นักท่องเที่ยวต่างชาติ ก.พ. ต่ำสุดในรอบ 4 เดือน จากนักท่องเที่ยวจีนลดลง กังวลความปลอดภัยในไทยและเศรษฐกิจภายในซบเซา ขณะที่แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ฉุดความเชื่อมั่น นักท่องเที่ยวต่างชาติกังวล แห่ยกเลิกตั๋วเครื่องบินและที่พัก
รัฐบาลกดดันแบงก์ชาติอีกครั้งหลังนายกฯรัฐมนตรีเรียกร้องให้ลดดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าการประชุม กนง.นัดแรกของปี 26 ก.พ.นี้ จะคงดอกเบี้ย ให้น้ำหนักไปที่ความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทย และทั้งปี 2568 มีโอกาสปรับลด 1-2 ครั้ง
รัฐบาลขยายเวลา โครงการ “คุณสู้ เราช่วย“ ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและเอสเอ็มอี จากกำหนดเดิมสิ้นสุด 28 ก.พ. ขยายถึง 30 เม.ย. พร้อมกับดึง Non-bank อัก 2 รายเข้าร่วมโครงการ คือ อิออนธนสินทรัพย์และเมืองไทยแคปปิตอล ขณะที่ผู้ยื่นขอยังไม่ถึงครึ่งจากเป้าหมาย
ธปท.ผลักดันแนวทาง "ร่วมรับผิดชอบ" แก้ปัญหาบัญชีม้า เตรียมกำหนดขอบเขตความรับผิดชอบของธนาคารพาณิชย์ ให้เข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบ หากเกิดความเสียหาย เผยแก๊งคอลเซ็นเตอร์พัฒนาไปอีกขั้น ฟอกเงินผ่านคริปโทฯ เตรียมขยายคุมถึงสินทรัพย์ดิจิทัล
คนไทยถูกมิจฉาชีพหลอกโอนเงินปี 67 สูญ 37,582 ล้านบาท ธปท.กวาดล้างบัญชีม้าแล้ว 1 ล้านบัญชี ขีดเส้นทุกธนาคารปิดเส้นทางโอนเงินเข้าภายใน ม.ค. 68 รับบางแห่งไม่กล้าระงับธุรกรรมเพราะกลัวถูกฟ้อง เผยกำลังศึกษาเอไอรับมือภัยรูปแบบใหม่
นโยบายขึ้นภาษีสินค้าของทรัมป์ กำลังจะสร้างสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯกับจีน และทั่วโลก แบงก์ชาติมองจะส่งผลกระทบเครื่องยนต์เศรษฐกิจไทยในหลายด้าน เนื่องจากไทยมีความเชื่อมโยงกับจีนอยู่มาก
อุตสาหกรรมรถยนต์ไทยย่ำแย่ในช่วงปีที่ผ่านมา จากปัญหาเศรษฐกิจ การมาของรถยนต์ EV และสงครามราคา แบงก์ชาติประเมินปี 68 สถานการณ์จะยังคงไม่ฟื้นตัว ตัวชี้ขาดสำคัญขึ้นกับการปรับตัวให้เป็นฐานการผลิตรถยนต์ EV ของเอเชีย
มาตรการแจกเงิน 10,000 บาทเฟสแรกให้กลุ่มเปราะบางและคนพิการ ที่รัฐบาลตั้งความหวังจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปี 67 เริ่มหมดแรงหลังผ่านไปแค่เดือนเดียว ล่าสุด ธปท.เผยเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย.ไม่กระเตื้องขึ้น โดยการบริโภค-การลงทุนเอกชน และการผลิตอุตสาหกรรม ลดลงจากเดือนก่อนหน้า ส่วนตลาดแรงงานก็ยังไม่ดีขึ้น
การเมืองเรื่องทุนสำรองระหว่างประเทศยังเกิดขึ้นเป็นระยะ นับตั้งแต่อดีตพรรคไทยรักไทย จนถึงพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน หลังจากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมักจะมีความเห็นกดดันธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เรื่องการนำมาใช้อยู่เสมอ แต่ก็ยังทำไม่สำเร็จ
กนง.มีมติเอกฉันท์ คงอัตราดอกเบี้ยที่ 2.25% ต่อปี มองเศรษฐกิจไทยโตใกล้เคียงกับระดับศักยภาพ แต่กังวลความไม่แน่นอนที่สูงขึ้นในระยะข้างหน้าจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะทิศทางนโยบายการค้าโลก พร้อมปรับนโยบายการเงินหากเศรษฐกิจมีปัญหา
ปีงูเล็กมาเยือน พร้อมกับเศรษฐกิจไม่สดใสมากนัก ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าธนาคารกลางประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกจะปรับลดดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่สำหรับไทยยังไม่ชัดเจน แม้ว่าจะคาดการณ์ว่ามาตรการกระตุ้นต่าง ๆ ของรัฐบาลที่ออกมา อาจจะไม่ช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้มากนัก
'สักกะภพ' ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. ออกมาชี้แจงเรื่องสภาพคล่องและการปล่อยสินเชื่อ โดยระบุว่าเป็น "ความเห็นส่วนตัว" ไม่เกี่ยวกับแบงก์ชาติ แม้ไม่ได้ระบุว่าเป็นการตอบโต้ใคร แต่หากใครที่ติดตามจะรู้ว่าเป็นตอบโต้คำวิจารณ์ของ "ทักษิณ ชินวัตร" ในเวที “Forbes Global CEO Conference”
กนง.ปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ทำให้ตลาดมองว่าแบงก์ชาติกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากการเมือง หากประเมินจากเหตุผลในการปรับลดดอกเบี้ยครั้งนี้อาจจะต่างไปจากเดิมบ้าง เพราะทิศทางเศรษฐกิจแทบไม่เปลี่ยน แต่ทิศทางการเงินโลกและแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ทำให้ทิศทางดอกเบี้ยในประเทศกำลังเข้าสู่ขาลง
มติ กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบกว่า 4 ปี เหลือ 2.25% ต่อปี มองสอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจ และช่วยบรรเทาภาระหนี้ครัวเรือน พร้อมจับตาหนี้เสียอย่างใกล้ชิด ปฏิเสธเจอแรงกดดันจากการเมืองให้ลดดอกเบี้ย ขณะที่สำนักวิจัยระบุลดดอกเบี้ยสวนทางตลาด
การขอข้อมูลการเงินของตัวเองข้ามสถาบันการเงิน ไม่ใช่เรื่องยากและเสียค่าใช้จ่ายอีกต่อไป เมื่อธปท.เปิดตัว Your Data ให้เจ้าของบัญชีสามารถส่งข้อมูลทางการเงินในรูปแบบดิจิทัลในสถาบันการเงิน ให้กับสถาบันการเงินอื่น ๆ ได้ เพื่อใช้ขอสินเชื่อ และบริหารทางการเงิน คาดว่าจะเริ่มใช้งานได้ในปี 2569
ผู้ว่าธปท.มองปัญหาหนี้ของประเทศรุนแรงขึ้น เป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ การแก้ปัญหาต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย และต้องขจัดอคติเพื่อหาทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน วิจารณ์นโยบายรัฐบาลที่ผ่าน ๆ มา มุ่งเน้นเห็นผลระยะสั้น ไม่คำนึงผลระยะยาว เป็นตัวซ้ำเติมวิกฤติหนี้ยืดเยื้อและแก้ไขยากขึ้นในอนาคต
รายงานประชุม กนง. ส่งสัญญาณไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย ประเมินเศรษฐกิจไทยขยายตัวเข้าสู่ระดับศักยภาพ และเงินเฟ้อขยับเข้ากรอบล่างเป้าหมายปลายปี 67 แต่กังวลหนี้เสียเริ่มขยายวงไปยังกลุ่มรายได้สูง พร้อมเฝ้าระวังกระทบเศรษฐกิจ
ธปท.เผยสถานการณ์หนี้ไทยยังแย่ต่อเนื่อง ตัวเลขหนี้เสีย หรือ NPL ในไตรมาส 2 ปี 67 ปรับเพิ่มขึ้นทั้งระบบ โดยเฉพาะหนี้เสียกลุ่มบัตรเครดิตและบ้านที่ขยับขึ้นมากสุด พร้อมจับตามการชำระหนี้ธุรกิจ SMEs และหนี้ครัวเรือน คาดอาจหนุนให้หนี้เสียทยอยเพิ่มขึ้นอีก
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติ 6 ต่อ 1 เสียง คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2.50% ต่อเนื่อง มองเศรษฐกิจไทยยังขยายตัว แต่จับตาใกล้ชิดสถานการณ์หนี้เสียที่แย่ลง หวั่นกระทบเศรษฐกิจประเทศ
มุมมอง ผู้ว่า ธปท. กับแรงปะทะทางการเมือง เป็นเรื่องปกติของธนาคารกลางทุกแห่ง โดยรัฐบาลส่วนใหญ่จะมีมุมมองแค่ระยะสั้นไม่คำนึงผลข้างเคียง พร้อมยอมรับว่าการที่นายกรัฐมนตรี นั่งควบตำแหน่ง รมว.คลัง ถือเป็นความท้าทายในการทำงานร่วมกัน
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไม่เห็นด้วยหากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะขึ้นดอกเบี้ย เพราะจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจ หรือฉุดเศรษฐกิจชะลอตัว