“ระบบกลางทางกฎหมาย” เปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านเว็บไซต์ ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. ซึ่งเป็นร่างที่ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา วาระที่หนึ่ง โดยลงประกาศตั้งแต่ 15 ก.พ. 68 และจะสิ้นสุด 1 มี.ค. 68
ร่างพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว มีการปรับแก้ไขจากร่างของรัฐบาลที่ผ่านคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในหลายประเด็น โดยมีรายละเอียดดังนี้
เหตุผล
โดยที่ปัจจุบันการท่องเที่ยวเป็นภาคอุตสาหกรรมที่นำรายได้เข้าสู่ประเทศเป็นจำนวนมากประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น(Man-made Destinations) รวมทั้งให้มีธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศ และเป็นการส่งเสริมการจ้างแรงงานในประเทศ จำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมและกำกับดูแลการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรให้มีมาตรฐานอย่างเหมาะสม จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ….
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ….”
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เว้นแต่บทบัญญัติแห่งหมวด ๕ และหมวด ๖ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3 ในพระราชบัญญัตินี้ “ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร” หมายความว่า การให้บริการเพื่อการท่องเที่ยว การพักผ่อนหย่อนใจ หรือการสันทนาการ ในรูปแบบของสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้หลายประเภทรวมกันร่วมกับกาสิโน “สถานบันเทิงครบวงจร” หมายความว่า พื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
“กาสิโน” หมายความว่า สถานที่ส่วนหนึ่งของสถานบันเทิงครบวงจรที่กำหนดไว้เป็นการเฉพาะสำหรับจัดให้มีการเข้าเล่นหรือการเข้าพนัน
“ใบอนุญาต” หมายความว่า ใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
“ผู้รับใบอนุญาต” หมายความว่า ผู้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
“ผู้บริหาร” หมายความว่า ผู้จัดการหรือบุคคลซึ่งรับผิดชอบในการบริหารงานของผู้รับใบอนุญาตไม่ว่าโดยพฤติการณ์หรือโดยได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารของผู้รับใบอนุญาต
“บริษัทในกลุ่ม” หมายความว่า
(1) นิติบุคคลที่ผู้รับใบอนุญาตถือหุ้นตั้งแต่ร้อยละยี่สิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของนิติบุคคล
(2) นิติบุคคลที่มีผู้ถือหุ้นซึ่งถือหุ้นทั้งในนิติบุคคลนั้นและในนิติบุคคลที่เป็นผู้รับใบอนุญาต ตั้งแต่ร้อยละยี่สิบของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของนิติบุคคลและนิติบุคคลที่เป็นผู้รับใบอนุญาต
“สำนักงาน” หมายความว่า สำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
“เลขาธิการ” หมายความว่า เลขาธิการสำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 4 ประกาศของคณะกรรมการนโยบาย คณะกรรมการบริหาร และสำนักงานที่ออกตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
มาตรา 5 ให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงและประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของตนกฎกระทรวงและประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
หมวด 1 บททั่วไป
มาตรา 6 การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร จะกระทำได้เฉพาะที่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้
การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ที่ไม่มีสถานประกอบการกาสิโนให้สามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และให้นำมาตรา 12 มาใช้บังคับด้วย
มาตรา 7 การกำหนดบริเวณพื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยในพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวอย่างน้อยต้องกำหนดรายละเอียด ดังต่อไปนี้
(1) แนวเขตที่ดินที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรโดยชัดเจน
(2) แผนที่หรือแผนผังแสดงบริเวณพื้นที่ที่จะอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจร
มาตรา 8 ในการดำเนินการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจร ให้รัฐจัดให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องร่วมกันดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(1) ส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินการในการตามแผนการพัฒนาเพื่อจัดตั้งสถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรโดยสอดคล้องกับการพัฒนา และป้องกันมิให้สถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเกิดผลกระทบต่อสังคมโดยรวม และพัฒนาระบบการให้บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จครบวงจร
(2) จัดสรรงบประมาณ จัดหาแหล่งเงินที่เหมาะสมและจำเป็น รวมถึงการสนับสนุนด้านอื่นเพื่อให้การดำเนินการของหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องบรรลุวัตถุประสงค์ของการพัฒนาพื้นที่และการกำกับดูแลมิให้สถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรส่งผลกระทบต่อประชาชนของประเทศ
(3) สร้างบรรยากาศที่ดีสำหรับการประกอบกิจการ โดยลดขั้นตอนในการประกอบธุรกิจให้มีความสะดวกรวดเร็ว
(4) ส่งเสริมและสนับสนุนสถาบันการเงินไทยและต่างประเทศในการให้บริการทางการเงินในเขตพื้นที่เพื่อพัฒนาสถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรให้มีความสะดวก รวดเร็วและมีข้อจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นเพื่อการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจของประเทศ
มาตรา 9 การพิจารณาประกาศกำหนดพื้นที่ตามมาตรา 7 ให้คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่ความเหมาะสมทางด้านการเงิน ตลอดจนผลกระทบและแนวทางหรือมาตรการป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบดังกล่าวและความคุ้มค่าที่ประชาชนในพื้นที่และรัฐจะได้รับ โดยต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียผู้มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินข้างเคียง และหน่วยงานของรัฐที่ใช้ประโยชน์หรือดูแลที่ดินข้างเคียงหรือทางเข้าออกของที่ดินที่อาจได้รับผลกระทบจากการอนุญาตให้มีการตั้งสถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรและนำผลการรับฟังความคิดเห็นเสนอคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรนำไปประกอบการพิจารณาด้วย
การรับฟังความคิดเห็นตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
มาตรา 10 การดำเนินการเพื่อจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรภายในบริเวณพื้นที่ที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 6 ที่ต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม สุขภาพของประชาชนหรือชุมชนตามที่มีกฎหมายกำหนด ให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการเป็นการเฉพาะเพื่อพิจารณาให้ความเห็นหรือความเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ หรือกิจการนั้น โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่ได้รับรายงานที่ถูกต้องและมีข้อมูลครบถ้วน
ให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ต้องประกาศให้ประชาชนทราบถึงรายการเอกสารที่ต้องยื่นพร้อมกับรายงานตามวรรคหนึ่ง โดยระบุหัวข้อที่จะต้องจัดทำรายงานให้ชัดเจน และกำหนดระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการอำนวยความสะดวกในการอนุญาตของทางราชการโดยเคร่งครัดโดยให้ถือว่าการพิจารณารายงานเป็นการอนุญาตตามกฎหมายดังกล่าว
ให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษเพิ่มเติมจากสำนักงานหรือผู้ขออนุญาต และให้จ่ายค่าตอบแทนคณะกรรมการผู้ชำนาญการเพิ่มเติมเป็นพิเศษได้ตามที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกำหนด
ในกรณีที่ไม่มีผู้ชำนาญการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการหรือกิจการใดหรือมีแต่ไม่เพียงพอให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมีหน้าที่อนุญาตให้มีผู้ชำนาญการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นให้เพียงพอโดยเร็ว โดยมิให้นำบทบัญญัติว่าด้วยการขอและการออกใบอนุญาต และคุณสมบัติของผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้มีหน้าที่ศึกษาหรือจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติมาใช้บังคับ และจะอนุญาตให้ผู้ไม่มีสัญชาติไทยเป็นผู้มีหน้าที่ศึกษาหรือจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมก็ได้ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติกำหนด
มาตรา 11 การดำเนินการเพื่อจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรภายในบริเวณพื้นที่ที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาตามมาตรา 6 ที่ต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนให้คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจ…
มาตรา 12 ในการดำเนินการเพื่อจัดตั้งและประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหากคณะกรรมการนโยบายเห็นว่ากฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งใดก่อให้เกิดความไม่สะดวกหรือล่าช้า มีความซ้ำซ้อนหรือเป็นการเพิ่มภาระการดำเนินการโดยไม่จำเป็น หรือมีปัญหาหรืออุปสรรคอื่นใดให้คณะกรรมการนโยบายเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้มีการดำเนินการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือคำสั่งดังกล่าว หรือมีกฎหมายขึ้นใหม่ เพื่อให้การดำเนินการจัดตั้งและประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรมีประสิทธิภาพ สะดวก และรวดเร็ว
หมวด 2 คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร
มาตรา 13 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร” เรียกโดยย่อว่า “คณะกรรมการนโยบาย” ประกอบด้วย
(1) นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ
(2) รองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ
(3) กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวนเก้าคน ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
(4) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกินหกคน ซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์ การบริหารธุรกิจ กฎหมาย การท่องเที่ยว หรือสังคม
ให้เลขาธิการเป็นกรรมการและเลขานุการ
มาตรา 14 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
ก. คุณสมบัติ
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปีในวันที่ได้รับแต่งตั้ง
ข. ลักษณะต้องห้าม
(1) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(2) เป็นข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้าง ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐอื่น หรือราชการส่วนท้องถิ่น และไม่เป็นกรรมการหรือที่ปรึกษาของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐอื่น เว้นแต่เป็นหรือเคยอาจารยสอนในสถาบันอุดมศึกษามาแล้วไม่น้อยกว่าสามปีในวิชาการที่เหมาะสมในการกำหนดนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร
(3) เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น กรรมการหรือผู้ดำรงตำแหน่งที่รับผิดชอบบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง เว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
(4) ดำรงตำแหน่งกรรมการ ผู้จัดการ บุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการพนักงาน ลูกจ้าง ที่ปรึกษาหรือตำแหน่งอื่นใดในธุรกิจที่เกี่ยวข้องหรือเกี่ยวเนื่องกับสถานบันเทิงครบวงจร
(5) เป็นหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(6) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ หรือทจากหน่วยงานของเอกชน เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
(7) เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(8) เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
มาตรา 15 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี
เมื่อกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งตามวาระในวรรคหนึ่ง ให้ดำเนินการเพื่อแต่งตั้ง กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งในระหว่างที่ยังมิได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นใหม่ ให้กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว
มาตรา 16 นอกจากการพ้นตำแหน่งตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ออกจากตำแหน่ง เพราะบกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือหย่อนความสามารถ ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวต้องแสดงเหตุผลอย่างชัดแจ้ง
(4) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๗
ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตำแหน่งที่ว่างลงภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ตำแหน่งว่างลงในกรณีที่วาระการดำรงตำแหน่งเหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งร้อยยี่สิบวันจะไม่แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิขึ้นดำรงตำแหน่งแทนก็ได้
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่าง ให้มีวาระการดำรงตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ตนได้รับตำแหน่งแทนในระหว่างที่ยังมิได้มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิแทนตำแหน่งที่ว่างลงตามวรรคสองหรือในกรณีที่ไม่มีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามวรรคสาม ให้คณะกรรมการนโยบายประกอบด้วยกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่
มาตรา 17 การประชุมและการลงมติของคณะกรรมการนโยบาย ให้เป็นไปตามข้อบังคับการประชุมที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
มาตรา 18 ให้คณะกรรมการนโยบายมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) เสนอแนะการกำหนดพื้นที่ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีและแนวทางการกำหนดจำนวนใบอนุญาต
(2) เสนอแนะอัตราภาษีที่เกี่ยวข้องกับกาสิโนต่อคณะรัฐมนตรี
(3) กำหนดนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร และกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการบริหารจัดการสถานบันเทิงครบวงจร
(4) กำหนดกำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานบันเทิงครบวงจร และกำหนดค่าใช้จ่ายของสำนักงานเพื่อการดังกล่าว
(5) กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางในการดำเนินธุรกิจตามประเภท ลักษณะ และขนาดของธุรกิจสถานบันเทิงที่อาจดำเนินการได้ในสถานบันเทิงครบวงจรตามพระราชบัญญัตินี้
(6) กำหนดสัดส่วนพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร ทั้งนี้ ต้องไม่เกินร้อยละสิบของที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานบันเทิงครบวงจร ในกรณีที่กาสิโนตั้งอยู่ในอาคารใดให้นับจากพื้นที่อาคารนั้นทั้งหมด
(7) กำหนดวันเวลาสำหรับการเปิดและปิด รวมทั้งสถานที่ตั้งของสถานบริการและกาสิโน เวลาและสถานที่ห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเขตสูบบุหรี่ในเขตสถานบันเทิงครบวงจร
(8) กำหนดวิธีการลงทะเบียนและอัตราค่าธรรมเนียมของผู้มีสัญชาติไทยที่จะเข้ากาสิโน แต่ต้องไม่เกินอัตราตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้
(9) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และประเภทเพื่อให้แสดงหลักฐานในการแสดงที่มาและวงเงินแก่ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในกาสิโน
(10) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต และอัตราค่าธรรมเนียมโดยจะกำหนดเป็นอัตราเดียวหรือหลายอัตราตามปีที่ได้รับใบอนุญาตก็ได้แต่ต้องไม่เกินอัตราตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้
(11) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การเปลี่ยนแปลงกรรมการ ผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นโครงสร้างองค์กร หรือการนำหุ้นไปเป็นหลักประกันการชำระหนี้ของผู้รับใบอนุญาต
(12) พิจารณาให้ต่ออายุ หรือเพิกถอนใบอนุญาต
(13) พิจารณาการโอนสิทธิตามใบอนุญาตให้บุคคลอื่น ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
(14) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเลิกประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
(15) กำกับการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหาร
(16) แต่งตั้งเลขาธิการหรือให้เลขาธิการพ้นจากตำแหน่ง
(17) ออกข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้
(18) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบาย หรือตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรี
มาตรา 19 คณะกรรมการนโยบายอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการนโยบายมอบหมายก็ได้ในการประชุมคณะอนุกรรมการ ให้นำข้อบังคับการประชุมที่คณะกรรมการนโยบายกำหนดตามมาตรา 17 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ในกรณีที่คณะกรรมการนโยบายมอบหมายให้คณะอนุกรรมการคณะใดทำการแทนคณะกรรมการนโยบาย ให้คณะอนุกรรมการดังกล่าวรายงานการทำการแทนนั้นต่อประธานกรรมการนโยบายเพื่อแจ้งให้คณะกรรมการนโยบายทราบต่อไป และให้ถือว่าการดำเนินการของคณะอนุกรรมการเป็นการดำเนินการของคณะกรรมการนโยบาย
มาตรา 20 ให้ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการ ประธานคณะอนุกรรมการและอนุกรรมการ ได้รับเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนดและให้ถือเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของสำนักงาน
หมวด 2 คณะกรรมการบริหาร
มาตรา 21 ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการบริหาร” ประกอบด้วย
(1) บุคคลซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง เป็นประธานกรรมการ
(2) กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวนสิบเอ็ดคน ได้แก่ ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปลัดกระทรวงสาธารณะสุข ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด อธิบดีกรมการปกครอง และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ
(3) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวนไม่เกินห้าคน ซึ่งนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้ความสามารถด้านเศรษฐศาสตร์ การบริหารธุรกิจ กฎหมาย การท่องเที่ยว และสังคม ด้านละหนึ่งคนให้เลขาธิการเป็นเลขานุการ
มาตรา 22 ให้นำบทบัญญัติมาตรา 14 มาตรา 15 และมาตรา 16 มาใช้บังคับแก่ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารโดยอนุโลม
มาตรา 23 ให้คณะกรรมการบริหารมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ สถานที่และเงื่อนไข ในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เกี่ยวกับกาสิโน
(2) กำหนดลักษณะของพนักงานที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน
(3) กำหนดหลักเกณฑ์ ประเภท คุณสมบัติ มาตรฐาน ความปลอดภัย และอาชีวอนามัยของพนักงานในสถานบันเทิงครบวงจร
(4) กำหนดหลักเกณฑ์ ประเภท ลักษณะ วิธีการเล่น และรายละเอียดในกาสิโน
(5) พิจารณาอุทธรณ์เรื่องร้องเรียนที่เกี่ยวกับสถานบันเทิงครบวงจร ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารกำหนด
(6) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอรับใบแทนใบอนุญาต
(7) พิจารณาอนุมัติแผนยุทธศาสตร์ แผนการดำเนินงาน แผนการใช้จ่ายเงินและงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงาน และรายงานต่อคณะกรรมการนโยบาย
(8) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการใช้เงิน หรือทรัพย์สินของสำนักงาน
(9) กำหนดค่าใช้จ่ายของสำนักงานตามมาตรา ๓๗ วรรคสอง
(10) กำหนดหลักเกณฑ์และอัตราในการจัดเก็บค่าบริการ ค่าตอบแทน หรือเงินที่เรียกชื่ออย่างอื่นในการดำเนินการต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ของสำนักงาน
(11) กำหนดข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล การเงิน การงบประมาณ การพัสดุการมอบอำนาจของเลขาธิการ การตรวจสอบภายใน ประโยชน์ตอบแทนและสวัสดิการต่าง ๆ ของบุคคลากรของสำนักงาน
(12) คัดเลือกและประเมินผลการปฏิบัติงานของเลขาธิการ เพื่อประโยชน์ในการเสนอการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง หรือเสนอความเห็นให้เลขาธิการพ้นจากตำแหน่งต่อคณะกรรมการนโยบาย
(13) กำหนดตำแหน่ง อัตราเงินเดือน และค่าตอบแทนอื่นของเลขาธิการ พนักงาน และลูกจ้างของสำนักงาน
(14) แต่งตั้งบุคคลเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ชำนาญการเฉพาะด้าน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงาน รวมทั้งกำหนดจำนวน อัตราค่าตอบแทน และระยะเวลาการปฏิบัติงานของผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว
(15) รายงานการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ต่อคณะกรรมการนโยบาย ตามระยะเวลาที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
(16) ออกข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจตามพระราชบัญญัตินี้
(17) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็นหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการบริหาร หรือตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีหรือคณะกรรมการนโยบาย
มาตรา 24 คณะกรรมการบริหารอาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการบริหารมอบหมายก็ได้และให้นำมาตรา 19 วรรคสามมาใช้บังคับโดยอนุโลม
มาตรา 25 ในการประชุมคณะกรรมการบริหารและคณะอนุกรรมการ ให้นำข้อบังคับการประชุมที่คณะกรรมการนโยบายกำหนดตามมาตรา 17 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
หมวด 3 สำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
มาตรา 26 ให้มีสำนักงานกำกับการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร มีวัตถุประสงค์ในการกำกับ ดูแล ควบคุม ส่งเสริม และสนับสนุนสถานบันเทิงครบวงจรให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
สำนักงานเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลและไม่เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน หรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือกฎหมายอื่นสำนักงานเป็นหน่วยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลที่เป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือฎหมายอื่น แต่ในกรณีที่รัฐจะจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไปหรืองบประมาณอื่นใดให้แก่สำนักงาน ให้สำนักงบประมาณมีหน้าที่จัดสรรเงินงบประมาณให้แก่ สำนักงานได้โดยตรง
กิจการของสำนักงานไม่อยู่ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน แต่พนักงานและลูกจ้างของสำนักงานต้องได้รับประโยชน์ตอบแทนไม่น้อยกว่าที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยประกันสังคม และกฎหมายว่าด้วยเงินทดแทน
มาตรา 27 นอกจากหน้าที่และอำนาจในการดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามมาตรา 26 วรรคหนึ่ง ให้สำนักงานมีหน้าที่ปฏิบัติงานธุรการให้แก่คณะกรรมการนโยบายและคณะกรรมการบริหาร รวมทั้งให้มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) ศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับสถานบันเทิงครบวงจร
(2) ศึกษา วิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีเกี่ยวกับสถานบันเทิงครบวงจร
(3) ศึกษาวิเคราะห์ผลกระทบจากการกำหนดและการดำเนินการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร รวมตลอดทั้งแนวทางหรือมาตรการป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการนโยบาย
(4) ดำเนินการตามนโยบายป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานบันเทิงครบวงจรตามที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
(5) กำกับ ตรวจสอบ ควบคุม และติดตามการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรของผู้รับใบอนุญาต
(6) กำหนดลักษณะของบุคคลต้องห้ามมิให้เข้ากาสิโน หรือออกคำสั่งห้ามมิให้ผู้ใดเข้ากาสิโน
(7) รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อตรวจสอบ และพิจารณาออกคำสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตแก้ไขหรือดำเนินการอื่นใดให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
(8) เสนอแนะข้อมูลและความเห็นต่อคณะกรรมการนโยบายเพื่อพิจารณาให้ ต่ออายุ หรือเพิกถอนใบอนุญาต
(9) จัดทำแผนยุทธศาสตร์ แผนการดำเนินงาน แผนการใช้จ่ายเงินและงบประมาณรายจ่ายประจำปีของสำนักงาน เสนอต่อคณะกรรมการบริหารเพื่อพิจารณา
(10) จัดทำรายงานประจำปีเกี่ยวกับการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้เสนอคณะกรรมการนโยบายเพื่อเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อทราบ
(11) เสนอแนะหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการใช้จ่ายเงิน หรือทรัพย์สินของสำนักงานต่อคณะกรรมการบริหารเพื่อพิจารณา
(12) ประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน
(13) ประสานงานกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินการสถานบันเทิงครบวงจรเป็นไปตามนโยบาย แผน และมาตรการที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
(14) ออกข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่ง เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 28 ให้สำนักงานมีเลขาธิการคนหนึ่งซึ่งคณะกรรมการนโยบายแต่งตั้ง มีหน้าที่บริหารกิจการของสำนักงาน และอาจมีรองเลขาธิการตามจำนวนที่คณะกรรมการบริหารกำหนดเพื่อบริหารกิจการของสำนักงานตามที่เลขาธิการมอบหมายให้เลขาธิการเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน
มาตรา 29 ผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นเลขาธิการและรองเลขาธิการต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
ก. คุณสมบัติ
(1) มีสัญชาติไทย
(2) มีอายุไม่เกินหกสิบห้าปีบริบูรณ์ในวันที่ได้รับการแต่งตั้ง
(3) สามารถปฏิบัติงานให้แก่สำนักงานได้เต็มเวลา
(4) เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในด้านที่เกี่ยวกับภารกิจของสำนักงานและการบริหารจัดการ
ข. ลักษณะต้องห้าม
(1) เป็นหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(2) เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(3) เป็นข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้าง ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐหรือราชการส่วนท้องถิ่น และไม่เป็นกรรมการหรือที่ปรึกษาของหน่วยงานดังกล่าว
(4) เป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่น กรรมการ หรือผู้ดำรงตำแหน่งที่รับผิดชอบบริหารพรรคการเมือง ที่ปรึกษาพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่พรรคการเมือง เว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
(5) ดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่งกรรมการ ผู้จัดการ บุคคลผู้มีอำนาจในการจัดการพนักงาน ลูกจ้าง ที่ปรึกษา หรือตำแหน่งอื่นใดในธุรกิจที่เกี่ยวข้องหรือเกี่ยวเนื่องกับธุรกิจกาสิโนเว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหน่งมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี
(6) เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานของเอกชน เพราะทุจริตต่อหน้าที่หรือถือว่ากระทำการทุจริตหรือประพฤติมิชอบ
(7) เคยต้องคำพิพากษาให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ
(8) เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม หรือกระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดหรือกฎหมายเกี่ยวกับการพนันในฐานความผิดเป็นเจ้ามือหรือเจ้าสำนัก
(9) เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(10) เคยพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุตามมาตรา 32 (5)
มาตรา 30 การแต่งตั้งเลขาธิการและรองเลขาธิการ ให้ทำเป็นสัญญาจ้างตามแบบที่คณะกรรมการบริหารกำหนดโดยประธานกรรมการบริหารเป็นผู้ลงนามในสัญญาจ้าง
สัญญาจ้างตามวรรคหนึ่ง อย่างน้อยต้องมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่ง เงื่อนไขการทำงาน การประเมินผลงาน การพ้นจากตำแหน่ง การเลิกจ้าง ค่าจ้าง และประโยชน์ตอบแทนอื่นของเลขาธิการและรองเลขาธิการให้คณะกรรมการบริหารจัดทำบัญชีอัตราค่าจ้างขั้นสูงและขั้นต่ำของเลขาธิการและรองเลขาธิการ เลขาธิการมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระไม่ได้ไม่ว่าวาระการดำรงตำแหน่งจะติดต่อกันหรือไม่ ก่อนครบกำหนดตามวาระการดำรงตำแหน่งของเลขาธิการไม่น้อยกว่าสามสิบวันแต่ไม่เกินหกสิบวัน หรือภายในสามสิบวันนับแต่วันที่เลขาธิการพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้คณะกรรมการบริหารแต่งตั้งเลขาธิการคนใหม่
มาตรา 31 ในแต่ละปี ให้คณะกรรมการบริหารประเมินผลการปฏิบัติงานของเลขาธิการ
มาตรา 32 นอกจากการพ้นตำแหน่งตามวาระ เลขาธิการและรองเลขาธิการพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(1) ตาย
(2) ลาออก
(3) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๒๙
(4) ไม่ผ่านการประเมินผลงาน
(5) คณะกรรมการบริหารมีมติให้เลิกจ้างเพราะทุจริตต่อหน้าที่ บกพร่องต่อหน้าที่ มีความประพฤติเสื่อมเสีย หรือหย่อนความสามารถเมื่อเลขาธิการพ้นจากตำแหน่ง ให้รองเลขาธิการพ้นจากตำแหน่งด้วยการไม่ผ่านการประเมินตาม (4) ให้ถือว่าเป็นการเลิกจ้างเพราะผิดสัญญาจ้าง
มาตรา 33 ให้เลขาธิการบริหารงานของสำนักงานให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามภารกิจของสำนักงานและเป็นผู้บังคับบัญชาพนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน และมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) บริหารงานของสำนักงานตามกฎหมาย นโยบายของรัฐบาล มติคณะรัฐมนตรีมติคณะกรรมการนโยบาย และมติคณะกรรมการบริหาร
(2) วางระเบียบการดำเนินงานของสำนักงานโดยไม่ขัดหรือแย้งกับกฎหมาย มติคณะรัฐมนตรีและข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่ง และมติของคณะกรรมการนโยบายหรือมติคณะกรรมการบริหาร
(3) ประเมินผลการปฏิบัติงานของรองเลขาธิการ
(4) บังคับบัญชา บรรจุ แต่งตั้ง ถอดถอน เลื่อน ลด ตัดเงินเดือนหรือค่าจ้าง ประเมินผลการปฏิบัติงาน ดำเนินการทางวินัย และลงโทษทางวินัยพนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน ตลอดจนให้พนักงานหรือลูกจ้างของสำนักงานออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ ตามข้อบังคับที่คณะกรรมการบริหารกำหนด แต่ถ้าเป็นตำแหน่งรองเลขาธิการและผู้ตรวจสอบภายในต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายก่อน
(5) เป็นนายจ้างของพนักงานและลูกจ้างของสำนักงาน ซึ่งเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในราชอาณาจักร
(6) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของเลขาธิการ หรือตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการนโยบายหรือคณะกรรมการบริหาร
มาตรา 34 ในกิจการของสำนักงานที่เกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอก ให้เลขาธิการเป็นผู้แทนของสำนักงาน ในกรณีที่เลขาธิการไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้รองเลขาธิการหรือบุคคลที่รองเลขาธิการมอบหมายโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารเป็นผู้รักษาการแทนเลขาธิการจะมอบอำนาจให้บุคคลใดปฏิบัติงานแทนก็ได้แต่ต้องเป็นไปตามข้อบังคับที่คณะกรรมการบริหารกำหนด
มาตรา 35 ภายในสองปีนับแต่วันพ้นจากตำแหน่ง เลขาธิการจะประกอบธุรกิจหรือทำงานให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจในสถานบันเทิงครบวงจรไม่ได้
มาตรา 36 ในการดำเนินงานของสำนักงาน นอกจากหน้าที่และอำนาจตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 27 แล้ว ให้สำนักงานมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้ด้วย
(1) ถือกรรมสิทธิ์ มีสิทธิครอบครอง มีทรัพยสิทธิและสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
(2) ก่อตั้งสิทธิ หรือทำนิติกรรมทุกประเภท เพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการของสำนักงาน
(3) เรียกเก็บค่าบริการ ค่าตอบแทน หรือเงินที่เรียกชื่ออย่างอื่นในการดำเนินการต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ของสำนักงาน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และอัตราที่คณะกรรมการบริหารกำหนด
(4) กู้ยืมเงินเพื่อใช้จ่ายในกิจการของสำนักงาน
(5) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน หรือตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการนโยบาย หรือคณะกรรมการบริหาร
มาตรา 37 รายได้ของสำนักงานมี ดังต่อไปนี้
(1) เงินอุดหนุนทั่วไปที่รัฐบาลจัดสรรให้ตามความเหมาะสมและจำเป็น
(2) เงินอุดหนุนจากหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ
(3) รายได้ที่ได้จากการดำเนินงานของสำนักงาน
(4) เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้
(5) ค่าบริการ ค่าตอบแทน หรือเงินที่เรียกชื่ออย่างอื่นในการดำเนินการต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ของสำนักงาน
(6) เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้ หรือตกเป็นของสำนักงาน
(7) ดอกผลหรือผลประโยชน์อื่นที่เกิดจากเงินหรือทรัพย์สินของสำนักงานเงินและทรัพย์สินของสำนักงานตามวรรคหนึ่ง เมื่อหักค่าใช้จ่ายซึ่งคณะกรรมการนโยบายกำหนด
ตามพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายสำหรับการดำเนินการป้องกัน แก้ไข หรือเยียวยาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานบันเทิงครบวงจรตามมาตรา 18 (4) และค่าใช้จ่ายของสำนักงานตามที่คณะกรรมการบริหารกำหนด เหลือเท่าใดให้สำนักงานนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
มาตรา 38 บรรดาอสังหาริมทรัพย์ที่สำนักงานได้มาโดยการซื้อหรือแลกเปลี่ยนจากรายได้หรือทรัพย์สินของสำนักงานให้เป็นกรรมสิทธิ์ของสำนักงานทรัพย์สินของสำนักงานไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีเว้นแต่ทรัพย์สินซึ่งเป็นหลักประกันการชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมหรือสัญญาอื่น
มาตรา 39 การบัญชีและรายงานการเงินของสำนักงานให้จัดตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
มาตรา 40 ให้สำนักงานจัดให้มีการตรวจสอบภายในเป็นประจำให้คณะกรรมการบริหารแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนไม่น้อยกว่าสามคนเป็นคณะกรรมการตรวจสอบ เพื่อเสนอความเห็นเกี่ยวกับผลการตรวจสอบภายในต่อคณะกรรมการบริหารในการตรวจสอบภายใน ให้ผู้ตรวจสอบภายในรายงานผลการตรวจสอบโดยตรงต่อคณะกรรมการตรวจสอบให้นำบทบัญญัติว่าด้วยคณะกรรมการที่มีอำนาจดำเนินการพิจารณาทางปกครองตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองมาใช้บังคับแก่การประชุมของคณะกรรมการตรวจสอบด้วยโดยอนุโลม
มาตรา 41 ให้สำนักงานจัดทำรายงานการเงินประจำปีงบประมาณ ซึ่งอย่างน้อยจะต้องประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงินและงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน รวมถึงการก่อหนี้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด แล้วส่งรายงานทางการเงินให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภายในเก้าสิบวันนับแต่วันสิ้นปีงบประมาณ ให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหรือผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเห็นชอบเป็นผู้ตรวจสอบรายงานทางการเงินของสำนักงาน
มาตรา 42 ให้สำนักงานนำส่งรายงานการเงินประจำปีพร้อมกับรายงานผลการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินให้คณะกรรมการนโยบายเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีและให้สำนักงานเปิดเผยให้สาธารณชนทราบ รวมทั้งเผยแพร่ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ด้วย ทั้งนี้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับรายงานผลการตรวจสอบจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน
หมวด 4 พนักงานเจ้าหน้าที่
มาตรา 43 ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยให้มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) เข้าไปในสถานที่ดำเนินการสถานบันเทิงครบจรหรือสถานที่ตั้งของผู้รับใบอนุญาตในระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก หรือในเวลาทำการได้ เพื่อสังเกตการณ์หรือตรวจสอบการดำเนินการใด ๆ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
(2) เรียกเอกสารหรือหลักฐานจากผู้รับใบอนุญาต กรรมการหรือพนักงานของผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเรียกให้บุคคลดังกล่าวมาให้ถ้อยคำ เพื่อตรวจสอบการดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
(3) เข้าถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของกาสิโนเพื่อตรวจสอบการดำเนินการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้โดยมีผู้แทนซึ่งได้รับมอบหมายจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญกรรมทางเทคโนโลยีร่วมอยู่ด้วย
(4) ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน เอกสาร หรือหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เพื่อประโยชน์ในการสอบสวนข้อเท็จจริงหรือการดำเนินคดี ทั้งนี้ การออกคำสั่งยึดหรืออายัดดังกล่าวจะต้องระบุเหตุผล ความจำเป็น และสิทธิของผู้ถูกยึดหรืออายัดนั้น โดยมีพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาร่วมดำเนินการอยู่ด้วย
(5) รับและตรวจสอบเรื่องร้องเรียนหรือข้อพิพาทจากผู้ใช้บริการในกาสิโน
(6) สั่งให้หยุดการเล่นหรือการเข้าพนันใด ๆ ในกาสิโนที่ไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ หรืออาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือความวุ่นวาย
(7) ตรวจสอบหรือทดสอบเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกาสิโน และสั่งให้หยุดใช้เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ดังกล่าวในกรณีที่พบว่าเครื่องมือหรืออุปกรณ์ดังกล่าวไม่อยู่ในสภาพที่สมควรใช้งาน
(8) สั่งให้บุคคลซึ่งอยู่ในกาสิโนแจ้งชื่อหรือข้อมูลอื่นใดเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยได้ว่าบุคคลดังกล่าวดำเนินการฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้
(9) ตรวจสอบการดำเนินงานของผู้รับใบอนุญาตเกี่ยวกับการเชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์หรือจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เกี่ยวกับกาสิโนแล้วรายงานต่อคณะกรรมการบริหาร
(10) รายงานผลการดำเนินงานของผู้รับใบอนุญาตต่อเลขาธิการ
(11) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารหรือเลขาธิการ ในกรณีนี้หากเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายอื่นให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนั้นร่วมดำเนินการอยู่ด้วย
มาตรา 44 ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวแก่บุคคลที่เกี่ยวข้องแบบบัตรประจำตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการบริหารประกาศกำหนด
มาตรา 45 ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้เลขาธิการ รองเลขาธิการ และพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
หมวด 5 การอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
มาตรา 46 ในการอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ต้องกำหนดให้มีใบอนุญาตตามจำนวนกิจการหรือธุรกิจในสถานบันเทิงตามที่ระบุไว้ในบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้อย่างน้อยสี่ประเภทร่วมกับกาสิโน และให้ถือว่าผู้ได้รับใบอนุญาตในกิจการใดกิจการหนึ่ง เป็นผู้ได้รับอนุญาตในกิจการอื่นที่ประกอบกันเป็นสถานบันเทิงครบวงจร โดยไม่ต้องยื่นคำขอมีใบอนุญาตเป็นรายกิจการใหม่อีก และให้ระบุการได้รับอนุญาตสำหรับกิจการที่ได้รับอนุญาตหรือใบอนุญาตอื่นให้ชัดแจ้งไว้ในใบอนุญาตทุกใบด้วย
มาตรา 47 สถานบันเทิงครบวงจรต้องตั้งอยู่ในบริเวณเขตพื้นที่ตามที่กำหนดเท่านั้น โดยจะต้องประกอบด้วยธุรกิจสถานบันเทิงตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้อย่างน้อยสี่ประเภท ร่วมกับกาสิโน ทั้งนี้ สัดส่วนพื้นที่ของกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด แต่ต้องไม่เกินที่กำหนดในมาตรา 18 (6)
ผู้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรจะต้องเป็นบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทย มีทุนชำระแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาทและได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการนโยบายการกำหนดพื้นที่สถานบันเทิงครบวงจรตามวรรคหนึ่งและจำนวนใบอนุญาตให้ตั้งสถานบันเทิงครบวงจรให้เป็นไปตามที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกาการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
มาตรา 48 การประกอบธุรกิจของบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่ได้รับใบอนุญาตให้ได้รับยกเว้นจากกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้
(1) กฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
(2) มาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 โดยให้มีจำนวนกรรมการที่เป็นผู้ไม่มีสัญชาติไทยได้ไม่เกินจำนวนที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
(3) มาตรา 1105 วรรคสาม แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โดยมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเต็มจำนวน
มาตรา 49 กรรมการของผู้รับใบอนุญาตต้องเป็นบุคคลธรรมดา และต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
(1) เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ
(2) ไม่เป็นหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
(3) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(4) ไม่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่ได้กระทำโดยทุจริต
(5) ไม่เคยถูกลงโทษไล่ออกหรือปลดออกเพราะทุจริตต่อหน้าที่
มาตรา 50 ในการขอรับใบอนุญาต ให้ผู้ขอรับใบอนุญาตยื่นคำขอต่อสำนักงานพร้อมเอกสารหลักฐาน ดังต่อไปนี้
(1) รูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งอย่างน้อยจะต้องระบุระยะเวลาดำเนินการ แผนการลงทุนในสถานบันเทิงครบวงจร สัดส่วนการจ้างแรงงานไทยในสถานบันเทิงครบวงจร ประเภทและจำนวนของธุรกิจที่จะประกอบการในสถานบันเทิงครบวงจร
(2) รายละเอียดโครงสร้างองค์กร องค์ประกอบของคณะกรรมการ ผู้บริหารและผู้ถือหุ้น รวมทั้งแนวทางการกำกับดูแลธุรกิจและการควบคุมภายในที่ดี
(3) เอกสารแสดงแผนการจัดให้มีระบบการควบคุมกาสิโนที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัตินี้
(4) เอกสารแสดงแผนการจัดให้มีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากสถานบันเทิงครบวงจร
(5) เอกสารอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนดเมื่อสำนักงานได้รับคำขอตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้สำนักงานตรวจสอบความถูกต้องและความครบถ้วนของคำขอ หากคำขอดังกล่าวไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ให้สำนักงานแจ้งผลการตรวจสอบให้ผู้ขอรับใบอนุญาตทราบภายในสิบห้าวันนับแต่วันยื่นคำขอ พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาให้ผู้ขอรับใบอนุญาตแก้ไขหากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ผู้ขอรับใบอนุญาตไม่ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง ให้สำนักงานคืนคำขอแก่ผู้ขอรับใบอนุญาตกรณีสำนักงานพิจารณาแล้วเห็นว่า คำขอรับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่งถูกต้องและครบถ้วนหรือผู้รับใบอนุญาตได้แก้ไขให้ถูกต้องและครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนดในวรรคสองแล้ว ให้สำนักงานเสนอคำขอรับใบอนุญาตให้คณะกรรมการนโยบายพิจารณาโดยไม่ชักช้า
มาตรา 51 เมื่อได้รับใบอนุญาต ให้ผู้รับใบอนุญาตยื่นคำขออนุมัติ อนุญาต ใบอนุญาต เห็นชอบจดทะเบียน หรือจดแจ้ง ตามกฎหมายอื่น ตามรายการที่กำหนดไว้ในรูปแบบและแผนการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรต่อสำนักงาน และให้สำนักงานส่งคำขอนั้นไปยังหน่วยงานผู้มีหน้าที่และอำนาจพิจารณาโดยไม่ชักช้า
ในการอนุมัติ อนุญาต ให้ใบอนุญาต ให้ความเห็นชอบ รับจดทะเบียน หรือรับจดแจ้งให้สำนักงานมีอำนาจเรียกค่าธรรมเนียม ค่าตอบแทน ค่าใช้จ่าย หรือค่าอื่นใด ที่กฎหมาย ข้อบัญญัติ หรือเทศบัญญัติว่าด้วยการนั้นกำหนดไว้ และให้สำนักงานนำส่งค่าธรรมเนียม ค่าตอบแทน ค่าใช้จ่าย หรือค่าอื่นใด ให้แก่ หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจเรียกนั้น เมื่อผู้มีอำนาจพิจารณาได้รับคำขอตามวรรคหนึ่งแล้ว เห็นว่าคำขอดังกล่าวไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ให้ผู้มีอำนาจพิจารณานั้นแจ้งถึงความไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนดังกล่าว พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาแก้ไขมายังสำนักงาน และให้สำนักงานแจ้งให้ผู้รับใบอนุญาตแก้ไขโดยไม่ชักช้า หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วน ให้สำนักงานคืนคำขอแก่ผู้รับใบอนุญาต
เมื่อผู้มีอำนาจพิจารณาได้รับคำขอตามวรรคหนึ่งแล้ว เห็นว่าคำขอดังกล่าวไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน ให้ผู้มีอำนาจพิจารณานั้นแจ้งถึงความไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วนดังกล่าว พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาแก้ไขมายังสำนักงาน และให้สำนักงานแจ้งให้ผู้รับใบอนุญาตแก้ไขโดยไม่ชักช้า หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วน ให้สำนักงานคืนคำขอแก่ผู้รับใบอนุญาต
ให้ถือว่าคำขอที่ผู้รับใบอนุญาตยื่นต่อสำนักงานตามวรรคหนึ่ง เป็นการยื่นคำขออนุมัติ อนุญาตใบอนุญาต เห็นชอบ จดทะเบียน หรือจดแจ้ง ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นแล้ว
มาตรา 52 ผู้รับใบอนุญาตจะเริ่มประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติ อนุญาต ใบอนุญาต ความเห็นชอบ การจดทะเบียน หรือการจดแจ้ง ครบถ้วนตามรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจร
ผู้รับใบอนุญาตต้องเริ่มประกอบสถานบันเทิงครบวงจรภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้ยื่นไว้ขณะขออนุญาต หากผู้รับใบอนุญาตไม่สามารถดำเนินการภายในระยะเวลาดังกล่าวได้ด้วยเหตุจำเป็นที่มิได้เกิดจากความผิดของผู้รับใบอนุญาต ให้ผู้รับใบอนุญาตยื่นขอขยายระยะเวลาการเริ่มประกอบสถานบันเทิงครบวงจรต่อคณะกรรมการนโยบายก่อนสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าวได้และคณะกรรมการนโยบายอาจพิจารณาตามความจำเป็นและเหมาะสม
ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตไม่สามารถดำเนินการได้ตามวรรคสอง สำนักงานอาจเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาตได้และคณะกรรมการนโยบายอาจคืนค่าธรรมเนียมทั้งหมดหรือบางส่วนให้ผู้รับใบอนุญาตได้ในกรณีที่มิได้เกิดจากความผิดของผู้รับใบอนุญาต
มาตรา 53 มิให้นำมาตรา 540 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. 2542 และข้อ 9 ของกฎกระทรวงการจัดหาประโยชน์ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2564 มาใช้บังคับแก่การเช่า เช่าช่วง ให้เช่า หรือให้เช่าช่วงที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรตามพระราชบัญญัตินี้
การเช่า เช่าช่วง ให้เช่า หรือให้เช่าช่วงตามวรรคหนึ่ง ห้ามมิให้ทำสัญญาเช่าเป็นกำหนดเวลาเกิน ห้าสิบปี ถ้าได้ทำสัญญากันไว้เป็นกำหนดเวลานานกว่านั้นก็ให้ลดลงมาเป็นห้าสิบปีการต่อสัญญาเช่าอาจทำได้แต่จะต่อสัญญาเกินสี่สิบเก้าปีนับแต่วันครบห้าสิบปีไม่ได้
การเช่า เช่าช่วง ให้เช่า หรือให้เช่าช่วงตามมาตรานี้ไม่ถือว่าเป็นการร่วมทุนตามกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ
มาตรา 54 ผู้รับใบอนุญาตจะประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรได้เฉพาะตามที่กำหนดไว้ในรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้ยื่นไว้ขณะขออนุญาต
ผู้รับใบอนุญาตจะต้องจัดให้มีระบบการควบคุมกาสิโนที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ และจะต้องจัดให้มีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากสถานบันเทิงครบวงจรไม่ต่ำกว่าที่ได้ยื่นไว้ขณะขออนุญาต
ผู้รับใบอนุญาตจะประกอบธุรกิจนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้ยื่นไว้ขณะขออนุญาตได้ก็ต่อเมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบาย
หากผู้รับใบอนุญาตประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรไม่เป็นไปตามรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้ยื่นไว้ขณะขออนุญาต หรือที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายตามวรรคสาม ให้สำนักงานมีคำสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตแก้ไขให้ถูกต้อง พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาให้ผู้รับใบอนุญาตแก้ไข หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วนหรือดำเนินการแต่ไม่แล้วเสร็จตามกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้สำนักงานเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพิจารณากำหนดค่าปรับบังคับการ พักใช้ใบอนุญาต หรือเพิกถอนใบอนุญาต ตามความร้ายแรงของพฤติการณ์และตามความเหมาะสมแก่กรณี
มาตรา 55 ผู้รับใบอนุญาตต้องประกอบสถานบันเทิงครบวงจรด้วยตนเอง โดยจะมอบการบริหารจัดการทั้งหมดหรือบางส่วน หรือยินยอมให้บุคคลอื่นเป็นผู้มีอำนาจประกอบธุรกิจแทนไม่ได้ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการนโยบายก่อน
ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตโอนสิทธิตามใบอนุญาตให้บุคคลอื่นหรือนำหุ้นไปเป็นหลักประกันการชำระหนี้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบาย ตามจำนวนและหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด ทั้งนี้ ให้ถือว่าการจำหน่ายจ่ายโอนหุ้นของบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดเกินกว่าร้อยละห้าสิบของจำนวนหุ้นทั้งหมดเป็นการโอนสิทธิตามวรรคนี้
ห้ามมิให้ผู้ถือหุ้นในบริษัทผู้รับใบอนุญาตจำหน่าย จ่าย โอนหุ้น หรือนำหุ้นไปเป็นหลักประกันการชำระหนี้ ทั้งนี้ ตามจำนวนและหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
ห้ามมิให้เปลี่ยนแปลงกรรมการ ผู้บริหาร หรือโครงสร้างองค์กร ของผู้รับใบอนุญาต เว้นแต่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบาย ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
ในกรณีที่บริษัทในกลุ่มของผู้รับใบอนุญาตเข้ามาบริหารจัดการสถานบันเทิงครบวงจร กรรมการของบริษัทในกลุ่มดังกล่าวจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามของกรรมการตามพระราชบัญญัตินี้และกฎหมายอื่นด้วย
กรณีที่ผู้รับใบอนุญาตฝ่าฝืนหรือไม่ดำเนินการตามความในมาตรานี้ ให้สำนักงานมีคำสั่งให้ผู้รับใบอนุญาตแก้ไขให้ถูกต้อง พร้อมทั้งกำหนดระยะเวลาให้ผู้รับใบอนุญาตแก้ไข หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้ว ผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วนหรือดำเนินการแต่ไม่แล้วเสร็จตามกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้สำนักงานเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต กำหนดค่าปรับบังคับการ พักใช้ใบอนุญาต หรือเพิกถอนใบอนุญาต ตามความร้ายแรงของพฤติการณ์และตามความเหมาะสมแก่กรณี
มาตรา 56 ใบอนุญาตมีอายุสามสิบปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต โดยผู้รับใบอนุญาตจะต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตและค่าธรรมเนียมรายปีตามที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด แต่ต้องไม่เกินอัตราตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้
ทุกห้าปีนับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต ให้สำนักงานประเมินประสิทธิภาพของการดำเนินงานตามรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจรของผู้รับใบอนุญาต และรายงานต่อคณะกรรมการนโยบายเพื่ออาจพิจารณาทบทวนรูปแบบและแผนการประกอบการสถานบันเทิงครบวงจร
เมื่อใบอนุญาตครบอายุ ให้คณะกรรมการนโยบายมีอำนาจให้การพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตได้คราวละไม่เกินสิบปี ทั้งนี้ การขอต่ออายุใบอนุญาตและอัตราค่าธรรมเนียมให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
ในกรณีที่ใบอนุญาตสูญหายหรือถูกทำลายในสาระสำคัญ ให้ผู้รับใบอนุญาตยื่นคำขอรับใบแทนใบอนุญาตจากสำนักงานภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับทราบการสูญหายหรือการถูกทำลายดังกล่าว ทั้งนี้ตามที่หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารประกาศกำหนด
มาตรา 57 ใบอนุญาตตามมาตรา 46 ให้มีอายุตามกฎหมายว่าด้วยการนั้นและในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรตามบัญชีแนบท้ายพระราชบัญญัตินี้ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น ๆ ให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการบริหารที่จะตักเตือนผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าวดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายนั้น ๆ และมิให้นำคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายสถานบริการ ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 มาใช้บังคับ
เมื่อคณะกรรมการบริหารตักเตือนหรือสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจดำเนินการให้ถูกต้องตามวรรคหนึ่งแล้ว ให้ถือว่าเป็นการดำเนินการของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายนั้น ๆ แล้ว
มาตรา 58 การเลิกประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนผู้รับใบอนุญาตต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการนโยบายก่อน ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
หมวด 6 การควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
มาตรา 59 ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจสถานบันเทิงในสถานบันเทิงครบวงจร เว้นแต่การดำเนินธุรกิจตามที่ได้รับอนุญาต
การดำเนินธุรกิจสถานบันเทิงหรือกิจกรรมใดของสถานบันเทิงในสถานบันเทิงครบวงจรที่อยู่ภายใต้บทบัญญัติหรือการกำกับดูแลตามกฎหมายอื่น ให้ผู้รับใบอนุญาตดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น เว้นแต่การกำหนดวันเวลาเปิดปิดและสถานที่ตั้งของสถานบริการตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการการกำหนดเวลาและสถานที่ห้ามขายหรือบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมายว่าด้วยควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเขตสูบบุหรี่ตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
การจัดให้มีการเข้าเล่นหรือการเข้าพนัน ในกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจร ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้และมิให้นำกฎหมายว่าด้วยการพนันมาใช้บังคับ
หนี้ที่เกิดจากการจัดให้มีการเข้าเล่นหรือเข้าพนันหรือเกี่ยวเนื่องกับการจัดให้มีการเข้าเล่นหรือเข้าพนันในกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ เป็นหนี้ที่บังคับได้ตามกฎหมายและและมิให้นำบทบัญญัติมาตรา 853 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับแก่หนี้ตามวรรคนี้
มาตรา 60 กาสิโนจะจัดให้มีขึ้นได้เฉพาะในสถานบันเทิงครบวงจรที่ได้รับอนุญาตให้มีกาสิโนเป็นการเฉพาะเท่านั้นในกาสิโน ผู้รับใบอนุญาตจะจัดให้มีการพนันหรือขันต่อได้ตามบัญชีแนบท้ายกฎหมายว่าด้วยการพนันซึ่งคณะกรรมการนโยบายกำหนด ซึ่งมิใช่สลากกินแบ่งหรือสลากกินรวบ นอกจากการพนันหรือขันต่อตามวรรคสอง คณะกรรมการนโยบายอาจประกาศกำหนดการพนันหรือขันต่อประเภทอื่นเพิ่มเติมอีกก็ได้
มาตรา 61 ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตจัดให้มีการเข้าเล่นหรือเข้าพนันผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใดกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อให้บุคคลภายนอกกาสิโนเข้าเล่นหรือเข้าพนันได้
มาตรา 62 ห้ามมิให้บุคคลใดจัดให้มีการเข้าเล่นหรือเข้าพนันผ่านการเชื่อมต่อระบบคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นใดกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือถ่ายทอดการเล่นหรือการพนันขันต่อเพื่อให้บุคคลภายนอกกาสิโนเข้าเล่นหรือเข้าพนันขันต่อได้
มาตรา 63 ผู้รับใบอนุญาตจะต้องดำเนินการดังนี้
(1) จัดให้มีเขตบริเวณของกาสิโนซึ่งแยกเป็นเอกเทศจากสถานประกอบธุรกิจสถานบันเทิงอื่นโดยมีรั้วและประตูทางเข้าแยกจากสถานประกอบธุรกิจอื่น เว้นแต่เป็นธุรกิจที่อยู่ในกาสิโนเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าเล่นพนัน
(2) มีการควบคุมการเข้าออกโดย มีการตรวจสอบและลงทะเบียนหนังสือเดินทางหรือบัตรประชาชนหรือเอกสารระบุตัวตนอื่น พร้อมทั้งภาพถ่ายใบหน้า
(3) ตรวจสอบผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันให้เป็นไปตามมาตรา 64 และมาตรา 65
มาตรา 64 ห้ามมิให้บุคคลดังต่อไปนี้ เข้าไปในกาสิโน
(1) ผู้มีอายุน้อยกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
(2) ลงทะเบียนตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
(3) ผู้ที่มีลักษณะของบุคคลต้องห้ามตามที่สำนักงานประกาศกำหนด
(4) ผู้ซึ่งสำนักงานสั่งห้ามเข้ากาสิโน
มาตรา 65 ผู้มีสัญชาติไทยซึ่งจะเข้าไปในกาสิโนต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้
(1) ลงทะเบียนและชำระค่าธรรมเนียมตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
(2) มีเงินฝากในบัญชีเงินฝากประจำไม่น้อยกว่าห้าสิบล้านบาทต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่าหกเดือน
(3) ผ่านการตรวจสอบตามที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
(4) ต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๖๔
มาตรา 66 ผู้รับใบอนุญาตต้องควบคุมไม่ให้ผู้เข้าไปหรืออยู่ในกาสิโนกระทำการหรือมีพฤติการณ์ ดังต่อไปนี้
(1) นำอาวุธเข้าไปในสถานที่ดังกล่าวโดยมิได้รับอนุญาต
(2) เข้าติดต่อ ชักชวน แนะนําตัว ติดตาม หรือรบเร้าบุคคลอื่น หรือกระทำการอื่นใดเพื่อการค้าประเวณีอันเป็นการเปิดเผยและน่าอับอายหรือเป็นที่เดือนร้อนรําคาญ
(3) มีอาการมึนเมาจนประพฤติวุ่นวายหรือครองสติไม่ได้
(4) มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
(5) เข้าเล่นหรือเข้าพนันอันเป็นฝ่าฝืนหลักเกณฑ์ ประเภท ลักษณะ วิธีการเล่น และรายละเอียดในกาสิโนตามมาตรา 23 (4)
(6) กระทำการหรือมีพฤติการณ์อื่นใด อันเป็นการขัดขวางการประกอบธุรกิจหรือก่อให้เกิดความไม่สงบหรือเป็นที่เดือนร้อนรําคาญในกาสิโน
ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตพบการกระทำหรือมีเหตุอันควรสงสัยตามวรรคหนึ่ง ให้แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่โดยพลัน เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจตามมาตรา 43 ต่อไป
มาตรา 67 ในการประกอบการกาสิโน ผู้รับใบอนุญาตต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานตามที่สำนักงานประกาศกำหนด และดูแลรักษาเครื่องมืออุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพดีและสามารถดำเนินงานได้อย่างไม่ขัดข้องผู้รับใบอนุญาตต้องให้ความร่วมมือและอำนวยความสะดวกให้พนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหรือทดสอบเครื่องมือหรืออุปกรณ์ในกาสิโน
มาตรา 68 ผู้รับใบอนุญาตต้องจ้างผู้มีสัญชาติไทยเป็นพนักงานในสถานบันเทิงครบวงจรตามสัดส่วนที่คณะกรรมการนโยบายกำหนดพนักงานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกาสิโนต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด
มาตรา 69 ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลใด เชิญชวน โฆษณา ประชาสัมพันธ์จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย หรือดำเนินการอื่นที่มีลักษณะในทำนองเดียวกัน เกี่ยวกับกาสิโน เว้นแต่จะเป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการบริหารกำหนด หรือเป็นการดำเนินการในต่างประเทศเพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ถือว่าการดำเนินการใด ๆ ที่น่าจะส่งผลให้เชิญชวน หรือส่งเสริมให้บุคคลเข้าเล่นหรือเข้าพนันในกาสิโน เป็นกิจกรรมส่งเสริมการขายตามวรรคหนึ่ง
มาตรา 70 ห้ามมิให้ผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลใดจ้างหรือให้ผลประโยชน์ตอบแทนอื่นใดแก่บุคคลอื่น เพื่อเพิ่มยอดหรือจำนวนคนเข้าเล่นหรือเข้าพนันในกาสิโน หรือเพื่อเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเข้าเล่นหรือเข้าพนันในกาสิโนให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าการกระทำของบุคคลที่เป็นการเพิ่มยอดหรือเพิ่มจำนวนคนเข้าเล่นหรอืเข้าพนันในกาสิโน หรือเพิ่มจำนวนเงินที่ใช้จ่ายในการเข้าเล่นหรือเข้าพนันในกาสิโน เป็นการกระทำตามวรรคหนึ่ง เว้นแต่จะพิสูจน์ได้เป็นอย่างอื่น
หมวด 7 บทกำหนดโทษ
มาตรา 71 ผู้ใดประกอบกิจการธุรกิจกาสิโนโดยไม่ได้รับอนุญาตต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี
มาตรา 72 ผู้รับใบอนุญาตที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 59 ให้สำนักงานมีคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด หากผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่สำนักงานกำหนดตามวรรคหนึ่งให้สำนักงานรายงานต่อคณะกรรมการบริหาร เพื่อให้คณะกรรมการบริหารพิจารณาเพื่อสั่งให้แก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด
หากผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการบริหารกำหนดตามวรรคสอง ให้ผู้รับอนุญาตชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกินหนึ่งล้านบาท และให้ปรับเป็นรายวันในอัตราไม่เกินวันละห้าหมื่นบาทจนกว่าจะแก้ไขให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการบริหารกำหนดในกรณีที่ผู้รับอนุญาตไม่ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วนตามวรรคสาม ให้คณะกรรมการบริหารเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพิจารณพักใช้ใบอนุญาตจนกว่าจะได้แก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วนในระหว่างพักใช้ใบอนุญาตหากผู้รับใบอนุญาตยังดำเนินการธุรกิจสถานบันเทิงต่อไปโดยไม่ปฏิบัติตามมาตรา 59 ตามที่คณะกรรมการบริหารกำหนด ให้คณะกรรมการบริหารเสนอคณะกรรมการนโยบายเพิกถอนใบอนุญาต
มาตรา 73 ผู้รับใบอนุญาตที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 60 มาตรา 61 ให้สำนักงานมีคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด หากผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่สำนักงานกำหนดตามวรรคหนึ่ง ให้สำนักงานรายงานต่อคณะกรรมการบริหาร เพื่อให้คณะกรรมการบริหารพิจารณาเพื่อสั่งให้แก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนดหากผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการบริหารกำหนดตามวรรคสองให้ผู้รับอนุญาตชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกินห้าล้านบาทหรือร้อยละจุดห้าของรายได้ของกาสิโนทั้งปีแล้วแต่จำนวนใดจะมากกว่ากัน และให้ปรับเป็นรายวันในอัตราไม่เกินวันละหนึ่งแสนบาทจนกว่าจะแก้ไขให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการบริหารกำหนดในกรณีที่ผู้รับอนุญาตไม่ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องครบถ้วนตามวรรคสาม ให้คณะกรรมการบริหารเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต
มาตรา 74 ผู้รับใบอนุญาตหรือบุคคลใดที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรา 63 มาตรา 67 มาตรา 68 หรือ มาตรา 69 ให้สำนักงานมีคำสั่งให้ดำเนินการแก้ไขภายในระยะเวลาที่กำหนด
หากผู้รับใบอนุญาตไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่สำนักงานกำหนดตามวรรคหนึ่งผู้รับใบอนุญาตต้องชำระค่าปรับเป็นรายวันในอัตราไม่เกินวันละห้าแสนบาท ให้แก่สำนักงานจนกว่าจะดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จ
มาตรา 75 ผู้รับใบอนุญาตที่ปล่อยปละละเลยหรือยินยอมให้บุคคลต้องห้ามตามมาตรา 64 หรือมาตรา 65 เข้าไปในกาสิโน ต้องชำระค่าปรับเป็นพินัยไม่เกินหนึ่งแสนบาท
หมวด 8 บทเฉพาะกาล
มาตรา 76 ในวาระเริ่มแรก ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นกรรมการ และให้ข้าราชการในสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทยที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งเป็นเลขานุการ ทำหน้าที่คณะกรรมการนโยบาย และคณะกรรมการบริหารตามพระราชบัญญัตินี้ไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 13 และมาตรา 21 ทั้งนี้ต้องแต่งตั้งให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา 77 ในวาระเริ่มแรก ให้ข้าราชการในสำนักนายกรัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งทำหน้าที่เลขาธิการตามพระราชบัญญัตินี้ไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการแต่งตั้งเลขาธิการตามมาตรา 28 ทั้งนี้ ต้องแต่งตั้งให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา 78 ในวาระเริ่มแรก ให้รัฐมนตรีเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ข้าราชการพนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นใดในสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย มาปฏิบัติงานที่ในสำนักงานเป็นการชั่วคราวภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนดให้ถือว่าข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นใดในสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทยที่มาปฏิบัติงานในสำนักงานเป็นการชั่วคราวตามวรรคหนึ่งไม่ขาดจากสถานภาพเดิมและคงได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างแล้วแต่กรณี จากสังกัดเดิม
ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารอาจกำหนดค่าตอบแทนพิเศษให้แก่ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นใดตามวรรคหนึ่ง ในระหว่างปฏิบัติงานในสำนักงานด้วยก็ได้ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่จัดตั้งสำนักงานแล้วเสร็จ ให้สำนักงานดำเนินการคัดเลือกข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นใดในหน่วยงานของรัฐตามวรรคหนึ่งเพื่อบรรจุเป็นพนักงานของสำนักงานต่อไป
ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นใดในหน่วยงานของรัฐผู้ใดได้รับการคัดเลือกและบรรจุตามวรรคสาม ให้มีสิทธินับระยะเวลาทำงานที่เคยทำงานอยู่ในสังกัดเดิมต่อเนื่องรวมกับระยะเวลาทำงานในสำนักงานตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 79 ในวาระเริ่มแรก ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาจัดสรรงบประมาณเป็นเงินอุดหนุนให้แก่ สำนักงานในการจัดจ้างพนักงานหรือลูกจ้างเพื่อปฏิบัติงานในสำนักงานไปพลางก่อน ทั้งนี้ ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
บัญชีแนบท้าย
ประเภทธุรกิจสถานบันเทิง
1. ห้างสรรพสินค้า
2. โรงแรม
3. สถานบริการ
4. สนามกีฬา
5. ยอร์ชและครูซซิ่งคลับ
6. สถานที่เล่นเกม
7. สระว่ายน้ำและสวนน้ำ
8. สวนสนุก
9. พื้นที่สำหรับส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและสินค้า OTOP
10. กิจการอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการนโยบายประกาศกำหนด
อัตราค่าธรรมเนียม
(1) การขอรับใบอนุญาต ครั้งละ 100,000 บาท
(2) ใบอนุญาตครั้งแรก ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท
(3) ใบอนุญาต (ต่ออายุ) ฉบับละ 5,000 ล้านบาท รายปี ปีละ 1,000 ล้านบาท
(4) ใบแทนใบอนุญาต ฉบับละ 100,000 บาท
(5) ค่าเข้ากาสิโนของผู้มีสัญชาติไทย ครั้งละ 5,000 บาท
ที่มา: ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ….