ในช่วงการแถลงนโยบายต่อสภาฯ รัฐบาลได้ประกาศการแจกเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยในเฟสแรกจะแจกเป็นเงินสดในกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน เริ่มวันแรก 25 ก.ย.นี้
ในเฟสแรกกลุ่มเปราะบาง จะโอนเงินเข้าบัญชีของผู้พิการ และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วงวันที่ 25-27 และ 30 ก.ย.นี้ รวมทั้งหมด 4 วัน โดยแบ่งเป็นกลุ่มตามเลขบัตรประชาชน ดังนี้
- วันที่ 25 ก.ย. 2567 ผู้พิการ 2.1 ล้านคน และผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 0
- วันที่ 26 ก.ย. 2567 ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 1, 2 และ 3
- วันที่ 27 ก.ย. 2567 ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 4, 5, 6 และ 7
- วันที่ 30 ก.ย.67 ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วยเลข 8 และ 9
สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน ซึ่งหากใครยังไม่ทำการผูกบัตรให้รีบไปดำเนินการ แต่หากทำไม่ทันตามกำหนดจ่ายเงิน ยังได้รับสิทธิ์เช่นเดิม เพียงแต่จะได้รับเงินล่าช้าออกไป และต้องดำเนินการผูกบัตรกับพร้อมเพย์ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้
หากไม่ทัน เมื่อครบกำหนด ทางการจะทำการดึงเงินกลับคืน ส่วนกลุ่มผู้พิการนั้น จะดำเนินการจ่ายเงินผ่านช่องทางของกรมบัญชีกลาง ซึ่งจะมีการจ่ายเบี้ยคนพิการให้ทุกเดือน
ประชาชนในกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ก็ยังเปิดให้ลงทะเบียนตามกำหนดเดิม คือ วันที่ 16 ก.ย.นี้ ผ่าน 3 ธนาคารรัฐ ได้แก่ ออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่าเหตุที่ต้องจัดกลุ่มแบบนี้ เพราะทยอยจ่ายเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ เพื่อให้ไม่กระทบกับการจ่ายเงินเดือน และสวัสดิการต่าง ๆ จึงมีการจัดเป็นรอบ เฉลี่ยรอบละ 4-5 ล้านคน โดยหลังจากรัฐบาลโอนเงินให้เรียบร้อย ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์สามารถถอนเงินออกได้เลย
ส่วนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 2 ยังดำเนินการต่อไป เพราะเป็นโครงการที่ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย เป็นเครื่องมือของรัฐบาลในอนาคตที่จะนำเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และเป็นการสร้างเศรษฐกิจดิจิทัล ส่วนจะพร้อมได้เมื่อไรนั้น ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับระบบเป็นหลัก หากระบบแล้วเสร็จ ก็คงจะได้มีการจ่ายเงินให้ประชาชนในเฟสที่ 2
ขณะนี้ มีผู้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” แล้วประมาณ 32 ล้านคน เมื่อหักกลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคนไปแล้ว ก็ต้องมาดูว่ายังเหลือประชาชนที่จะได้รับสิทธิอีกเท่าไร และจะดำเนินการจ่ายเงินอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายนโยบาย โดยทุกอย่างต้องค่อยเป็นไปทีละขั้นตอน
อ่านเพิ่มเติม: