รัฐบาลเดินหน้าขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ตามนโยบายที่เคยได้หาเสียงไว้ในช่วงเลือกตั้งว่าจะปรับขึ้นทั่วประเทศ โดยครั้งนี้จะเริ่มปรับขึ้นเฉพาะพื้นที่ใน 10 จังหวัดท่องเที่ยวที่มีรายได้สูงเป็นชุดแรก เพื่อให้แรงงานสามารถดำรงชีพได้ตามภาวะเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่
การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อ 2 มี.ค. 2567 มีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงาน เสนอ เรื่องประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง เรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรม และประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการค่าจ้างได้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ปี 2567 แบ่งเป็น 17 อัตรา อัตราวันละ 330-370 บาททั่วประเทศ ต่อมาคณะกรรมการค่าจ้าง มีแนวคิดเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรม โดยนำร่องในพื้นที่ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูง 10 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดกระบี่ ชลบุรี เชียงใหม่ ประจวบคีรีขันธ์ พังงา ภูเก็ต ระยอง สงขลา และสุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้การพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรมนั้น คณะกรรมการค่าจ้างได้ศึกษาและพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับในปัจจุบันกับข้อเท็จจริงอื่น โดยคำนึงถึงดัชนีค่าครองชีพอัตราเงินฟ้อ มาตรฐานการครองชีพ ต้นทุนการผลิต ราคาของสินค้าและบริการ ความสามารถของธุรกิจผลิตภาพแรงงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ และสภาพทางเศรษฐกิจและสังคม
อีกทั้ง คณะกรรมการค่าจ้าง ได้กระจายอำนาจไปยังระดับภูมิภาค โดยให้คณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำกรุงเทพมหานคร และคณะอนุกรรมการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัด รวม 10 คณะ (10 จังหวัด) ทำหน้าที่พิจารณาเสนออัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรมให้สอดคล้องเหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมในแต่ละพื้นที่
นอกจากนี้ มาจากการสำรวจค่าใช้จ่ายของลูกจ้างและต้นทุนของสถานประกอบกิจการในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อศึกษาข้อมูลข้อเท็จจริงของสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบันและนำมาใช้ประกอบการพิจารณาอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรมให้สอดคล้องกับกรอบแนวทางการประชุมพิจารณาเสนอแนะอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรมเสนอต่อคณะกรรมการค่าจ้าง
ในการประชุม เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2567 คณะกรรมการค่าจ้าง มีมติเห็นชอบให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำประเภทกิจการโรงแรม เพื่อใช้สำหรับนายจ้างและลูกจ้างที่ทำงานในสถานประกอบกิจการประเภทกิจการโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป และมีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป ในพื้นที่ 10 จังหวัดนำร่อง ในเขตพื้นที่ที่มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูง โดยให้ปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มเป็นอัตราวันละ 400 บาท หรือปรับเพิ่มอัตราวันละ 30-55 บาท แล้วแต่เขตพื้นที่ และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย 2567 เป็นต้นไป ได้แก่
- กรุงเทพมหานคร เฉพาะเขตปทุมวัน วัฒนา เพิ่มขึ้น 37 บาท
- กระบี่ เฉพาะเขตองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง เพิ่มขึ้น 53 บาท
- ชลบุรี เฉพาะเขตเมืองพัทยา เพิ่มขึ้น 39 บาท
- เชียงใหม่ เฉพาะเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เพิ่มขึ้น 50 บาท
- ประจวบคีรีขันธ์ เฉพาะเขตหัวหิน เพิ่มขึ้น 55 บาท
- พังงา เฉพาะเขตเทศบาลตำบลคึกคัก เพิ่มขึ้น 55 บาท
- ภูเก็ต เพิ่มขึ้น 30 บาท
- ระยอง เฉพาะเขตตำบลเพ เพิ่มขึ้น 39 บาท
- สงขลา เฉพาะเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ เพิ่มขึ้น 55 บาท
- สุราษฎร์ธานี (เฉพาะเขตเทศบาลนครเกาะสมุย เพิ่มขึ้น 55 บาท
สำหรับการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในครั้งนี้ จะมุ่งไปที่การคุ้มครองแรงงานทั่วไปแรกเข้าทำงานที่เข้าสู่ตลาดแรงงานใหม่ในปี 2567 รวมทั้งแรงงานที่ทำงานในสถานประกอบกิจการประเภทกิจการโรงแรมอยู่แล้ว ให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้ตามสภาพเศรษฐกิจในพื้นที่ดังกล่าว เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวและภาคการผลิตที่เกี่ยวเนื่องในหลายสาขา นำไปสู่การสร้างงานและสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศที่มากขึ้น
เกษตรกรไทยติดกับดักรายได้ต่ำ ไร้เสน่ห์ดึงดูดแรงงานรุ่นใหม่
“อาชีวะไทย” แรงงานทักษะฝีมือดี เนื้อหอมในตลาดโลก
เกษตรกรไทยติดกับดักรายได้ต่ำ ไร้เสน่ห์ดึงดูดแรงงานรุ่นใหม่
ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ธุรกิจโรงแรมใน 10 จังหวัด มีผล 13 เม.ย. 67