คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกฎหมายจัดตั้งศาลแรงงาน มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาตามกฎหมายเกี่ยวกับแรงงาน และคดีค้ามนุษย์ พร้อมร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์
ทั้งนี้ สำนักงานศาลยุติธรรม (ศย.) เสนอร่างพระราชบัญญัติฯ 2 ฉบับ ดังนี้
- ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (การพิจารณาพิพากษาคดีอาญาตามกฎหมายเกี่ยวกับแรงงาน)
- ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. รวมทั้ง รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….
ความเป็นมา
ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….(การพิจารณาพิพากษาคดีอาญาตามกฎหมายเกี่ยวกับแรงงาน) และร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. รวม 2 ฉบับ ที่สำนักงานศาลยุติธรรม (ศย.) เสนอ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522
เพื่อกำหนดให้ศาลแรงงานมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแรงงานในส่วนคดีอาญาตามกฎหมาย จำนวน 12 ฉบับ เช่น กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในงานประมง กฎหมายว่าด้วยการจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน กฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว กฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม เป็นต้น
ร่างร.บ.พ.ดังกล่าวจะทำให้การดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาคดีแรงงานเป็นไปอย่างถูกต้อง รวดเร็ว ประหยัด และเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น เนื่องจากในปัจจุบันศาลแรงงานมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตามที่พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 กำหนด ซึ่งจะเป็นคดีแรงงานในส่วนคดีแพ่ง อาทิ คดีพิพาทเกี่ยวด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงานหรือตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพ เช่น การไม่จ่ายค่าจ้าง การไม่จ่ายค่าชดเชย หรือการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
สำหรับคดีแรงงานในส่วนคดีอาญาจะอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรมอื่น (ศาลจังหวัดหรือศาลแขวง) ทำให้ไม่เป็นไปตามหลักการพื้นฐานของการพิจารณาคดีที่ต้องอาศัยผู้พิพากษา ที่มีความรู้ชำนาญและเข้าใจในปัญหาแรงงานอย่างแท้จริง และยังเป็นภาระแก่คู่ความที่ต้องดำเนินกระบวนพิจารณาถึง 2 ศาล
นอกจากนี้ อาจทำให้ดุลพินิจในการกำหนดโทษในคดีอาญาเกี่ยวกับแรงงานแตกต่างกันไปในแต่ละศาลอีกด้วย และโดยที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติดังกล่าวมีผลทำให้ศาลแรงงานมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีที่ มีข้อหาความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
ดังนั้น เพื่อให้คดีแรงงานที่มีข้อหาตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (บังคับใช้แรงงานหรือบริการ) ซึ่งมีวิธีพิจารณาคดีโดยเฉพาะดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับการพิจารณาพิพากษาอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม จึงเห็นสมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์ พ.ศ. 2559 โดยการกำหนดมิให้ศาลแรงงานมีอำนาจในการพิจารณาพิพากษาคดีประเภทดังกล่าว เช่นเดียวกับคดีทรัพย์สินทางปัญญาและคดีล้มละลาย
สาระร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานฯ
ทั้งนี้ ได้แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 ดังนี้
1. เพิ่มบทนิยามคำว่า “คดีแรงงาน” หมายความว่าคดีที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแรงงาน : เพื่อให้เกิดความชัดเจน ซึ่งจะมีความหมายรวมถึงคดีอาญาตามกฎหมายที่เกี่ยวกับแรงงาน และที่เป็นคดีแรงงานในส่วนคดีแพ่ง
2. กำหนดให้ศาลแรงงานมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาความผิดตามกฎหมายเกี่ยวกับแรงงาน (12 ฉบับ) และให้นำประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา หรือกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับแก่การพิจารณาพิพากษาคดีดังกล่าวโดยอนุโลม: เป็นการกำหนดคดีอาญาที่มีเนื้อหาเป็นคดีแรงงานโดยแท้เท่านั้น เนื่องจากจะต้องใช้ความรู้ความชำนาญของผู้พิพากษาในการพิจารณาพิพากษาคดี
3. กำหนดให้องค์คณะผู้พิพากษาที่มีอำนาจพิจารณาคดีอาญาเป็นไปตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม: องค์คณะผู้พิพากษาในศาลแรงงานจะประกอบด้วยผู้พิพากษา ผู้พิพากษาสมทบฝ่ายนายจ้างและผู้พิพากษาสมทบฝ่ายลูกจ้าง ซึ่งในการพิจารณาคดีอาญาผู้พิพากษาจะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญ ทั้งในคดีแรงงานและคดีอาญาตามกฎหมายที่เกี่ยวกับแรงงาน และต้องมีความเป็นกลางจึงกำหนดให้องค์คณะผู้พิพากษาเป็นไปตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ซึ่งจะไม่มีผู้พิพากษาสมทบ ฝ่ายนายจ้าง และผู้พิพากษาสมทบฝ่ายลูกจ้างในการพิจารณาคดีอาญา
4. กำหนดให้ศาลแรงงานแต่งตั้งให้ศาลชั้นต้นอื่นดำเนินกระบวนพิจารณาใด ๆ อันมิใช่เป็นการวินิจฉัย ชี้ขาดข้อพิพาทในคดีอาญาแทนก็ได้ : เนื่องจากศาลแรงงานไม่ได้มีทุกจังหวัด จึงอาจเกิด ข้อขัดข้องในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการขอออกหมายค้น หมายจับ หรือการผัดฟ้องฝากขังได้ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกันกับพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ. 2559
5. กำหนดให้อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลาง มีอำนาจออกข้อกำหนดใด ๆ ใช้บังคับในศาลแรงงานเมื่อได้รับอนุมัติจากประธานศาลฎีกาแล้ว (เกี่ยวกับการดำเนินกระบวนพิจารณาและการรับฟังพยานหลักฐาน) โดยข้อกำหนดดังกล่าวจะต้องไม่ทำให้สิทธิในการต่อสู้คดีอาญาของจำเลยต้องลดน้อยกว่าที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย: เพื่อเป็นหลักประกันสิทธิ์ในการต่อสู้คดีอาญาของจำเลย
6. กำหนดให้คดีอาญาที่อยู่ในอำนาจของศาลแรงงาน ซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลใดก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับ ให้ศาลดังกล่าวมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีต่อไปและให้นำกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ก่อนในวัน ที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับมาใช้บังคับจนกว่าคดีนั้นจะถึงที่สุด: เพื่อให้ศาลชั้นต้นที่มีคดีอาญาซึ่งอยู่ในอำนาจ พิจารณาพิพากษาของศาลแรงงานค้างพิจารณาสามารถ พิจารณาพิพากษาคดีต่อไปได้จนเสร็จ แต่ในส่วนการอุทธรณ์คำพิพากษาให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้กำหนด ซึ่งได้กำหนดให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ

สาระสำคัญร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….
ได้แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีค้ามนุษย์ พ.ศ. 2559 โดยกำหนดห้ามมีให้ศาลแรงงานรับคดีที่มีข้อหาความผิดตามกฎหมายกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ไว้พิจารณาพิพากษา ดังนี้
มาตรา 5 ห้ามมิให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ และศาลล้มละลายตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลายรับคดีที่มีข้อหาความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ไว้พิจารณาพิพากษา
เพิ่มเติมข้อความเป็น…มาตรา 5 ห้ามมิให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ศาลล้มละลายตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลายและศาลแรงงานตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานรับคดีที่มีข้อหาความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ไว้พิจารณาพิพากษา
ทั้งนี้ สำนักงานศาลยุติธรรม (ศย.) ได้จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวผ่านเว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย (มีผู้แสดงความคิดเห็น 24 คน) เว็บไซต์ ของ ศย.
(มีผู้แสดงความคิดเห็น 14 คน) และได้มีหนังสือสอบถามความคิดเห็นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมอาที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ศาลแรงงาน กรมสวัสดิการแรงงานและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)
ผู้แสดงความคิดเห็นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมส่วนใหญ่เห็นด้วย รวมถึงได้จัดทำสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นและรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ ที่อาจเกิดขึ้นจากกฎหมาย ตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 แล้ว
นอกจากนี้ ได้เสนอแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานฯ โดยจะมีการออกกฎหมายลำดับรองตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว รวม 1 ฉบับ อีกทั้งได้จัดทำรายละเอียดข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐต้องเสนอพร้อมกับการขออนุมัติต่อคณะรัฐมนตรีตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ด้วยแล้ว
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง:




