ์

  • คณะรัฐมนตรี เห็นชอบแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4 (พ.ศ.2565–2570)

    31 ม.ค. 2566

  • เปิดอาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแห่งใหม่ ถ. รัชดาภิเษก เขตดินแดง ถ. รัชดาภิเษก เขตดินแดง

    31 พ.ค. 2559

  • ร่างแผนแม่บทพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 2 (2549-2553)

    1 ก.พ. 2549

  • แผนแม่บทพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 1 (2543-2548)

    12 มี.ค. 2544

  • เปลี่ยนชื่อภาษาอังกฤษเป็น "The Stock Exchange of Thailand" (SET) เ

    1 ม.ค. 2534

  • ประกาศใช้พระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517

    20 พ.ค. 2517

  • เปิดทำการซื้อขายขึ้นอย่างเป็นทางการครั้งแรกในวันที่ 30 เม.ย.2518

    30 เม.ย. 2518

  • จัดตั้ง การจัดตั้งตลาดหุ้นของไทยเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2505 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2510 - 2514) ได้เสนอให้มีการจัดตั้ง ตลาดหลักทรัพย์ที่มีระบบระเบียบขึ้นเป็นครั้งแรก  ดูเพิ่มเติม ›

    17 ก.ย. 2505

รายละเอียด

ความสำเร็จของนโยบาย

เชิงโครงการ

แผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่4(พ.ศ.2565–2570)
แผนพัฒนาตลาดทุนฯ ฉบับที่ 4 โดยคำนึงถึง ปัจจัยความท้าทายและทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจโลก(MegaTrends)ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนในหลายด้านที่สำคัญ อาทิ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สังคมสูงวัย ภูมิรัฐศาสตร์การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่

เชิงกระบวนการ

ตลาดทุนเพื่อการแข่งขันได้ (Competitiveness)
เพิ่มศักยภาพและขีด ความสามารถในการแข่งขันของทุกภาคส่วนในตลาดทุนไทยและระบบเศรษฐกิจ โดยมี แผนงานท่ีสาคัญเช่นการแก้ไขพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535
ตลาดทุนที่เข้าถึงได้(Accessibility)
เป็นตลาดทุนท่ีเอื้อให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ และเป็นตลาดหลักทรัพย์สำหรับ SMEs และ Startup
ตลาดทุนดิจิทัล (Digitalization)
ส่งเสริมประยุกต์และใชเ้ทคโนโลยีและดิจิทัลในตลาดทุน
ตลาดทุนเพื่อความยัง่ ยืน(Sustainability)
ส่งเสริมความยั่งยืนของทุกภาคส่วนท่ีเก่ียวข้องกับตลาดทุนไทยและระบบเศรษฐกิจในระยะยาวประกอบด้วยแผนงานได้แก่มาตรการส่งเสริม และพัฒนาให้ตลาดทุนไทยเติบโตอย่างยั่งยืน (ESG)
ตลาดทุนเพื่อความอยู่ดีมีสุขทางการเงิน(Financialwell-being)
มุ่งเน้น สร้างผลลัพธ์ทางการเงินท่ีดี รวมถึงการสร้างโอกาสในการลงทุน โดยมีการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม โดยมีแผนงานที่สำคัญ เช่น การพัฒนาทักษะทางการเงินของคนไทย (FinancialLiteracy) การปรับปรุงพ.ร.บ.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ.2530

เชิงการเมือง

กลไกสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพและสมดุล
ช่วยรักษาการเติบโตและสร้างการเติบโตรูปแบบใหม่ (New Growth) ส่งเสริมศรษฐกิจดิจิทัล เป็นแหล่งสะสมความมั่งคั่ง (Wealth)ให้แก่ผู้ร่วมตลาด

อินโฟกราฟิก

Image 0Image 1

บทความ

นโยบายรัฐบาลใหม่-เลือกตั้งปี 69 หนุนหุ้นไทยคึกคัก

นโยบายรัฐบาลใหม่-เลือกตั้งปี 69 หนุนหุ้นไทยคึกคัก

ตลาดหุ้นไทยอาจได้อานิสงส์ จาก 'อนุทิน' เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ตามมาด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และหากมีการเลือกตั้งปีหน้าตามที่แถลงไว้ จะทำให้เศรษฐกิจกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยปีหน้าจะมีการเลือกตั้งพร้อมกันทั้งสส.และผู้ว่ากทม. ในรอบ 30 ปี

15 บริษัทในตลาดหุ้นกระทบหนัก จากความขัดแย้งไทย-กัมพูชา

15 บริษัทในตลาดหุ้นกระทบหนัก จากความขัดแย้งไทย-กัมพูชา

ความขัดแย้งไทยและกัมพูชา ตลอดแนวชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ ทำให้มีการปิดด่านการค้าชายแดนและกระทบต่อการดำเนินธุรกิจไทยในกัมพูชา ต้องประกาศหยุดดำเนินการชั่วคราว โดยเฉพาะธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ที่ออกไปลงทุนในกัมพูชา ทำให้ความเสียหายอาจสูงกว่ามูลค่าการค้า โดเฉพาะรายใหญ่ใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรม

ขีดแข่งขันไทยวิกฤต “ถดถอยทุกด้าน” ร่วงอยู่อันดับ 30 โลก

ขีดแข่งขันไทยวิกฤต “ถดถอยทุกด้าน” ร่วงอยู่อันดับ 30 โลก

ขีดความสามารถแข่งขันของไทย “วิกฤต“ ถดถอยในทุกด้าน อันดับลดลง 5 อันดับ อยู่ที่ 30 จากทั้งหมด 69 แห่ สะท้อนมีข้อจำกัดในการรับความผันผวนในโลกยุคใหม่ โลกมาถึง “ยุคชาตินิยมยุคใหม่“ ผู้เชี่ยวชาญแนะถึงช่วงที่ “รอไม่ได้อีกต่อไป“