เมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2567 คณะผู้แทนจาก ASEAN+3 Macroeconomic Research Office (AMRO) นำโดย Dr. Kouqing Li ผู้อำนวยการ และ Dr. Hoe Ee Khor หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ เข้าพบนางอลิศรา มหาสันทนะ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน เพื่อรายงานผลการสรุปภาวะเศรษฐกิจไทยประจำปี 2567 ซึ่งมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี
ภายหลังการฟังรายงาน AMRO ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 2.8% ในปี 2567 และ 3.4% ในปี 2568 จากอุปสงค์ภาคเอกชนในประเทศที่ขยายตัวดี ภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัว และการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐที่ปรับสูงขึ้น ซึ่งรวมถึงผลจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะยังอยู่ในระดับต่ำ โดยปรับลดลงจาก 1.3% ในปี 2566 เป็น 0.7% ในปี 2567 จากมาตรการอุดหนุนราคาพลังงาน และราคาอาหารและสิ่งของจำเป็นอื่น ๆ ที่ลดลง แต่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.6% ในปี 2568 ตามผลของมาตรการอุดหนุนราคาพลังงานที่ทยอยหมดลง และเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งขึ้น
นโยบายการเงิน AMRO เห็นว่า การดำเนินนโยบายการเงินในปัจจุบันมีความเหมาะสม สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการดูแลปัญหาหนี้ครัวเรือน อย่างไรก็ดี การขยายตัวทางเศรษฐกิจยังคงมีความเสี่ยงในระยะข้างหน้า นโยบายการเงินจึงควรพร้อมสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม หากจำเป็น
AMRO ยังชื่นชมและสนับสนุนการดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน รวมถึงการปรับปรุงกลไกการค้ำประกันสินเชื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นโยบายการคลัง AMRO เห็นควรให้ทางการลดการขาดดุลทางการคลัง (fiscal consolidation) เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ทางการคลัง (fiscal space) โดย AMRO ชื่นชมการปรับปรุงแผนการคลังระยะปานกลาง (Medium-term Fiscal Framework) ที่ได้กำหนดเป้าหมายลดการขาดดุลทางการคลังที่ชัดเจน โดยการปฏิรูปการจัดเก็บภาษีจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้นโยบายการคลังมีความพร้อมรับมือกับรายจ่ายจำเป็นที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ในระยะข้างหน้า ไทยจำเป็นต้องปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว รวมถึงการเพิ่มผลิตผลของภาคเกษตร การดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ การปรับตัวของภาคการผลิตไปสู่อุตสาหกรรมสมัยใหม่ และการยกระดับอุตสาหกรรมเดิม
ไทยจะต้องมีการปฏิรูปเศรษฐกิจที่ตรงจุดและดำเนินการให้ได้ตามแผนมากขึ้น โดยเฉพาะการขับเคลื่อนแผนพัฒนาต่าง ๆ ที่มีอยู่ไปสู่การปฏิบัติจริง ด้วยการประสานงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และส่งเสริมให้โครงการที่ได้รับอนุมัติแล้วไปสู่การลงทุนที่เกิดประโยชน์ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
AMRO หรือ The ASEAN+3 Macroeconomic Research Office เป็นองค์กรที่ก่อตังขึ้นมาเพื่อรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงด้านเศรษฐกิจการเงินของประเทศสมาชิก ประกอบด้วย 10 ประเทศ คือ สมาชิกสมาคมอาเซียน จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้