
นักวิเคราะห์ประเมินปี 69 ไทยรับผลกระทบเต็มจากภาษีสหรัฐฯ เสี่ยงทำส่งออกติดลบ ลุ้นรัฐบาลเจรจาลดภาษีเพิ่ม ขณะที่ทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีจีน 100% หากเป็นจริงสินค้าจีนจะทะลักเพิ่ม ซ้ำเติมผู้ผลิตไทย แถมสินค้าส่งออกกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จะโดนภาษีด้วย

ผลกระทบภาษีทรัมป์ยัง "ไม่นิ่ง" ทำเอากนง.เสียงแตก 5 ต่อ 2 คงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% ต่อปี หวัง "เก็บกระสุน" รอประเมินผลกระทบ ประเมินพื้นฐานเศรษฐกิจไทยไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก แต่ได้แรงหนุนจากท่องเที่ยวฟื้นและมาตรการกระตุ้น หั่นเป้าเศรษฐกิจปี 68 และ 69 เหลือโต 2.2.% และ 1.6%

ธปท.ส่งสัญญาเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปชะลอตัว จากผลกระทบภาษีทรัมป์เห็นชัดขึ้นเรื่อย ๆ มูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯลดลงเป็นเดือนแรกนับตั้งแต่เริ่มเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐฯ นักวิเคราะห์คาดเศรษฐกิจไทยอ่อนแรงลงอย่างมีนัยสำคัญโดยเฉพาะตั้งแต่ไตรมาส 3 ขณะที่รัฐบาลใหม่มีเวลา 4 เดือนนับตั้งแต่ 1 ต.ค. 68

เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดใจ "บันทึกการเดินทาง 5 ปี ของ ธปท. : การดำเนินนโยบายในยุคแห่งความท้าทาย" ในการแถลง "ผู้ว่าการพบสื่อมวลชน (Meet the Press) ครั้งที่ 2/68" ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายของ "เศรษฐพุฒิ" ในตำแหน่งผู้ว่าฯ

ภาษีสหรัฐฯ ยังไม่จบ แม้ปัจจุบันไทยจะถูกเก็บในอัตรา 19% แต่ยังมีสินค้าประเภท ชิป ตามมาตรา 232 และสินค้าสวมสิทธิ ที่จะถูกเรียกเก็บเพิ่มเติมในอัตราที่สูง โดยนักวิเคราะห์คาดไทยจะได้รับผลกระหนักในปี 69 จากภาษีทั้งหมดที่สหรัฐฯเรียกเก็บ

เจาะลึก 3 เส้นทาง ผลกระทบจากภาษีทรัมป์รอบแรก 19% แต่ยังมีความไม่แน่นอนสูง จับตาสินค้าสหรัฐฯทะลักในกลุ่มที่ไทยลดภาษี สศช.คาดแนวโน้มส่งออกครึ่งปีหลังชะลอตัว แนะทางรอดต้องเพิ่มศักยภาพและขีดสามารถแข่งขัน

ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมไทยเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนต่างชาติบางส่วนชะลอลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ของไทย พบว่ามูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนลดลง -50%YOY

เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าสหรัฐฯ ตั้งกำแพงภาษีไทย 19% หลังเจรจานาน 3 เดือน นักเศรษฐกิจประเมินเบื้องต้นมีทั้งผลดี-ผลเสีย หนักสุดในภาคเกษตร แนะเร่งเปิดข้อมูลรายละเอียดภาษี และร่วมมือทุกภาคส่วนวางแผนปรับโครงสร้างไทยครั้งใหญ่ เตือนไทยอย่างนิ่งนอนใจ ภาษีทรัมป์ยังไม่จบ เพราะเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

จับตาสินค้าสหรัฐฯทะลักไทย หากรัฐบาลยอมลดภาษีให้กับสินค้าจากสหรัฐฯเหลือ 0% ตามแรงกดดัน ซ้ำเติมผลกระทบในปัจจุบันจากสินค้าจีนเริ่มทะลักเข้ามาในประเทศตั้งแต่ต้นปี ทำให้เศรษฐกิจอาจจะได้รับผลกระทบรุนแรง จาก “Twin Influx” สินค้าจากทั้งสองประเทศทะลักตีตลาดในไทย

สหรัฐฯ ส่งหนังสือแจ้งขึ้นภาษี 14 ประเทศ ขีดเส้นตาย 1 ส.ค. คาดบีบให้เร่งเจรจา นักวิเคราะห์ประเมินไทยโดนเต็มพิกัด 36% เสี่ยงต่างชาติย้ายฐานการผลิตหนี เพราะประเทศเพื่อนบ้านภาษีต่ำกว่า และส่งออกลดลงกระทบเศรษฐกิจโตต่ำ 1.3% มีโอกาส 30% เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ภาวะถดถอย

สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้ารถทั่วโลก 25% บีบผู้ผลิตหลายรายต้องหาตลาดใหม่ทดแทน Krungthai COMPASS ประเมินกระทบไทยทางอ้อม อาจเสียส่วนแบ่งตลาดสำคัญ จับตาออสเตรเลีย ซาอุดีอาระเบีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ขณะที่กำลังซื้อในประเทศยังคงอ่อนแอจากปัญหาเศรษฐกิจ หั่นประมาณการผลิตรถไทยปี 68-69 อยู่ที่ 1.4-1.45 ล้านคัน

สัญญาณร้ายเศรษฐกิจไทยมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามความเสี่ยงจากสงครามการค้า จากระเบียบเศรษฐกิจโลกปรับครั้งใหญ่จากนโยบายทรัมป์ ส่งผลกระทบความเชื่อมั่นทั่วโลก ขณะที่เศรษฐกิจไทยเริ่มได้รับผลกระทบชัดเจน จากนักท่องเที่ยวจีนลดลงและสินค้าจีนทะลัก มีความเสี่ยงกับภาวะเงินฝืดมากขึ้นตามจีน

จากการแถลงตัวชี้เศรษฐกิจของสภาพัฒน์ ว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2568 ภายใต้รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร โต 3.1% และการให้สัมภาษณ์ของนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่าเป็นการเติบโตที่สูงกว่า 3% ติดต่อกัน 3 ไตรมาส เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบ 7 ปี และเป็นครั้งที่ 7 ในประวัติศาสตร์ไทย

ระบบธนาคารพาณิชย์ไทยในช่วงไตรมาสแรกยังแข็งแกร่ง แม้ความสามารถในการทำกำไรลดลง ขณะที่แบงก์ชาติห่วงหน้าภาคธุรกิจและครัวเรือน จากภาวะเงินตรึงตัว เสี่ยงกับสงครามการค้าทำให้หนี้ภาคธุรกิจและครัวเรือนเพิ่มขึ้น

นโยบายภาษีของทรัมป์ในปัจจุบัน (Trump 2.0) กำลังเร่งให้พลวัตการค้าโลกย้อนกลับไปสู่ “ยุคของการกีดกันทางการค้า” หรือ Protectionism เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยประเทศไทย ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจแบบระบบเปิดขนาดเล็ก (Small-open Economy) จะได้รับผลกระทบ ทั้งทางตรงและทางอ้อมในหลายด้าน

ธปท.คาดนโยบายภาษีทรัมป์ เปลี่ยนการค้าโลกครั้งใหญ่ ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้โตต่ำกว่า 2.5% แต่อาจไม่รุนแรงเท่าวิกฤตโควิด-19 โดยกระทบหนักธุรกิจกลุ่มส่งออกไปสหรัฐฯ แนะไทยเร่งปรับตัวควบคู่กับการเจรจา พร้อมเสนอมาตรการรับมือระยะสั้น-ระยะยาว

นโยบายภาษีทรัมป์ (Trump tariffs) ที่ประกาศเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา กลายมาเป็นความท้าทายใหม่ของเศรษฐกิจไทย ที่ผลกระทบอาจแผ่เป็นวงกว้างและลากยาว และอาจทำให้พัฒนาการของเศรษฐกิจไทยถดถอย บทความนี้พาไปดูว่าทำไมทุกภาคส่วนถึงต้องจับตานโยบายภาษีทรัมป์เป็นพิเศษ

ยังไม่มีความชัดเจนว่าสงครามการค้าที่รุนแรงสุดในประวัติศาสตร์ครั้งนี้จะไปจบลงที่ตรงไหน หลังสหรัฐฯและจีนขึ้นภาษีตอบโต้กันไม่หยุด นักเศรษฐศาสตร์เชื่อเจ็บทั้งคู่ แนะไทยเตรียมรับมือสินค้าจากจีนทะลักเข้าประเทศ

สหรัฐฯขึ้นภาษีทั่วโลก เปิด"สงครามการค้า" ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์การค้าโลก นักวิเคราะห์ประเมินผลกระทบรุนแรงกว่าครั้งก่อน จุดเปลี่ยนระบบการค้าโลก คาดใช้เวลา 3 เดือนในการเจรจา ขณะที่รัฐบาลพร้อมเจรจา คาดส่งออกไปสหรัฐฯลดลงทุก 1% กระทบมูลค่าส่งออก 1.2 หมื่นล้านบาท ฉุดจีดีพี 0.11%

ไทยอาจเป็นหนึ่งในประเทศที่ถูกสหรัฐฯขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า 25% ตามนโยบายทรัมป์ 2.0 นักวิเคราะห์ประเมินจะกระทบการส่งออกไทยอย่างหนัก และฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศในปีนี้